วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

พันธมิตรฯร้องปธ.ศาลฎีกาเดินหน้าคดีสลายชุมนุม 51 ค้าน ป.ป.ช.เตรียมถอนฟ้อง


18 พ.ค.2559 กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำโดย พิภพ ธงไชย นิติธร ล้ำเหลือ และมาลีรัตน์ แก้วก่า และประชาชนผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551 เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงประธานศาลฎีกา เพื่อขอความเป็นธรรมให้ดำเนินคดีตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล หลังจากมีกระแสข่าว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะขอถอนฟ้องในคดีดังกล่าว แม้คณะทำงานของ ป.ป.ช. จะมีความเห็นไม่ถอนฟ้องแล้วก็ตาม แต่กลุ่มพันธมิตรฯ ยังมีความกังวลในชั้นการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชุดใหญ่อยู่
โดย แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ยังยืนยันตามกฎหมาย ป.ป.ช.ว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไม่มีอำนาจขอถอนฟ้องคดี ยกเว้นคดีหมดอายุความ จึงต้องการให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองดำเนินคดีดังกล่าวต่อไป เพราะกลุ่มพันธมิตรฯเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของศาล  และจะต่อสู้คดีจนถึงที่สุด เพื่อไม่ให้มีการถอนฟ้อง แต่หากคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้ถอนฟ้อง ก็จะพิจารณาข้อกฎหมายเพื่อต่อสู้ต่อไป โดยเชื่อมั่นว่า ญาติผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ จะไม่ยอมให้มีการถอนฟ้อง
พิภพ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้ไปยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมที่สำนักงาน ป.ป.ช. มาแล้ว เนื่องจากผู้บาดเจ็บของกลุ่มพันธมิตรฯ ในเหตุการณ์ดังกล่าวไม่เห็นด้วยที่มีกระแสข่าวออกมาว่า ป.ป.ช. จะถอนฟ้องคดีคำสั่งสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ และแม้ว่าเมื่อวานที่ผ่านมาจะมีข่าวว่าคณะทำงานของ ป.ป.ช. จะไม่เห็นควรให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ถอนฟ้องคดี
       
แต่ทางกลุ่มพันธมิตรฯ ยังไม่อาจแน่ใจได้ว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชุดใหญ่ ที่มี พล.ต.อ.วัชรพล ประสานราชกิจ เป็นประธาน ป.ป.ช. จะพิจารณาเรื่องนี้อย่างไร จึงต้องมาขอความเป็นธรรม เพราะทางกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่เห็นด้วยในการถอนฟ้องคดีออกจากสารระบบ จึงอยากให้ศาลฎีกาพิจารณาเหตุผลตามที่ทางกลุ่มได้แนบเอกสารมา ทั้งนี้ แกนนำพันธมิตรฯ ยืนยันว่ามีความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม แต่หากคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติถอนฟ้องก็ต้องมาพิจารณาในประเด็นข้อกฎหมายอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรได้บ้าง
 
พิภพ ยังกล่าวอีกว่า อยากให้มาเข้าสู่กระบวนการต่อสู้คดี นำหลักฐานมาแสดงกันในศาลมากกว่า พร้อมเชื่อว่าถ้า ป.ป.ช.มีมติไม่ถอนฟ้องจะทำให้การดำเนินคดีเป็นไปอย่างเต็มที่
 
นิติธร กล่าวว่า ต้องขึ้นอยู่กับประธาน ป.ป.ช.ว่าจะพิจารณาและมีมติอย่างไรในวันที่ 26 พ.ค.นี้ ขณะเดียวกันก็มองว่าเป็นครั้งที่ 2 แล้วที่คณะทำงานมีความเห็นไม่ควรถอนฟ้อง และย้ำว่า พ.ร.บ.ป.ป.ช.ก็ไม่เปิดช่องให้สามารถถอนฟ้องคดีได้ด้วย
 

นปช.-ญาติเหยื่อสลายชุมนุม 53 ร้อง ป.ป.ช.ทบทวนมติหลังตีตกคดีฟ้องอภิสิทธิ์และพวก


แกนนำนปช.-ญาติเหยื่อสลายชุมนุม 53 ขอ ป.ป.ช. ชุดใหม่ ทบทวนมติกรณีตีตกคดี อภิสิทธิ์ กับพวกสลายการชุมนุม ขณะที่แม่พยาบาลเกดทำบุญครบ 6 ปีที่ วัดปทุม
19 พ.ค. 2559 เมื่อเวลา 10.00 น. ที่วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร พะเยาว์ อัคฮาด แม่ของ กมลเกด อัคฮาด พยาบาลอาสาที่ถูกยิงเสียชีวิตภายในวัดปทุม จัดพิธีจัดทำบุญรำลึกครบรอบ 6 ปีเหตุการณ์สลายการชุมนุมบริเวณแยกราชประสงค์ และถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์จำนวน 9 รูป โดยมี อีโว ซีเบอร์ เอกอัครราชทูตสหพันธรัฐสวิสเซอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาส ผอ.สำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า ประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ นักสิทธิมนุษยชน แทนคุณ จิตต์อิสระ อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ มาร่วมงาน
พะเยาว์กล่าวถึงคดีความว่า แม้คดีความจะถูกยกคำร้องไปแล้ว แต่การไต่สวนสาเหตุการตายชี้ชัดแล้วว่า คดี 6 ศพ วัดปทุมนั้นเกิดจากทหาร ขณะนี้กำลังปรึกษากับทนายความว่าจะยื่นฟ้องคดีอาญากับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายอย่างไรได้บ้าง คาดว่าภายในปีนี้จะยื่นฟ้องได้
สำหรับ กมนเกด นั้นเป็นพยาบาลอาสาที่เป็น 1 ในผู้เสียชีวิตในวัดปทุมฯ เมื่อวันที่ 19 พ.ค.53 จากการเข้าสลายการชุมนุมของ ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ซึ่งภายหลังศาลมีคำสั่งในคดีไต่สวนการตาย 6 ศพวัดปทุม ระบุว่า 1. เกิดจากการกระทำของเจ้าพนักงานทหาร 2. ผู้ตายทั้ง 6 ไม่มีคราบเขม่าดินปืนที่มือทั้งสองข้าง แสดงว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการใช้อาวุธปืนมาก่อน 3. การตรวจยึดอาวุธในวัดปทุมวนาราม ไม่น่าเชื่อว่ามีการตรวจยึดจริง และ 4. กรณีชายชุดดำ ไม่ปรากฏว่ามีชายชุดดำอยู่ในบริเวณดังกล่าว (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม)
ขณะที่แกนนำ นปช. และญาติวีรชน เมษา -พฤษภา 53 เดินทางมาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับวีรชน ณ วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน (ศาลาพระเทพสุเมธี)
โดย เวลา 10.00 น. แกนนำนปช.และญาติวีรชน เมษา - พฤษภา 53 เดินทางไป ป.ป.ช. เพื่อยื่นหนังสือขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชุดใหม่ ทบทวนมติ ป.ป.ช.เดิม กรณีให้ข้อกล่าวหากรณี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับพวกสลายการชุมนุมกลุ่ม นปช. ตกไป ด้วย
 แกนนำนปช.และญาติวีรชน เมษา - พฤษภา 53 เดินทางไป ยื่นขอให้ ป.ป.ช.ทบทวนมติ 

ศาลทหารไม่ให้ประกัน ‘หฤษฎ์-ณัฏฐิกา’ หลังทนายยื่นหลักทรัพย์คนละ 7 แสน


"พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้วเห็นว่า คดีมีอัตราโทษสูง หากปล่อยตัวชั่วคราวแล้วผู้ต้องหาทั้งสองอาจหลบหนี และอาจเป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่การสอบสวน ในชั้นนี้จึงไม่มีเหตุผลที่จะเปลี่ยนแปลงดุลยพินิจเดิม ให้ยกคำร้อง" คำสั่งศาล

19 พ.ค. 2559 เวลา 14.50 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัว หฤษฎ์ มหาทน และณัฏฐิกา วรธัยวิชญ์ ผู้ต้องหา 2 คนในคดีมาตรา 112 มาศาล เพื่อให้พนักงานสอบสวนขออำนาจศาลฝากขังเป็นผัดที่ 2 ทนายความจำเลยได้ยื่นขอประกันตัวโดยให้วางหลักทรัพย์รายละ 700,000 บาท ต่อมาศาลทหารมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกัน เพราะเป็นคดีร้ายแรง เกรงจะหลบหนีและไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนไม่อยู่ให้ศาลไต่สวน แต่ก็ได้คัดค้านการประกันตัวไว้ในเอกสารคำร้องแล้ว และศาลได้นำไปพิจารณาประกอบ

ทั้งนี้ หฤษฎ์และณัฏฐิกา ถูกเจ้าหน้าที่ทหารบุกจับกุมพร้อมกับบุคคลอื่นอีก 6 คนรวมเป็น 8 คนเมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา พวกเขาถูกกล่าวหาว่ารับจ้างมาเป็นแอดมินและจัดการเนื้อหาในเพจเฟซบุ๊กเสียดสีการเมือง 'เรารัก พล.อ.ประยุทธ์' ทั้ง 8 คนถูกนำมาแถลงข่าวในวันที่ 28 เม.ย.และแจ้งข้อกล่าวหา มาตรา 116 ปลุกระดมปลุกปั่นให้ประชาชนกระด้างกระเดื่อง และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(1),(2),(3) และถูกนำตัวไปฝากขังยังศาลทหาร ศาลอนุมัติและส่งเข้าเรือนจำ วันต่อมา 29 เม.ย. มีรายงานข่าวว่าศาลทหารได้อนุมัติหมายจับเพิ่มเติม คือ หฤษฎ์และณัฏฐิกา ในข้อหามาตรา 112 โดยอ้างเหตุกรณีการพูดคุยส่วนตัวกันในกล่องข้อความ (แชต) ในเฟซบุ๊ก ต่อมาหฤษฎ์ จำเลยได้ให้ข่าวตั้งข้อสังเกตว่าการได้หลักฐานของเจ้าหน้าที่อาจกระทำไปโดยมิชอบ และเกิดกระแสไม่ไว้วางใจบริการเฟซบุ๊กในโซเชียลเน็ตเวิร์ก จากนั้นตำรวจได้ออกมาชี้แจงว่าหาหลักฐานโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าได้มาโดยวิธีใด

หลังจากนั้นมีการยื่นประกันตัวทั้ง 8 คนอีกสองครั้ง และในท้ายที่สุดในการฝากขังผัดที่ 2 เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมา ศาลทหารอนุญาตให้ประกันตัวทั้ง 8 รายโดยวางหลักทรัพย์คนละ 200,000 บาท อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการปล่อยตัวทั้ง 8 คน ตำรวจก็ได้เข้าอายัดตัว หฤษฎ์และณัฏฐิกาไปควบคุมตัวต่อในข้อหามาตรา 112 โดยทันที