กรณีอียูเรียกร้องปล่อยตัว 14 นักกิจกรรม "ประชาธิปไตยใหม่" พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำจะไม่ชี้แจงเพราะกฎหมายคือกฎหมาย ประเทศไทยคือประเทศไทย ใครเรียกร้องประชาธิปไตยให้รอวันเลือกตั้งโน่น นักศึกษาทั้งประเทศไม่ได้มีแค่ 14 คน ที่เคยคุยด้วยกันดีๆ ยังมีอีกเยอะ ที่ผ่านมาใช้อำนาจถูกต้อง-ยังไม่ได้ทำผิดรัฐธรรมนูญ คสช. - ส่วนที่ จ.เลย ชาวบ้านชูป้ายไล่ "ดาวดิน" ถึงศาลากลาง
วิษณุ เครืองาม ย้ำว่า 14 ผู้ต้องหาฝืนคำสั่ง คสช. ต้องขึ้นศาลทหารเท่านั้น
1 ก.ค. 2558 - กรณีที่นักศึกษาและนักกิจกรรม "ขบวนการประชาธิปไตยใหม่" ที่ถูกจับกุมทั้ง 14 คน โดยไม่ขอประกันตัว และต้องถูกดำเนินคดีที่ศาลทหารในความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 3/2558 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 นั้น
มติชนออนไลน์ รายงานคำให้สัมภาษณ์ของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนร่วมประชุม ครม.สัญจร ที่เชียงใหม่เมื่อวานนี้ (30 มิ.ย.) ว่า ถ้าหากไม่มีการยื่นประกันตัวต้องอยู่ในการควบคุมของศาลทหารที่มีการกำหนดไว้อยู่แล้วว่าจะมีการควบคุมตัวไว้กี่ผลัดผลัดละกี่วันซึ่งเมื่อไม่ขอประกันตัวก่อนยื่นฟ้องก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอน และหากครบกำหนดควบคุมตัวแล้วศาลไม่ฟ้อง หรือ หากฟ้องไม่ทันก็จะต้องปล่อยตัว แต่หากมีการฟ้องร้องก็อยู่ในอำนาจของศาลที่จะควบคุมตัวได้ตลอดจนกว่าจะมีการตัดสิน นอกจากนี้กรณีที่นักศึกษาจะขอโอนย้ายคดีไปยังศาลพลเมืองแทนศาลทหารไม่สามารถทำได้เพราะกฎหมายกำหนดชัดเจนว่าคดีดังกล่าวจะต้องขึ้นศาลทหารเท่านั้น
พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ชี้แจงสหภาพยุโรป เพราะกฎหมายคือกฎหมาย ประเทศไทยคือประเทศไทย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. และนายกรัฐมนตรีแถลงข่าวหลังประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติฯ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2558 (ที่มา:เว็บไซต์รัฐบาลไทย)
สำหรับความเห็นของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. และนายกรัฐมนตรี ซึ่งกล่าวระหว่างแถลงข่าวของการประชุม ครม.สัญจร ที่ จ.เชียงใหม่ กรณีที่สหภาพยุโรป ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยตัวนักศึกษาและนักกิจกรรม 14 คน ดังกล่าว
(อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวช่วงหนึ่งของการแถลงข่าวว่า "ผมไม่ชี้แจงอยู่แล้ว เพราะกฎหมายคือกฎหมาย ประเทศไทยคือประเทศไทย ผมให้โอกาสมาตลอดเวลานะ วันนี้ต้องนึกถึงคนอื่นเขาบ้างสิ นะ กฎหมายถ้าอันนี้ทำ อันนี้ไม่ทำมันจะได้ไหมล่ะ แล้ววันหน้ามันจะมีอีกไหมเล่า เขาทำอะไร เขาแสดงความคิดเห็นที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ไหม เกี่ยวกับเรื่องพัฒนากับผมไหม เรื่องปฏิรูปประเทศไหมล่ะ มาสิ"
"แต่ถ้ามาโต้แย้งกับผม ไม่ใช่อย่างนั้น เขาไม่เรียกการแสดงความคิดเห็น ก็วันนี้ก็รู้อยู่มันเป็นสภาวะอะไร รู้ว่าผมอยู่อย่างไร ผมยังรู้เลย แล้วท่านไม่รู้หรือ? หา! ท่านไม่รู้หรือว่าประเทศชาติมันมีปัญหาตรงไหนหรือไง นะวันหน้าพอเขาเลือกตั้งกันมาโน่นท่านไปทำตรงโน้น ที่ผ่านมาผมก็ให้ทำมาตลอดน่ะแหละ จนมาถึงว่ามันไปไม่ได้แล้ว ผมถึงต้องมาทำไง จะสำเร็จหรือไม่สำเร็จก็ไม่รู้เหมือนกัน ก็เพราะคนถามนี่ถามโน่นที่ไม่เข้าใจผมนี่แหละ มันจะเสร็จได้ไงล่ะ วันสองวัน มันจะเสร็จได้ไหม ผมอยากจะให้มันเป็นอย่างนี้หรือ ผมไม่ได้อยากเลยนะ ไม่ได้อยากมายืนตรงนี้ด้วยซ้ำไป พูดไม่รู้กี่ครั้งแล้ว พูดอยู่นั่นแหละว่าต้องอำนาจ อำนาจ ไอ้พวกไปเขียนในสื่อ บางคนน่ะนะ แล้วหาว่าผมไปทะเลาะกับสื่ออีก
ถามสื่อจะให้นำ 14 นักกิจกรรม "มาแห่แหนชื่นชมหรือไง?" ย้ำนักศึกษาทั้งประเทศไม่ได้มีแค่ 14 คน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อไปว่า "ใช้อำนาจตรงไหนวะ อำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินเขาเรียกว่าอำนาจหรือ การใช้อำนาจที่ผิดหรือ ใช้อำนาจในทางที่ถูกต้องด้วยนะ ไม่ได้ไปละเมิดอะไรใคร เว้นแต่คนที่ไม่ปฏิบัติตามกติกา ที่ผมจำเป็นต้องใช้ เท่านั้นเอง คุณจะให้ผมทำอย่างไร เอามาแห่แหนชื่นชมหรือไง?"
"ผมต้องขอบคุณนักศึกษาทุกองค์กรนะ ไม่ได้มีแค่ 14 คน ทั้งประเทศมีเท่าไหร่ เขาร่วมมือกับผมแค่ไหน คุณไปดูสิคนดีๆ ผมไปไหนมาไหนก็มาชื่นชม ขอให้ผมทำให้เขา เด็กนักเรียน ประถม มัธยม มหาวิทยาลัยก็เยอะส่วนดีๆ ไป ลุงดูหนูด้วยนะคะ ดูการศึกษาให้หนูด้วย ดูอนาคตให้หนูด้วย ดูเรื่องอาชีพ เรื่องรายได้ แต่พวกนี้จะเอาประชาธิปไตยอย่างเดียว เลือกตั้ง ก็ไปเลือกเอานั่น เดี๋ยวเขาก็มีเลือกนะ ตอนนี้รัฐธรรมนูญผมผิดตรงไหนไหม ผมทำอะไรผิดรัฐธรรมนูญหรือยัง (ชี้ไปทางนักข่าว) รู้ไหมว่ารัฐธรรมนูญเขียนว่าอย่างไร รู้หรือยัง ไม่รู้อีก แล้วอย่างนี้จะไปกันเจอไหมวะเนี่ย"
ยันยังไม่ได้สืบทอดอำนาจ ทุกอย่างเป็นตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว
"รัฐธรรมนูญชั่วคราวเขียนว่าอย่างไร ประเทศจะไปสู่ประชาธิปไตยก็เมื่อมีรัฐธรรมนูญ ตอนนี้เสร็จหรือยัง ยัง ผ่านหรือไม่ผ่าน สปช. ยังไม่รู้ เมื่อผ่าน สปช. แล้ว รัฐธรรมนูญเขียนว่าอย่างไร ต้องไปทำประชามติใช่ไหม ตอนนี้อยากทำใช่ไหม ก็ไปทำ พอแก้ให้ ก็บอกว่าผมต้องการสืบทอดอำนาจ ใช่ไหม เขียนแบบนี้ใช่ไหม ก็ถ้าท่านอยากให้ผ่านรัฐธรรมนูญ ท่านก็ผ่านประชามติมา"
"พอท่านบอกต้องทำประชามติ ประชาชนต้องมีส่วนร่วม ก็ทำไปสิ ทำไปอีก 3 เดือน ผมเป็นคนยื่นหรือ ผมเป็นคนยื่นว่าอยากอยู่หรือ กฎหมายเขาเขียนอย่างนั้น ให้มันรู้เสียบ้าง อะไรคือกฎหมาย จากนั้นทำกฎหมายลูกอีกสองเดือน มันก็อยู่ในแผนของรัฐธรรมนูญชั่วคราวทั้งสิ้น ยังไม่ได้แก้อะไรสักตัวเลย แต่ถ้าจะทำประชามติ ท่านต้องไปแก้รัฐธรรมนูญตรงนั้นให้ทำประชามติได้ เพราะรัฐธรรมนูญยังไม่ได้เขียนว่าให้ทำประชามติ อย่ามาพันกันสิ พันกันไปกันมาปวดหัว" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงขั้นตอนร่างรัฐธรรมนูญ
ส่วนเรื่องที่ผู้สื่อข่าวถามว่า ห่วง สปช. หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ไม่ห่วงอะไรเลย จากนั้นชี้ไปยังนักข่าวที่ถามว่า "ถามมาตั้งแต่อยู่กรุงเทพฯ แล้ว" "ไม่ห่วง ถ้าห่วงจะมายืนตรงนี้ไหม เลิกถามว่าห่วงไม่ห่วง พอแล้ว"
ทั้งนี้หลังเสร็จสิ้นภารกิจที่ จ.เชียงใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะรัฐมนตรีได้เดินทางต่อไปยัง จ.พิษณุโลก
13 ผู้ต้องหาคดีฝืนคำสั่ง คสช. เขียนจดหมายอธิษฐานให้ พล.อ.ประยุทธ์ รู้จักหลักประชาธิปไตยใหม่ 5 ข้อ
โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. นักศึกษาและนักกิจกรรมชาย 13 คน ที่ถูกคุมขังภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ได้เขียนข้อความด้วยลายมือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า "จดหมายจาก 13 เชลย ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)"
"นับเป็นวันที่ 3 แล้ว ที่เราถูกคุมขังภายใต้คำสั่งของหัวหน้าคสช. ที่ 3/2558 ภายในเรือนจำแห่งนี้ แม้เราจะมีอาหารกินครบสามมื้อ แต่ทุกๆ มื้อ ก็เป็นการกินที่ปราศจากเพื่อน และคนที่เรารู้จักที่เคยร่วมโต๊ะอาหาร เราไม่เห็นแววตาพวกเขา และแน่นอนว่าพวกเราคิดถึงพวกเขา แม้ว่าพวกเราจะมีที่หลับนอน มีชายคากันแดดและฝน แต่มันจะไม่เป็นเหมือนบ้าน ไม่มีรอยยิ้มของพ่อแม่ ไม่มีอ้อมกอดอบอุ่นจากคนที่เรารัก แม้ว่าเรายังมีลมหายใจ แต่ก็เป็นลมหายใจที่ไกลห่างจากหนทางของความฝัน ลมหายใจที่เรามีอยู่ในวันนี้ เป็นลมหายใจที่รอคอยการพบกับเสรีภาพในวันข้างหน้า โดยที่เราไม่รู้ เมื่อวันนั้นมาถึง เราจะยังมีความฝันอยู่หรือไม่ แม้เรามีกำลังใจที่เต็มเปี่ยม เมื่อนึกถึงการต่อสู้ของเพื่อน ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ โดยหวังหลักการ 5 ข้อ คือ ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน ความยุติธรรม การมีส่วนร่วม และสันติวิธี ทั้งนี้ เราอธิษฐานให้พล.อ.ประยุทธ์ ผู้ออกคำสั่งในการจองจำเราได้ตระหนัก และเข้าใจถึงความสำคัญของหลักการดังกล่าว"
กำนันเขาหลวงยื่นหนังสือศาลากลาง จ.เลย ไม่ต้อนรับ "ดาวดิน"
กำนัน ต.เขาหลวง และมวลชนเดินทางมาประท้วงกลุ่มดาวดินที่ศาลากลาง จ.เลย เมื่อ 30 มิ.ย. 58 (ที่มาของภาพ: หนังสือพิมพ์เลยไทม์ออนไลน์)
ส่วนความเคลื่อนไหวอื่นๆ เพจของ
หนังสือพิมพ์เลยไทม์ออนไลน์ รายงานด้วยว่า เมื่อเวลา 09.30 น. วานนี้ (30 มิ.ย.) ที่ศาลากลาง จ.เลย ชาวบ้าน ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง มาชุมนุมต่อต้านกลุ่มดาวดิน ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของ "ขบวนการประชาธิปไตยใหม่" โดยระบุว่าขอให้หยุดแอบอ้างชาวเขาหลวงเคลื่อนไหวทางการเมือง
ทั้งนี้ใน
มติชนออนไลน์ ระบุว่า ผู้ที่เคลื่อนไหวคือ สมบัติ ต้นคำ กำนัน ต.เขาหลวง ในนาม "ชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำบลเขาหลวงและชาวบ้าน" โดยมายื่นหนังสือต่อ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผวจ.เลย พล.ต.เถลิงศักคิ์ พูลสุวรรณ ผบ.จทบ.เลย พล.ต.ต.ศักดา วงศ์ศิริยานนท์ ผบก.ภจว.เลย
ผู้สื่อข่าวประชาไท รายงานเพิ่มเติมว่า ชาวบ้านที่เดินทางมาศาลากลาง จ.เลย กลุ่มดังกล่าว เป็นคนละกลุ่มกับ "กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด" ซึ่งเคลื่อนไหวต่อต้านกรณีที่บริษัททุ่งคำได้รับประทานบัตรทำเหมืองทองคำที่ภูทับฟ้า อ.วังสะพุง จ.เลย ซึ่งกลุ่มดังกล่าวเห็นว่าการผลิตและขุดแต่งแร่ ทำให้ชุมชนได้รับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะการปนเปื้อนของลำน้ำสาธารณะจากสารเคมีที่ใช้ในเหมืองแร่