วันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2555


จุดยืนของสอาด  กับท่านทักษิณ ชินวัตร

จุดยืนของสอาด  กับท่านทักษิณ ชินวัตร

โดย...”สอาด จันทร์ดี”

            กระแสของคนเสื้อแดงในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความร้อนแรงยิ่งกว่าฟ้าสะเทือน  ทำให้ฝ่ายตรงข้ามของท่านอดีตนายกรัฐมนตรี  “พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร” ได้ทีขี่แพะไล่ พากันออกอากาศ “ด่าทอ” สนุกปากไปเลย  ทำให้คนเสื้อแดงส่วนหนึ่งพลอยเป็นเหยื่อในกระแสดังกล่าว   แล้วก็พากันวิพากษ์วิจารณ์สุดเหยียด จนลืมไปว่าการคล้อยตามกระแสดังกล่าว คือการกรอกยาพิษใส่ปากตัวเอง

            ในเว็ป pchannelnews.com ตรงนี้ก็มีความเห็นดาษดื่นที่แสดงความคิดเห็นเล่นงานท่านทักษิณอย่างหนัก  โดยที่ผมไม่ได้กีดกันแต่อย่างใด  จนทำให้หลายคนเข้าใจว่าผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เริ่มมีอารมณ์กับท่านทักษิณเช่นเดียวกับคนอื่นที่กำลังโหนกระแสอยู่ในขณะนี้

            ผมขอกราบเรียนว่าผมมี “จุดยืน” กับท่านทักษิณอย่างมั่นคง  โดยไม่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น  ทั้งนี้ก็เพราะผมเป็นคน “นอกระบบ” ที่ไม่มีทางจะได้ดีทางการเมือง ผมไม่เหลืออะไรเอาไว้เพื่อการต่อรองและไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้อง “กอด” ท่านทักษิณ เพื่อความอยู่รอดของตัวเอง

             ดังนั้น ผมจึงอยากเขียนแสดงตัวตนอันเป็นจุดยืนของผม ดังนี้

             ขอกล่าวว่านับแต่ปี พ.ศ. 2504 เป็นต้นมา  ผมเพิ่งจะได้พบ “นักการเมือง” ระดับนายกรัฐมนตรี คือฯพณฯ พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร เป็นคนแรกที่สามารถ “เข้าใจ” ต่อแนวทางแก้ปัญหาให้แก่ประชาชนผู้ยากไร้ ซึ่งก่อนหน้านั้น ผมเคยได้ยินแต่คำพูด แต่เอาเข้าจริง ไม่มีใครทำได้  ผมต้องคอยถึง  44 ปี จึงได้มีคนที่ทำได้จริง คือ ฯพณฯ พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร



                      Serichon


           แต่ทว่า...สิ่งที่ท่านผู้นี้ทำได้  ได้กลายเป็น “หอกทิ่มแทง” ต่อชะตาชีวิต ท่านถูกลอบสังหาร หวังจะฆ่าให้ตาย รวมทั้งถูกปฏิวัติรัฐประหาร ถูกใส่ร้ายป้ายสีหาว่าฝักใฝ่อยากเป็นประธานาธิบดี  ถูกพิพากษาให้ติดคุก ถูกไล่ล่าข้ามทวีป ถูกยึดทรัพย์ และถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ก่อการร้าย กลายเป็นหัวหน้าล้มล้างสถาบันหรือ “ล้มเจ้า”  ดังที่ทุกท่านเคยได้ยินมาจนแก้วหูแทบแตก

             ท่านทักษิณถูกกระทำอย่างทารุณโหดร้าย ราวกับว่าท่านผู้นี้ไม่ได้มีคุณงามความดีแม้แต่น้อย และสุดท้าย แม้ว่าพรรคเพื่อไทยจะได้เป็นรัฐบาลแล้วก็ตามก็ยังไมมีว่าแววว่าจะได้กลับบ้าน นอกจากจะไม่มีวี่แววให้เห็น ยังมีข่าวดังกระหึ่มอยู่ตลอดเวลาว่า  กลับมาเมื่อไหร่ ตายเมื่อนั้น

             สิ่งเหล่านี้ ย่อมเป็นที่ตระหนักแก่ใจของคนเสื้อแดง
             ตัวของท่านทักษิณเองก็ตระหนักแก่ใจของตนเองอย่างยิ่ง

             ปัญหาที่ทำให้เกิดความขัดเคืองในหัวใจของคนเสื้อแดงก็คือ  ทุกคนอยากเห็น ฯพณฯ พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่  เก่งกล้าสามารถ ประเภทยอมหัก ไม่ยอมงอ

             ตรงนี้เอง คือปัญหาที่กำลังทะลักขึ้นสู่ทรวงอกของคนเสื้อแดงที่มีอารมณ์เกรี้ยวกราดทันทีที่ได้รับฟังการแสดงออกด้วยการพูดของ พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ทั้งจากเวทีของ “เพชร จอมประดับ” และเวทีสี่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2555

             ในค่ำคืนวันนั้น ผมแหวกมวลมหาประชาชนขึ้นไปบนเวทีได้สำเร็จ มองลงไปด้านล่างพบภาพตระการตาของคนเสื้อแดง  แดงสะพรั่งเหมือนต้นดอกจานกลางทุ่งกุลาร้องให้  ผมมองดูภาพในค่ำคืนวันนั้นด้วยความประทับใจสุดจะบรรยายได้

             แต่นอนที่สุด...หัวใจของพ่อแม่พี่น้องที่หลั่งไหลมาจนแน่นราชประสงค์ ล้นไปถึงสวนลุมฯ  ย่อมจะแตกต่างจากหัวใจที่เคยชุมนุมในหลายๆครั้งที่ผ่านมา  ทั้งนี้ก็เพราะหัวใจ “19 พค.55” มันเป็นหัวใจอยากไล่จับไอ้ตัวฆาตกรเอาลงโทษให้ได้

             ฆาตกรที่เห็นอยู่เต็มตาคือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
              และฆาตกรอีกคนคือนายสุเทพ เทือกสุบรรณ

              ดังนั้น  หัวใจที่เดือดปุดๆ  มันย่อมไม่อยากได้ยินคำพูดปลอบประโลมใดๆอีกแล้ว
เพราะในหัวใจอยากฟังว่าใคร..คนไหน จะเป็นแม่ทัพ  ไล่จับตัวฆาตกรเอามาลงโทษ  ผมว่านะถ้ามีใครอ่านหัวใจพ่อแม่พี่น้องคนเสื้อแดงในค่ำคืนวันนั้นออกและตรงประเด็น...แล้วพูดออกมาให้ได้ยินด้วยหูว่า  จะไม่ปล่อยให้สองฆาตกรร้ายลอยนวล  ผมก็เชื่อว่าเสียงไชโห่ร้องจะดึงกระหึ่ม กึกก้อง

              ใช่...เสียงปรบมือดังแผ่นเบา  พร้อมกับเสียงบ่นพึมพำดังกระหึ่มไปจนทั่ว  แล้วก็กลายเป็นขี้ปากให้ฝ่ายค้าน  ถือเป็น “จุดบอด”  ที่ท่านทักษิณกำลังก้าวพลาด

              พลาดก็พลาด...ให้พลาดไป  แล้วเริ่มต้นใหม่ไม่ยากเลย (ผมว่า)

              นั้นก็คือคนเสื้อแดงเองก็อย่าคิดว่า “ขาดทักษิณ” แล้วจะชนะอำมาตย์ได้อย่างสดใส
              คนเสื้อแดงอย่าได้บังคับให้ทักษิณกลายเป็นกระทิงบ้า  ไล่ขวิดโดยไม่เลือกเป้า 
 

              ประการสำคัญ  คนเสื้อแดงจงรีบลับดาบและเขี้ยวเล็บในยุทธศาสตร์แห่งการปฏิวัติ  ที่จะต้องจัดการกับแนวคิดของตนเองให้ล้ำเลิศ  เฉิดฉาย ให้รู้ว่าซุ่มซ่อนยาวนาน รอคอยโอกาส ไม่ได้หมายถึง 100 วันข้างหน้า  มันอาจจะเนิ่นนานเป็น 10 ปีก็ได้

              ที่สำคัญที่สุด  ขอให้คนเสื้อแดง ยืนอยู่ข้างทักษิณ  ยิ่งลักษณ์  พรรคเพื่อไทย  บ้านเลขที่ 111 และรวมถึงแกนนำน้อยใหญ่ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ แล้วจงไตร่ตรองให้ดีว่า ถ้าสติปัญญาของคนเสื้อแดงผนึกเข้าและรวมกันเป็นหนึ่งได้  ไม่หวั่นไหวกับ “คำพูด” เพียงไม่กี่ประโยคที่หูได้ยิน  ก็จะก้าวผ่านความพ่ายแพ้ไปได้ในเวลาไม่กี่ปี ไม่นานเกินรอ คนเสื้อแดง...ชนะแน่ ?!

               ผมจึงขอประกาศ “จุดยืน” ของผมให้ทราบว่า  ผมถือ พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร เป็นแม่ทัพใหญ่ในเวทีการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ที่แสนจะแหลมคม...และลี้ลับ   ซึ่งจุดยืนของผม ยืนอยู่ข้าง พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ  ชินวัตรอย่างไม่มีเงื่อนไข  และพร้อมเสมอที่จะทำงานให้โดยไม่เรียกร้องค่าตอบแทน  โดยขอประกาศถวายหัวว่าการทำงานทั้งปวง  แปรมาเป็นกองหนุนให้กับเครือข่ายของคนเสื้อแดง แดงทั้งแผ่นดิน...คือ “นปช.” กับพรรคเพื่อไทย .

                            “สอาด จันทร์ดี”

http://redusala.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น