;
วันที่ 31 ธันวาคม 2555 (go6TV) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
กล่าวคำปราศรัยเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2556 ดังนี้ พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รักทั้งหลาย
เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2556 นี้
ดิฉันในนามของคณะรัฐมนตรี ขอส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดีมายังพี่น้องประชาชนทุกท่าน
และขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่าพร้อมใจกันตั้งจิตอธิษฐาน
อาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล
โปรดดลบันดาลประทานพรให้พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ทรงพระเกษมสำราญ พระเกียรติคุณแผ่ไพศาล
ทรงสถิตเป็นมิ่งขวัญร่มเกล้าเหล่าพสกนิกรตราบกาลนิรันดร์เทอญ
วันปีใหม่จะเป็นเพียงวันหนึ่งวัน
หากเราไม่ให้ความสำคัญ และไม่สร้างการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น ดังนั้น
ปีใหม่จะเป็นปีใหม่ได้ก็ต่อเมื่อเราเริ่มต้นและลงมือทำสิ่งใหม่ๆ
และสิ่งใหม่ที่จะทำ ต้องเป็นสิ่งที่ทำให้ปีใหม่เป็นปีที่ดีขึ้น
หนึ่งปีที่ผ่านมา
รัฐบาลได้แก้ปัญหาเร่งด่วนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
และรับมือกับปัญหาที่ประเทศไทยได้เผชิญทั้งภายในประเทศ และภายนอกประเทศ ด้วยความร่วมมือจากทุกฝ่าย
ทำให้รัฐบาลสามารถประคับประคองประเทศให้ผ่านพ้นเวลาแห่งความยากลำบาก
โดยเฉพาะวิกฤตมหาอุทกภัยมาได้
จึงขอถือโอกาสนี้
ขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกคนที่ให้กำลังใจและให้การสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาลในปีที่ผ่านมา
และขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างเต็มกำลังความสามารถ
จนสามารถนำพาประเทศของเราให้ก้าวเดินได้อย่างมั่นคงต่อมา
ปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้
รัฐบาลมีแผนที่จะวางรากฐานพัฒนาประเทศให้ยั่งยืน
เพื่อวางรากฐานการพัฒนาประเทศในอนาคต และปีข้างหน้าจะเป็นปีแห่งการเริ่มต้นของโอกาสที่จะเพิ่มขึ้น
เพื่อให้ลูกหลานของเรามีชีวิตที่ดี
และได้อยู่ในสังคมที่เต็มไปด้วยโอกาสอย่างเท่าเทียมกันในทุกพื้นที่ของประเทศ
เรามาร่วมกันเตรียมความพร้อมเพื่อรับโอกาสที่จะเกิดขึ้น
พร้อมทั้งนำความคิดบวกมาเป็นพลัง ร่วมกันลงมือทำสิ่งใหม่ เพื่อให้ความหมายกับปีใหม่
ช่วยกันทำให้ปีนี้เป็นปีที่ดีกว่าปีที่ผ่านๆ มา สำหรับคนไทยทุกคน
รัฐบาลจะทำงานอย่างหนักเพื่อตอบแทนความไว้วางใจที่ได้รับจากท่าน
และทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแห่งโอกาสสำหรับคนไทยทุกคน
รวมทั้งยกระดับการพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้า ให้ประเทศไทยมีความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ
เหมือนเมื่อครั้งที่ประเทศไทยเคยมีแนวโน้มที่จะก้าวขึ้นเป็นประเทศชั้นนำในเอเชีย
แต่เพราะความขัดแย้งทางการเมือง 5-6 ปีที่ผ่านมา
ขีดความสามารถในการแข่งขันกลับชะลอหรือถดถอยลงในหลายด้าน
“ดิฉันอยากเห็นคนไทยยึดมั่นในแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ที่ได้พระราชทานในการเสด็จออกมหาสมาคม ในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พุทธศักราช
2555 ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2555
ที่ทรงเห็นว่าความเมตตาและความปรารถนาดีต่อกันของคนไทย
เป็นปัจจัยอย่างสำคัญที่จะยังความพร้อมเพรียงให้เกิดมีขึ้นทั้งในหมู่คณะและชาติบ้านเมือง
ถ้าคนไทยเรายังมีคุณธรรมข้อนี้ประจำอยู่ในจิตใจ ก็มีความหวังได้ว่า
บ้านเมืองไทยจะอยู่รอดปลอดภัย และดำรงมั่นคงต่อไปได้ตลอดรอดฝั่งอย่างแน่นอน”
ดังนั้น ดิฉันขอให้ปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้
เป็นปีแห่งการคิดบวก เป็นปีที่คนไทยจะเข้าใจกันมากขึ้นด้วยความรัก
ความปรารถนาดีที่มีให้แก่กัน
เพราะเชื่อว่าทุกคนต่างก็ต้องการที่จะมีความสุขในชีวิต
ต้องการให้ความปรองดองให้เกิดขึ้นในสังคมไทย และอยากเห็นประเทศไทยก้าวไปข้างหน้า
เพื่ออนาคตของประเทศไทยและคนไทยทุกคน
ขอให้ทุกท่านหยุดที่จะหยุดประเทศไทยด้วยความขัดแย้งทางความคิด
แต่ขอให้ก้าวข้ามความขัดแย้ง และแสดงออกทางการเมืองอย่างสร้างสรรค์
รับฟังและพยายามที่จะทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน
โดยยึดวิถีทางประชาธิปไตยบนพื้นฐานของความเมตตาและความปรารถนาดีต่อกัน
ในวาระขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2556 นี้
ดิฉันขออัญเชิญคุณพระรัตนตรัยและอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกท่านเคารพนับถือ อีกทั้งพระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
โปรดดลบันดาลประทานพรให้พี่น้องชาวไทยทุกคนประสบแต่ความสุข ความเจริญ
มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง
และเป็นพลังสำคัญในการสร้างสรรค์พัฒนาชาติบ้านเมืองให้ก้าวหน้ารุ่งเรืองยิ่งๆ
ขึ้นไป |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น