วันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2555

อภิสิทธิ์ VS. กรณ์ *เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด*!..


อภิสิทธิ์ VS. กรณ์ *เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด*!... 
ปลายอ้อ กอแขม

          ช่วงหลังๆมานี่ กรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค และรัฐมนตรีคลังเงา ของพรรคประชาธิปัตย์ ดูหน้าตามีสง่าราศีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เหมือนมีแสงออร่าในตัวเอง ในขณะที่เพื่อนรักนักเรียนออกซ์ฟอร์ดอย่างอภิสิทธิ์ กลับดูหน้าตาหมองคล้ำลงไป เหมือนแสงแห่งมรณะกาลเริ่มจับผิว..อาจเป็นลางร้าย

          ในขณะที่กระแสข่าวลือข่าวปล่อยหนาหูว่า ในพรรคประชาธิปัตย์ อาจจะมีการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคจากอภิสิทธิ์ ด้วยเหตุผลหลายประการ ทั้งวุฒิภาวะ ภาวะผู้นำ กระแสสังคม และคดีความต่างๆที่อภิสิทธิ์ซึ่งกำลังผจญอยู่นี้ กรณ์ก็คือตัวเลือกที่มีโอกาสสูงคนหนึ่ง ที่จะถูกดันให้ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค..หนุ่มนักเรียนนอกเหมือนกัน

           เมื่อเทียบหน่วยต่อหน่วย มิลต่อมิล ระหว่างอภิสิทธิ์กับกรณ์แล้ว กรณ์ไม่ได้เป็นรองอภิสิทธิ์แม้แต่น้อย ทั้งชาติตระกูล ฐานะ การศึกษา ความรู้ สถานะสังคม บุคลิกภาพ เรียกได้ว่าเป็นลูกผู้ดีมีตระกูลที่ทัดเทียมกัน แถมกรณ์ยังได้เปรียบ..เพราะตัวสูงกว่า

           ที่สำคัญ กรณ์ยังสด สะอาดกว่าอภิสิทธิ์ เพราะยังไม่มีตราประทับที่เสียหายใดๆ ในทางการเมืองมากเท่าอภิสิทธิ์ที่ใบหน้าฟกช้ำ ร่างกายเต็มใบด้วยริ้วรอยบาดแผล แม้บางครั้งคำพูดของกรณ์จะตะแบงๆไปบ้าง แต่ในสายตาชาวบ้านแล้ว กรณ์ก็ยังไม่แถแหลก ค้านทุกเม็ด พูดทุกเรื่อง ด่าทุกคนเท่าอภิสิทธิ์ ..ดูมีเหตุมีผลมากกว่า
เชื่อว่าขณะนี้ ผู้อาวุโสในพรรคประชาธิปัตย์เอง ก็ต้องการเปลี่ยนตัวอภิสิทธิ์ออกมา และดันกรณ์ขึ้นแทน เพื่อรักษาพรรคและภาพลักษณ์ “พรรคผู้ดี”ไว้ แต่ก็ต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อไม่ให้พรรคแตก เพราะอภิสิทธิ์ เอง ได้ทำการป้องกันตัวไว้แต่แรกๆ โดยดึง“กลุ่มเด็กแว้น” เอามาคุมตำแหน่งสำคัญๆในพรรคไว้มากพอสมควร..จึงไม่ใช่เรื่องง่าย

           หากจับสัญญาณดูดีๆ ระยะหลังๆ มีอะไรแปลกๆเกิดขึ้นกับตัวอภิสิทธิ์หลายอย่าง เหมือนมีความจงใจจะทำลายความน่าเชื่อถือของอภิสิทธิ์ให้หมดลงไป โดยจะเห็นข้อมูลหรือเอกสารลับๆที่เป็นด้านลบของอภิสิทธิ์ ที่อยู่ๆก็หลุดออกมาสู่สาธารณะอย่างผิดปกติ ผสมกลมกลืนกับเหตุการณ์ภายนอกที่อภิสิทธิ์กำลังประสบอยู่อย่างเหมาะเจาะ จงใจ..เหมือนเกลือเป็นหนอน

           อภิสิทธิ์นั้น ก็เหมือนจะรู้ตัว ว่ากรณ์เป็นคู่แข่งคนสำคัญ ที่จะต้องกำจัด ตัดไฟแต่ต้นลม เขี่ยให้พ้นจากวิถีทาง จึงเสนอหรือพยายามจะยัดเยียดให้กรณ์ไปเป็น “แคนดิเดท”ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ร่วมกับหม่อมสุขุมพันธุ์ให้ได้ ..ชิงลงมือก่อนได้เปรียบ

            แต่กรณ์ ก็เท่าทันเหลี่ยม รู้เชิงเพื่อนรัก จึงปฏิเสธ “ความหวังดีประสงค์ร้ายของอภิสิทธิ์”ออกสื่อชนิดไม่เหลือเยื่อใย ไม่สนใจผู้ว่าฯกทม. แม้อภิสิทธิ์จะสำทับว่า “ถ้าหากเป็นมติพรรคแล้ว นายกรณ์ก็ปฏิเสธไม่ได้”..กรณ์ก็ทำเป็นไม่ได้ยิน

            “สงครามชิงหัวหน้า” ในพรรคประชาธิปัตย์ขณะนี้ ถือว่ากรณ์ได้เปรียบอยู่มาก เนื่องจากอภิสิทธิ์ถูกมรสุมทางการเมืองกระหน่ำชนิดลืมหูลืมตาไม่ขึ้น แต่กรณ์นั้น ยืนรับลมธรรมชาติที่พัดมาอย่างเย็นสบายๆ แถมมีผู้ใหญ่ในพรรคหนุนหลังสร้างภาพให้อีก..จึงไม่มีปัญหา

           ส่วนนายอภิสิทธิ์ สถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว จากที่เคย “ลาออก”และได้รับการโหวตให้กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคใหม่ครั้งนั้น เพราะขณะนั้น ยังไม่มีบาดแผล ซึ่งต่างกับปัจจุบัน ที่ภาพลักษณ์ของนายอภิสิทธิ์ได้เสียหายไปหมด จนไม่เหลือความสง่างามใดๆอีก ..หมดอนาคต

           แต่อภิสิทธิ์ ชั่วโมงนี้ “เลือดเข้าตา” ยังคงเชื่อมั่นในตนเอง และต้องการจะใช้สถานะของการเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองเป็นที่ยืน เพื่อต่อสู้ทางการเมือง หากจับพลัดจับผลูได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีรอบสอง จะได้สะสางคดีความต่างๆได้ง่ายขึ้น และอาจเคลิ้มกับคำพูดของเลขาฯพรรค นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ที่สัญญาว่าจะพาอภิสิทธิ์ให้กลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง..จึงคงไม่ลงจากหลังเสือ !

“เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด” สงครามภายใน ระหว่างอภิสิทธิ์ที่มี “กลุ่มเด็กแว้น”เป็นกองเชียร์ กับเพื่อนรักกรณ์ ที่มีกลุ่มผู้อาวุโสคอยถือหาง ต้องดุเดือดเลือดพล่าน เมื่อคนหนึ่งก็อยากจะขึ้น ส่วนอีกคนก็ไม่อยากจะลง แต่แชมป์มีเพียงคนเดียว ใครจะอยู่ ใครจะไป คงต้องแลกหมัดกันพัลวัลอีกหลายยก “อภิสิทธิ์หรือกรณ์” ..อย่ากระพริบตา !!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น