วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556

"พานทองแท้" วอนผู้ใหญ่ "เลิกเอาเปรียบคู่แข่งทางการเมือง ประเทศชาติจะเจริญกว่านี้"


"พานทองแท้" วอนผู้ใหญ่ "เลิกเอาเปรียบคู่แข่งทางการเมือง ประเทศชาติจะเจริญกว่านี้"


           วันที่ 5 ตุลาคม 2556 (go6TV) นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายอดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความในเฟสบุ้คส่วนตัวแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีปัญหาอยู่ในขณะนี้ โดยมีข้อความดังนี้

         “ คุณพ่อผมเคยพูดไว้ว่า เขียนกฎหมายประเภท รธน.ปี 50 แบบนี้ เขียนไปตั้งหลายมาตราทำไมให้ยุ่งยาก ก็แค่เขียนเพิ่มมาตราเดียวว่า

         "ห้ามคนชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพวก ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเด็ดขาด"
สั้นๆแค่นี้ ง่ายและตรงตามวัตถุประสงค์ ที่ต้องการกว่าเยอะครับ..!!

          และคุณพ่อยังพูดเสมอว่า ผลไม้ของต้นไม้ที่เป็นพิษ อย่างไรก็เป็นพิษครับ ถ้าไม่ใช่จากพิษของมันโดยตรง ก็เป็นพิษของคนที่ได้ประโยชน์ ที่มักจะเอาพิษของมันมาทำร้ายผู้อื่น คนพวกนี้จะพยายามปกปักรักษา ผลพวงของต้นไม้พิษนี้ไว้ เพื่อยังผลประโยชน์ให้กับพวกตัวเองต่อไป

         พล.อ.สนธิฯ ผู้ที่เคยปลูกต้นไม้พิษเองกับมือ ด้วยการทำปฏิวัติรัฐประหาร ภายหลังเมื่อได้ทราบความเลวร้ายของมัน จึงหันมาลงเลือกตั้งยืนอยู่ฝั่งประชาธิปไตย คิดจะขุดรากถอนโคนโค่นต้นไม้พิษ และทำลายดอกผลของต้นไม้พิษนี้ ยังทำลายได้ยากเลยครับ

        กลุ่มคนที่ได้ประโยชน์จากผลไม้พิษนี้ ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ กลุ่มขั้วการเมืองขั้วตรงข้ามกับคุณพ่อผมครับ และคนกลุ่มนี้ยังยืนตรงข้ามกับพี่น้องประชาชน ที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยอีกด้วย ซึ่งนอกจากกลุ่มการเมืองในสภาล่างแล้ว ในกลุ่มสว.ก็มีผู้ที่อยู่ในข่ายนิยมผลไม้พิษนี้ด้วย โดยเฉพาะผู้ที่ไม่เคยทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อท้องถิ่นของตน จะลงเลือกตั้งเป็นสว. ชาวบ้านเขาก็ไม่เลือก วิธีเดียวที่ตัวเองจะได้เป็นสว.ก็คือ ต้องเสนอตัวเข้าไปเป็นสว.แบบสรรหา ยอมปวารณาตัวไปเป็น ดอก-ผล ของผลไม้พิษแห่งการรัฐประหาร คนกลุ่มนี้อย่างไรก็ต้องคัดค้าน ไม่ยอมให้แก้รัฐธรรมนูญปี50เด็ดขาด

          การคัดค้านจึงออกมาในรูปแบบ "หัวชนฝา ตะบี้ตะบันค้าน" อย่างที่เห็นกันครับ ค้านทุกสระ-ตัวอักษรจนกระทั่งกฏหมายผ่านสภาฯไป ทั้งๆที่กฏหมายระบุชัดเจนว่า เมื่อร่างกฏหมายฯผ่านสภาฯแล้ว นายกฯต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯภายใน20วัน แสดงว่าถ้าเกิน 20 วันยังไม่ทูลเกล้าฯ ย่อมเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง คนพวกนี้ก็พยายามคัดค้านบอกว่าควรชะลอไว้ก่อน เพราะยังติดเรื่องโน้นเรื่องนี้ แปลกดีครับสนับสนุนรธน.ปี50 แต่ดันเสนอให้นายกฯปู กระทำผิดรัฐธรรมนูญที่ตัวเองเสนอ ที่น่าสังเกตุก็คือ คนกลุ่มนี้แหละที่ในปี50 ล้วนเป็นผู้ที่ออกมารณรงค์ให้คนออกไปลงมติรับร่าง รธน.ปี50ทั้งนั้น

           รัฐธรรมนูญปี50 ที่ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ และคนไทยหัวใจอำมาตย์ทั้งหลาย ชื่นชมว่าดีเด่นและออกมาปกป้องกันสลอนนั้น ตอนช่วงทำประชามติ ได้มีการส่งทั้งทหารและฝ่ายปกครอง กระจายลงไปตามหมู่บ้านต่างๆทั่วประเทศเลยครับ ทั้งขู่ทั้งปลอบชาวบ้าน บ้างก็บอกยอมรับว่า รธน.ปี50มีข้อบกพร่องเยอะแต่ขอให้ผ่าน บ้างก็หลอกว่าให้รับๆไปก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยแก้ภายหลัง

         หนักเข้าถึงกับขู่ว่าถ้าประชามติไม่ผ่าน ก็จะไม่มีการเลือกตั้ง และที่แย่ที่สุดคือแอบอ้างว่า เบื้องบนขอให้ รธน.ปี 50 ผ่านประชามติก็มีครับ ทำกันถึงขนาดนี้ แล้วทำไมช่วงนั้น ไม่มีพวกโหนเจ้า-อ้างเจ้า ออกมาคัดค้านกันบ้างว่า เอารัฐธรรมนูญที่มีตำหนิ ผ่านประชามติมาด้วยวิธีหลอกลวง-ข่มขู่ชาวบ้าน เอารัฐธรรมนูญที่บอกว่าให้รับๆไปก่อน แล้วค่อยมาแก้กันภายหลัง สุขเอาเผากินกันแบบนี้ ทำไมไม่กลัวว่านำขึ้นฯแล้ว จะทำให้ระคายเคืองฯกันบ้างหละครับ

        กลับมาสู่โลกแห่งความจริงกันเถอะครับ "คนไทยหัวใจอำมาตย์"ทั้งหลาย โลกเขาเป็นประชาธิปไตยกันจนไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว ยังจะกอดอำนาจเสียดายอำนาจผิด ๆ ที่ไม่ได้มาจากมวลมหาประชาชนกันอยู่อีกหรือ อยากได้อำนาจรัฐ ก็ควรแข่งกันทำความดีให้เข้าตาพี่น้องประชาชน เขาจะได้แบ่งคะแนนให้บ้างในวันเลือกตั้ง วันๆคิดแต่จะโหนเจ้า แอบอ้างเบื้องสูงมาโจมตีคู่แข่งทางการเมือง ยุแยงให้ทหารเอารถถังออกมาแอ่นแอ๊นบนท้องถนน เดินสายปลุกระดม รัฐบาลทำไอ้โน่นก็ไม่ดี ทำไอ้นี่ก็หมิ่นฯ แบบนี้ประเทศชาติ ถอยหลังตกคลองแน่นอนครับ

        ทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่โดยไม่เอาเปรียบคู่แข่งทางการเมือง เลิกกอดกฏหมายที่ทำลายคู่แข่ง ไม่โหนเจ้า ไม่ออดอ้อนอำมาตย์ เลิกเดินสายปลุกระดมเล่าเรื่องโกหกให้ชาวบ้านฟัง แข่งขันกันในเชิงนโยบาย ไม่ขัดขวางการพัฒนาประเทศ ทำแบบนี้ให้ได้ทุกกลุ่มการเมือง ประเทศไทยจะเจริญกว่านี้เยอะครับ..!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น