วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556

"ทักษิณ" FB อยู่เมืองนอกไม่สูญเวลาเปล่า ใช้โอกาสเพิ่มสัมพันธ์ไทย-ตปท.


"ทักษิณ" FB อยู่เมืองนอกไม่สูญเวลาเปล่า ใช้โอกาสเพิ่มสัมพันธ์ไทย-ตปท.

           วันที่ 11 ตุลาคม 2556 (go6TV) – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่าย ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัวhttps://www.facebook.com/thaksinofficial โดยมีข้อความดังนี้




Turn My Exile to Learning Period (1)

           หัวข้อนี้ผมอยากจะบอกว่าการที่ผมต้องมาลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ นั้นผมก็ไม่ยอมให้เสียเวลาโดยสูญเปล่า นั่งเศร้าสร้อยเครียดอยู่คงไม่เกิดประโยชน์อะไร เหมือนที่ตอนผมบวชพระสวดมนต์ตอนเย็น ก็จะมีตอนหนึ่งบอกว่า วันคืนล่วงไป ล่วงไปบัดนี้เราทำอะไรอยู่ ผมก็เลยต้องเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส โดยการใช้เวลาเรียนรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในโลกนี้ได้อย่างใกล้ชิด เข้าถึงให้มากที่สุด ผมได้เห็นโลกในทุกมิติ ทั้งโลกมืด โลกมัวๆ และโลกสว่างไสว แล้วก็หันมามองเมืองไทยเพื่อจะทำทุกอย่างให้เกิดประโยชน์กับประเทศไทย เพราะถึงแม้ว่าผมจะไปอยู่มุมไหนของโลก ก็คิดตลอดเวลาว่าผมเป็นคนไทยที่รักประเทศไทย

         แน่นอนครับ ผมอาจจะไม่ได้อยู่ใกล้กับครอบครัว ไม่ได้มีโอกาสให้ความอบอุ่นครอบครัวอย่างใกล้ชิด ไม่ได้ฝึกฝนลูกๆอย่างใกล้ชิด ผมก็ต้องปรับตัว เป็นการให้ความอบอุ่น ให้ความรู้ ประสบการณ์จากที่ห่างไกล แต่ครอบครัวผมก็เข้มแข็งกันทุกคน ก็อยากจะบอกกับ ผู้ที่รักและปรารถนาดีกับผมและครอบครัวว่า เราอดทน และจะใช้โอกาสนี้สร้างเครือข่ายเพื่อนๆ ทั้งระดับเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศ ตลอดจนด้านวิชาการ ให้ได้มากที่สุด และก็จะทยอยแลกเปลี่ยนกับคนไทยผ่าน Facebook ของผมไปเรื่อยๆเท่าที่จะมีเวลาครับ

          วันที่ 15 ตุลาคมนี้ ผมก็จะไปพูดเรื่อง One Asia ซึ่งตอนนี้ก็มีการพูดถึง One Asia มากขึ้นเพราะ Asia เป็นEconomic Growth Area ของโลกอยู่ในขณะนี้ เพราะ Asia เป็นทวีปเดียวที่ไม่มี Continent Wide Forum เพราะเรามีความขัดแย้งอยู่เป็นที่ๆ เช่น เกาหลีเหนือ/เกาหลีใต้ อินเดีย/ปากีสถาน ปาเลสไตน์/อิสราเอล นอกจากนั้นยังมีปัญหาในอีกหลายประเทศ อีกทั้งเรายังเป็นทวีปที่ใหญ่ที่สุด มีประชากรมากที่สุด มีคนยากจนมากที่สุด มีคนรวยรวมแล้วก็มากที่สุด ความพยายามที่จะทำให้เราเป็นหนึ่งเดียวของทวีปเอเชียเป็นเรื่องที่ทำมานานมาก ซึ่งผมก็เคยได้ริเริ่ม ACD (Asia Cooperation Dialoque) ตอนที่ผมยังเป็นนายกฯแล้ว แต่ก็ยังมีสมาชิกไม่ครบทั้งทวีป แต่ก็เป็นประเทศสำคัญๆทั้งนั้น

          วันนี้อยากเล่าเรื่องจีนให้ฟังครับ ว่าวันนี้จีนได้พัฒนาไปมากและเร็วกว่าที่ทุกคนจะคิด ที่เป็นเช่นนี้เพราะจีนเป็นประเทศที่มียุทธศาสตร์ ในการก้าวเดินตลอดเวลา มีการใช้ระบบที่เรียกว่า Division of Labor มาประยุกต์เข้ากับกาลสมัย เขามีโครงสร้างของพรรค คู่ขนานกับโครงสร้างชองการบริหาร โดยให้โครงสร้างของพรรคทำหน้าที่กำหนดและควบคุมนโยบายและยุทธศาสตร์

         ส่วนโครงสร้างของฝ่ายบริหารมีหน้าที่ปฏิบัติและใกล้ชิดกับการบริการประชาชน โดยทั้งสองฝ่ายทำงานด้วยกันอย่างใกล้ชิดมีวินัย โดยแบ่งเป็นชั้นๆ ตั้งแต่ชั้นหมู่บ้าน ขึ้นไปถึงชั้นอำเภอ จังหวัด และมณฑล แม้กระทั่งกระทรวงก็ยังมีเลขาพรรคประจำทุกกระทรวง ที่พูดมานี้อาจจะใช้ไม่ได้สำหรับบ้านเรา แต่ต้องการชี้ให้เห็นว่า การทำงานให้สำเร็จต้องทำอย่างมียุทธศาสตร์ มีการกำกับนโยบายให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ และมีการติดตาม ประเมินผลงานตลอดเวลา

         นอกจากนั้นจะต้องมีการมองภาพใหญ่ ลงมาจนถึงภาพเล็กๆ ไม่ให้เกิดความขัดแย้งกัน เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงหรือการสั่งการครั้งหนึ่งจากจุดสูงสุดจะลงไปถึงทุกจุดอย่างรวดเร็ว อีกอย่างหนึ่งที่ผมประทับใจประเทศใหญ่ๆอย่างจีนและอเมริกาก็คือเวลาผมไปพบระดับบริหารท่านหนึ่ง พูดอะไรไว้ ก็จะมีการส่งบทสนทนาไปยังผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องทุกระดับ เช่นผมพูดกับรัฐมนตรีว่าอย่างไร พอไปพบระดับนายกฯเขาจะทราบเรื่องและต่อเรื่องได้ทันที ทำให้การเจรจาความระหว่างประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพครับ

     มาจีนคราวนี้ได้รับเชิญให้ไปพบระดับสูงมาหลายครั้ง เพื่อเพิ่มพูนความสัมพันธ์ ไทย-จีน และอาเซียน-จีนครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น