ครูเพลงชื่อดัง "เป็ด-มนต์ชีพ ศิวะสินางกูร" นักร้องนักแต่งเพลงชื่อดัง หนึ่งในผู้ต่อต้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่มีความเห็นออกมาเป็นระยะในเฟซบุ๊คนั้น ล่าสุดได้โพสต์เฟซบุ๊คถึง "ชาวแกะสีเทา และชาวบ้านหลังเล็ก" มีใจความว่า
ชาวแกะสีเทาครับ , ชาวบ้าหลังเล็กทั้งหลายครับ
ฟังผมนิดนึง...
วันนี้ไม่มีนิทาน แต่ขอพูดจริงจังซักหน่อย
ตอนนี้การต่อต้าน พรบ. นิรโทษกรรมของพวกเรา ก็ถือว่าพอมองเห็นผลได้ในระดับนึง แม้อาจจะยังไว้ใจไม่ค่อยได้ แต่เราก็พอจะใจชื้น และรอดูอยู่ได้สักพัก
ทางวุฒิฯ แม้ยังไม่ถึงเวลา ก็รีบมาออกตัวก่อนว่า ไม่รับคร้าบบบ ไม่รับแน่นอน มาเมื่อไหร่ตีกลับ
ทางเพื่อไทยก็แทบจะยกมือไหว้ประหลกๆ ไม่เอาแล้วคร้าบบ วุฒิตีกลับมาเมื่อไหร่ ผมจะเอาไปเผาทิ้งทันที
เชื่อได้ไม๊ได้ แต่ก็รอดูเขาไปก่อนดีกว่านะ อีกไม่กี่วันเอง
ผมว่าเราอย่าเพิ่งไปฮึ่มฮั่มจนดุเกินไป จากม๊อบอุดมการณ์ จะกลายเป็น ม๊อบมันเขี้ยวไป
สิ่งที่สะกิดใจผมคือ ผมไม่ค่อยไว้ใจน้าเทพแก แกเห็นม๊อบเรือนหมื่นเรือนแสนอย่างนี้ กลัวแกจะพาไปเรียกร้องนู่นนี่นั้นอีก ไม่ชวนเรากลับบ้านง่ายๆหรอก และ...
คนนำม๊อบ มือเก๋าคนหนึ่ง ตอนนี้ออกโรงแล้ว คำถามคือ...
ถ้าจะต้าน พรบ. นิรโทษกรรม ทำไมท่านไม่ออกมาตั้งแต่แรก แต่พอม๊อบเริ่มจุดติดแล้ว ท่านจึงออกมา
คำตอบคือ... ในสายตาผู้นำม๊อบที่มีประสบการณ์ ม๊อบขนาดนี้ ถือว่าเป็น ม๊อบมีคุณภาพ เป็นอาวุธที่ทรงพลังอย่างยิ่งทางการเมือง บวกกับความเก๋าของแก เชื่อได้ว่าแกจะมาสวมบทเป็นผู้นำปั่นซ้ายปั่นขวา ให้ม๊อบเคลื่อนไหวไปตามจุดประสงค์ของแกได้ไม่ยาก แล้วอีกอย่าง แน่นอนว่าในม๊อบนี้ มีคนเกลียดทักษิณอยู่ไม่น้อย พอเจอบรรยากาศมันเร้า เจอคนเกลียดทักษิณเหมือนกันมารวมๆกันเข้า คนขึ้นเวทีก็ด่าทักษิณ ด่าเอาๆ สะใจยิ่งนัก จากม๊อบต้านนิรโทษ จะเลยไปเป็นม๊อบไล่รัฐบาลไปเสียฉิบ
ผมเองไม่ได้พิศวาสรัฐบาลนี้เท่าไหร่เลย แต่อยากให้เราดูบทเรียนที่ผ่านมาครับ พอมีม๊อบไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งทีไร มันก็จะออกได้สองหน้าคือ
ถ้าจุดไม่ติด ก็เป็นม๊อบเฉาๆเซ็งๆ โงกเงกๆกันไปวันๆ สุดท้ายก็แห้งตายไปตามกาลเวลา ซึ่งผลก็คือ เหนื่อยเปล่า ไล่รัฐบาลไม่สำเร็จ หรือถ้าจุดติดเป็นเรื่องราวใหญ่โต ก็หนีไม่พ้นต้องลงท้ายความวุ่นวายไม่แบบใดก็แบบหนึ่ง ซึ่งคนที่เสียหายก็คือพวกเรา ประชาชน และประเทศของเราเอง
ประเทศเราบอบช้ำมามากเหลือเกินแล้วครับ...
ผมไม่อยากให้พวกเรา แกะสีเทา , ชาวบ้านเล็ก ต้องตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของใคร โดยคิดไม่ถึง
ผมบอกไว้เลย ถ้าการต่อต้านครั้งนี้ ทำให้พรบ. นิรโทษตายสนิทแน่แล้ว ผมถือว่าการเคลื่อนไหวน่าจะจบแล้ว ถ้ายังมีใครพยายามขยายผล กลายไปเป็นการขับไล่รัฐบาล หรือเอาเรื่องอื่น เช่นปราสาทพระวิหาร มาผูกโยง ให้ม๊อบร้อนต่อไป ผมถือว่าคนๆนั้น ไม่หวังดีกับประเทศชาติอย่างยิ่ง
จบนิรโทษ ก็หมดหน้าที่ของพวกเรา เราก็กลับบ้านกลับช่อง มาเล่นในกติกามาตราฐานดีกว่าครับ
ไอ้ที่แค้นใครไว้ ใครที่มันหวังร้ายกับประเทศ โกงกิน หรือเลวยังงู้นยังงี้
คราวหน้าก็อย่าไปเลือกมัน...
บางคนยังคาอกคาใจเหลือเกินว่า กับไอ้คนเลวๆ เราทำได้แค่นี้จริงๆเหรอ แค่ไม่เลือกมันเนียนะ
ครับ... ประชาชนอย่างเรา เราทำได้แค่นี้จริงๆ ถ้าทำมากกว่านี้ อยากรักษาประเทศให้หายจากวงจรอุบาทว์ โดยเร่งรัด มันก็เหมือนกับผ่าตัดคนไข้ โดยไม่วางยาสลบ หวังดีกับคนไข้ อยากให้เขาหายไวๆ เจื๋อนเลย คนไข้อาจตายเพราะความเจ็บปวดซะก่อนจะหาย
หรือถ้าผิดหวังไปซะทุกคนทุกพรรค ไม่รู้จะเลือกใครจริงๆ คราวหน้าผมลงสมัคร สส.เองเลย เอิ๊กๆๆ
ปล. เขียนมาหลายบทความ ไม่เคยขอร้องให้ใครแชร์เลย แต่คราวนี้ขอร้องล่ะครับ ถ้าใครเห็นด้วยกับสิ่งที่ผมเขียน ช่วยแชร์ๆกันหน่อย ขอบคุณครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น