วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ปฏิรูปปาหี่! แฉชัดๆ ปี 49 พรรคประชาธิปัตย์ บอยคอตเลือกตั้งด้วยข้ออ้าง “ปฏิรูป” แต่ 7 ปีผ่านไปไม่เคยทำอะไร


ปฏิรูปปาหี่! แฉชัดๆ ปี 49 พรรคประชาธิปัตย์ บอยคอตเลือกตั้งด้วยข้ออ้าง “ปฏิรูป” แต่ 7 ปีผ่านไปไม่เคยทำอะไร



            เป็นเรื่องขบขัน ที่พรรคประชาธิปัตย์ และเหล่าอำมาตย์ทุกภาคส่วนพยายามที่จะล้มการเลือกตั้งครั้งนี้ เด็กรุ่นใหม่ไม่เคยรู้ว่า ข้ออ้าง “ปฏิรูป” ที่ตัวเองเห่อตามแกนนำม็อบนั้น จริงๆ เป็นแค่ “วาทกรรมเครื่องมือล้มประชาธิปไตย” เท่านั้น และวันนี้ไม่ใช่ครั้งแรกของการปฏิรูป


            การเมืองไทยนั้น เคยปฏิรูปการเมืองครั้งใหญ่มาก่อนหน้านี้ ล่าสุด ก็คือการร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนปี 2540ซึ่งถือว่าเป็นฉบับประชาธิปไตยที่สุด แต่รัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็ถูกฉีกทิ้งไปด้วยฝีมือ คมช. ได้รับการสนับสนุนโดยพรรคประชาธิปัตย์ ในขณะเดียวกัน ข้ออ้างว่าจะ “ปฏิรูป” นั้น ปีนี้ไม่ใช่เป็นครั้งแรก


            หลักฐานหนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 4 มีนาคม 2549 ก่อนการรัฐประหาร 6 เดือน พรรคประชาธิปัตย์ในขณะนั้น โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ประกาศบอยคอตการเลือกตั้งเดือนเมษายน ด้วยข้ออ้างว่า “ต้องการปฏิรูปการเมืองก่อน” โดยมีข้อความว่า


         “มันเป็นการตัดสินใจเพื่อแสดงจุดยืน เพื่อจุดประกายความคิดให้มาช่วยกันแก้ระบบของประเทศ ที่มีปัญหามากขึ้นทุกวัน อย่างน้อยที่สุด หลังจากที่เราได้ตัดสินใจตรงนี้ไป สิ่งหนึ่งคือ ไม่มีใครปฏิเสธเรื่องการปฏิรูปการเมืองอีกต่อไปแล้ว” 

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้กล่าวถึงกรณีการไม่ส่งผู้สมัคร

               ถามว่า 7 ปีที่ผ่าน นายอภิสิทธิ์ ได้ผ่านการเป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้ว ผ่านการคิดการทำอะไรต่างๆ มากมาย ทำไมไม่ “หยิบการปฏิรูปการเมือง” ที่ตัวเองเคยใช้เป็นข้ออ้างล้มการเลือกตั้ง มาทำให้สำเร็จในสมัยตนเองเป็นรัฐบาล 7 ปีที่ผ่านมาทำอะไรอยู่ 

            จนกระทั่งวันนี้ นึกอะไรไม่ออก ก็ยกเหตุผล “ปฏิรูป” ขึ้นมา ทั้งที่มันแค่ข้ออ้างที่เคยใช้ และทิ้งลงขยะไปแล้วหลังการเป็นนายกรัฐมนตรี และขยี้คำว่าปฏิรูปซ้ำ อีกครั้งเมื่อตนได้รับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรควาระล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2556 เพราะนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ได้ใช้กำลังทั้งหมด “เขี่ย” สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์สายปฏิรูปทิ้งลงขยะทั้งหมด จนนายอลงกรณ์ พลบุตร ต้องออกมาเขียนลงเฟสบุ้คระบายความในใจสั้นๆ แต่ได้ใจความว่า
“เราแพ้แล้ว”


            งานนี้ไม่ใช่นายอลงกรณ์แพ้ แต่ “ประเทศชาติ” ที่นายอภิสิทธิ์ และม็อบกบฏกำลังเอาเป็นตัวประกัน กำลังแพ้ยับเยินทั้งชาติ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น