วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ตร.ขอคืนพื้นที่!ให้ม็อบเก็บของออก เปิดถนน'ทำเนียบฯ-สภา'14เส้นทางสัญจรได้ปกติ 'ถาวร'ยืดอกรับรู้จักนศ.รามฯ แกนนำม็อบอุรุพงษ์



          ตร.ขอคืนพื้นที่!ให้ม็อบเก็บของออก เปิดถนน'ทำเนียบฯ-สภา'14เส้นทางสัญจรได้ปกติ 'ถาวร'ยืดอกรับรู้จักนศ.รามฯ แกนนำม็อบอุรุพงษ์

          14 ต.ค.556พล.ต.ต.ชยุต ธนทวีรัตน์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) กำกับดูแลงานด้านการสอบสวนกล่าวว่า บช.น.ทำหนังสือไปสอบถาม กทม.ว่าอนุญาตให้มีการชุมนุมหรือไม่ เพื่อใช้เป็นข้อมูลดำเนินการ หาก กทม.ไม่อนุญาต ตำรวจจะออกประกาศเตือนให้กลุ่มผู้ชุมนุมเก็บของออกนอกพื้นที่ หรือให้เจ้าพนักงานเข้ามาจัดการเรื่องความเรียบร้อยและความสะอาดเพื่อขอคืนพื้นที่ แต่ก็อยู่ที่ กทม. เพราะทาง บช.น.ก็ดำเนินการตามมาตรา 39 ที่ระบุไว้ว่า "ห้ามมิให้ผู้ใดติดตั้ง ตาก วางหรือแขวนสิ่งใดๆ ในที่สาธารณะ" ทั้งนี้ โทษตามมาตรา 54 ปรับไม่เกิน 2,000 บาท ซึ่งต่อไปในการปฏิบัติก็ต้องทำแบบนี้ เพราะเป็นพื้นที่สาธารณะที่ กทม.ดูแล ขณะนี้ยังไม่ได้รับคำตอบกลับมา ซึ่งก็เป็นไปตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมืองแต่อย่างใด เนื่องจากพื้นที่การชุมนุมเป็นอำนาจหน้าที่ของ กทม.ที่ต้องดูแล จึงต้องมีการทำความสะอาด เพราะตามขั้นตอนแล้วการชุมนุมหรือใช้พื้นที่สาธารณะต้องมีการทำหนังสือขอไปทาง กทม.

          "เรื่องนี้ไม่ได้ไปว่าอะไร แค่ถามว่ามีขอหารือไม่เท่านั้นเอง ไม่ได้ต่อว่าแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นหน่วยงานรัฐด้วยกัน ถามว่าขออนุญาตหรือไม่ หากไม่ได้ขออนุญาต ตามกฎหมายก็ต้องไปรื้อถอน เพราะจะขัดคำสั่งเจ้าพนักงานและมีขั้นตอนการดำเนินการ ในส่วนนี้เขียนไว้ชัดเจน ถามเพื่อความแน่นอนใจเท่านั้น ไม่ได้จะไปโต้อะไร" พล.ต.ต.ชยุต กล่าว

เปิดถนน"ทำเนียบฯ-สภา"14เส้นทางสัญจรได้ปกติ

         พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บังคับการตำรวจจราจร (ผบก.จร.)แจ้งเปิดการจราจรทุกเส้นทางโดยรอบทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภาให้ประชาชนสัญจรไปมาได้เป็นปกติแล้วตั้งแต่เวลา21.00น.ที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจนครบาล( บช.น.)มีคำสั่งเปิดการจราจร 14 เส้นทาง ถนนศรีอยุธยา ตั้งแต่แยกพล.1 ถึง แยกวัดเบญจมบพิตร

  • ถนนราชวิถี ตั้งแต่แยกการเรือน ถึง แยกราชวิถี
  • ถนนนครราชสีมา แยกสวนรื่นฤดี ถึงแยกประชาเกษม
  • ถนนสุโขทัย ตั้งแต่แยกสวนรื่นฤดี
  • ถนนนครสวรรค์ ตั้งแต่แยกพิษณุโลก ถึงสะพานเทวกรรม
  • ถนนพิษณุโลก ตั้งแต่แยกวังแดง ถึงแยกพานิชยการ ถนนอู่ทองใน ตั้งแต่แยกอู่ทองใน ถึง ลานพระราชวังดุสิต(ลานพระรูป) 
  • ถนนลิขิต ถนนพระราม5 ตั้งแต่สะพานอรทัย ถึงแยกพานิชยการ
  • ถนนราชดำเนินนอก ตั้งแต่แยกพระรูปฯ ถึงแยกมัฆวาน
  • ถนนลูกหลวง ตั้งแต่แยกสะพานวิศุกรรมนฤมน ถึง สะพานเทวกรรม
  • ถนนพิชัย ตั้งแต่แยกขัตติยานีถึงถนนราชวิถี
  • ถนนกรุงเกษม ตั้งแต่แยกประชาเกษม ถึงแยกเทวกรรม และ ถนนนครปฐม

            หลังจากมีคำสั่งเปิดการจราจร 14 เส้นทาง ตาม พ.ร.บ.มั่นคงฯลดผลกระทบด้านการจราจร โดยเจ้าหน้าที่ได้ยกแท่นแบริเออร์และสิ่งกีดขวางออกจากพื้นผิวจราจรแล้วรถสามารถวิ่งผ่านไปมาได้ปกติทุกเส้นทาง

"ถาวร"ยืดอกรับรู้จักนศ.รามฯแกนนำม็อบอุรุพงษ์

          นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ ส.ส.สงขลา เดินทางมาที่ด้านหลังเวทีการชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย(คปท.) ที่บริเวณแยกอุรุพงษ์ พร้อมเปิดเผยว่า เรื่องที่นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ระบุว่า นักการเมือง อักษร "ถ" ให้การสนับสนุนนักศึกษารามคำแหงให้ออกมาร่วมชุมนุมนั้น ยอมรับว่า รู้จักกับนักศึกษารามคำแหง เพราะเด็กกลุ่มนี้เป็นเด็กใฝ่ดีที่ติดตามสถานการณ์บ้านเมือง จึงเดินทางมาให้กำลังใจลูกหลาน เพราะเด็กกลุ่มนี้ ไม่หลงแสงสี ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ดังนั้นนายสุภรณ์ไม่ต้องใช้ตัวย่อ แต่ให้ระบุชื่อว่า "นายถาวร เสนเนียม" อย่างไรก็ตาม อยากเรียกร้องไปถึงผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหง ว่า อย่ากีดกันนักศึกษา และอย่ารังแกเด็กที่ออกมาชุมนุม พร้อมกันนี้ขอเรียกร้องให้นักศึกษามหาวิทยาลัยอื่นๆ ที่สอบเสร็จแล้วออกมาร่วมชุมนุมคัดค้านรัฐบาลที่จะออกกฎหมายล้างผิดให้แก่คนเผาบ้านเผาเมือง

         "ขอฝากไปยังรัฐบาลว่า อย่ารังแกประชาชนที่ออกมาชุมนุมตามรัฐธรรมนูญปราศจากอาวุธด้วยการตัดน้ำตัดไฟ และใช้พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร อย่ากดดันการใช้สิทธิเสรีภาพ และคิดว่า รัฐบาลควรส่งคนมารับฟังข้อเสนอและนำไปแก้ไขจะดีกว่า ส่วนกรณีที่มีการมองว่า พรรคประชาธิปัตย์ให้ท้ายม็อบกลุ่มนี้ ผมขอปฏิเสธ เพราะผมมาให้กำลังใจเด็ก เพื่อจะได้เป็นเยี่ยงอย่างให้แก่เยาวชนคนอื่น ส่วนที่ถามว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จะออกมาเคลื่อนนอกสภาหรือไม่นั้น นายสุเทพเคยยืนยันหลายครั้งต่อกฎหมายล้างผิดว่า ถ้าถึงจุดนั้น และถึงเวลาที่สมควรที่กฎหมายนิรโทษกรรมจะออกเป็นกฎหมาย นายสุเทพจะออกมา" นายถาวร กล่าว

หน่วยมั่นคงวิเคราะห์ม็อบแตก 3 กลุ่ม

         แหล่งข่าวฝ่ายความมั่นคงจากทำเนียบรัฐบาลได้วิเคราะห์กลุ่มผู้ชุมนุมที่แยกอุรุพงษ์ว่า เป็นกลุ่มมวลชนที่ยังคงมีอารมณ์ค้างจากการที่แกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ยุติการชุมนุมที่ด้านหน้าทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2556 โดยกลุ่มมวลชนได้แตกเป็น 3 กลุ่ม 
  • กลุ่มแรกเป็นกลุ่มกองทัพประชาชนฯ ที่กลับไปรวมตัวที่สวนลุมพินีแล้ว มีจำนวน 150 - 200 คน 
  • กลุ่มที่สอง ที่ชุมนุมที่แยกอุรุพงษ์ เป็นกลุ่มที่แปรสภาพจากม็อบ กปท.แล้วจัดตั้งมวลชนใหม่ในชื่อ “เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.)" ซึ่งมีนายอุทัย ยอดมณี นายกองค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นแกนนำ และยังทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานเครือข่าย โดยมีแนวร่วมส่วนหนึ่งเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง จากพรรคสานแสงทอง 
  • กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาภาคใต้ เครือข่ายกลุ่มกรีน ที่มีนายนิติธร ล้ำเหลือ อดีตทนายความของกลุ่มพันธมิตร เป็นผู้ประสานงาน ในฐานะที่ปรึกษากลุ่มกรีน รวมทั้งยังมีแนวร่วมที่เป็นเครือข่ายของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ใช้สถานีโทรทัศน์บลูสกายเป็นกระบอกเสียง และมีกลุ่มนักเรียนอาชีวะที่มาร่วมชุมนุมในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์และหลังเลิกเรียนด้วย ซึ่งในกลุ่มที่สองนี้ มีกองทัพธรรมเป็นหน่วยสนับสนุนในเรื่องของอาหาร รวมแล้วมีจำนวนประมาณ 300-400 คน มีรูปแบบการตั้งเวทีปราศรัยแบบชุมนุมยืดเยื้อ และในช่วงเย็นแต่ละวันจะมีกลุ่มที่ชุมนุมจากสวนลุมพินีตามมาสมทบด้วย และแนวร่วมที่เลิกงานมาฟังการปราศรัยทำให้มีจำนวนมากถึงหลักพันคน แต่จะอยู่ฟังการปราศัยของแกนนำถึงเวลา 22.00 น.ก็จะแยกย้ายกันกลับ จนเหลือแต่แนวร่วมหลักเพื่อรักษาพื้นที่เท่านั้น ส่วนกลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มของนายไทกร พลสุวรรณ ที่แตกออกมาจาก กปท.และไปชุมนุมอยู่ที่สนามหลวง ตรงข้ามกับศาลฎีกา ซึ่งกลุ่มนายไทกรยังเป็นกลุ่มเล็กมีจำนวนประมาณ 30 คนเท่านั้น

“ในการข่าวก็ยังจับทิศทางของทั้ง 3 กลุ่มไม่ได้ว่า ตกลงแล้วแตกคอกันหรือแยกกันตีกันแน่ ซึ่งฝ่ายความมั่นคงไม่มั่นใจในสถานการณ์ที่ไร้รูปแบบ จึงตัดสินใจตรึงพื้นที่ให้มากที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้ยึดสถานที่ราชการ เช่น ยึดทำเนียบรัฐบาลเหมือนที่ผ่านมา” หน่วยความมั่นคงระบุ

พท.เย้ยม็อบจุดกระแสไม่ติด

           ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อไทยมีการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค โดยที่ประชุมประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคปท.ว่า น่าจะมีการยกระดับการชุมนุมให้เข้มข้นกว่าเดิมแน่นอน แต่ขณะนี้ยังไม่มีประเด็นที่ทำให้จุดกระแสได้ เพราะรัฐบาลยังไม่มีเรื่องการทุจริตคอรัปชั่น ส่วนจะใช้ประเด็นชาตินิยมนั้น กรณีคดีเขาพระวิหารก็มีการเลื่อนออกไปแล้ว นอกจากนี้ อดีตกลุ่มพันธมิตรฯ โดยเฉพาะนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ก็ประกาศชัดเจนแล้วว่าจะไม่ร่วมสังฆกรรมด้วย ดังนั้นจะเหลือเพียงกลุ่มนักศึกษาและนักเรียนอาชีวะเท่านั้น ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ชุมนุมขณะนี้ส่วนใหญ่น่าจะอยู่ในโครงการยุวประชาธิปัตย์เป็นหลัก ดังนั้นรัฐบาลจะต้องใช้วิธีการที่ละมุนละม่อมเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เลือดตกยางออกขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น