โฉมหน้า นักรบหน้าตัวเมีย หลักสี่

    

           วันที่ (12 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ประธานการประชุมเร่งรัดคดีความรุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงการชุมนุม โดยเปิดเผยภายหลังการประชุมว่า คดีความรุนแรงที่แยกหลักสี่ ถือว่ามีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก โดยมีการสืบทราบผู้กระทำความผิดได้เพิ่มอีก 3 - 4 คน เบื้องต้นไม่เกี่ยวข้องกับคนมีสี ตำรวจต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนมากขึ้น ทราบชื่อบุคคลเหล่านั้นแล้ว

            พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า วันนี้ทาง ผบ.ตร.ได้เป็นประธานประชุมให้มีการเร่งรัดคดีต่างๆ โดยเฉพาะคดีเหตุการปะทะที่แยกหลักสี่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้มีการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลที่ปรากฏในคลิปวิดีโอ โดยขณะนี้สามารถยืนยันตัวบุคคลได้แล้ว 7 คน จากภาพบุคคลที่ปรากฏในคลิป 21 คน โดยมี 1 คน คือ บุคคลที่สวมหมวกไหมพรม และใช้กระสอบคลุมปืนรวมอยู่ด้วย อย่างไรก็ตามยังไม่ชัดเจนว่า บุคคลเหล่านี้รับราชการหรือไม่ โดยคดีนี้ทาง ผบ.ตร.ได้มีกำชับให้สืบสวนสอบสวนเร็วที่สุด แม้พนักงานสอบสวนจะมีข้อจำกัด โดยจะมีคณะที่ปรึกษาทางคดี ประกอบด้วย พล.ต.อ.จรัมพร พล.ต.ท.วินัย พล.ต.ท.อนุชัย ที่ได้รับมอบหมายจาก ตร.แต่งตั้งขึ้นมา เพื่อให้คำแนะนำพนักงานสอบสวน เช่น การหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งนี้จากภาพที่ปรากฏตามคลิปวิดีโอ และพฤติกรรมดังกล่าวทางการสอบสวนจะพิจารณาตามภาพ รวมถึงมีพยานได้ยืนยันบุคคลดังกล่าวว่า ได้กระทำความผิดอย่างไรบ้างชัดเจนแล้ว หลังจากนี้จะขอศาลออกหมายจับต่อไป

            อย่างไรก็ตาม ภาพชายที่สวมหมวกไหมพรม และใช้กระสอบคลุมปืน ชื่อ นายวิวัฒน์ ยอดประสิทธิ์ อายุ 24 ปี ชาวจังหวัดพิษณุโลก และอีกคนชายสวมเสื้อขาวมีผ้าปิดจมูกและมีปลอกแขนสีเขียวอ่อนที่เขียนว่าการ์ด กปปส.ใช้ปืนสั้นนอนยิงตรงหน้าป้อมตำรวจบริเวณแยกหลักสี่ ชื่อ นายสุรเชษฐ ตรีนพรัตน์ อายุ 49 ชาว กทม.และนายดนัย ไม่ทราบนามสกุล เป็นการ์ดอาชีวะ แต่ศาลได้ขอพยานหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ส่งให้ไปแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล