4 เม.ย.57 เมื่อเวลา 10.00 น. นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.การต่างประเทศ กล่าวว่า ตนได้ทำหนังสือไปถึงศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) เรียบร้อยแล้ว เพื่อสอบถามกรณีที่ประเทศไทยจะรับอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ ในเหตุการณ์การชุมนุมปี 2553 ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่า ต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง เบื้องตนที่อัยการของไอซีซีมาพบตนเมื่อปลายปี 2555 ตนได้สอบถามว่ากรณีใดบางที่ไอซีซีจะเข้ามาดำเนินการได้ ซึ่งก็มีกรณีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ หรือการทำลายมนุษยชาติ โดยเฉพาะกรณีที่กระบวนการยุติธรรมในประเทศไม่ทำงาน แต่วันนี้กระบวนการยุติธรรมในประเทศยังเดินอยู่ เช่น ศาลอาญามีคำสั่งให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.มามอบตัว และให้นายอภิสิทธิ์ ไปขึ้นศาล
ทั้งนี้หากในอนาคตมีหลายฝ่ายเรียกร้องเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ก็ต้องมีการเตรียมการว่าต้องทำอย่างไรบ้าง เรื่องนี้มีหลายประเทศที่เกิดการฆ่ากันตายจากเหตุการณ์การชุมนุมจนเกิดความวุ่นวาย เพราะผู้นำใช้ความโหดร้ายทำลายมนุษยชาติ ซึ่งเราต้องเตรียมการไว้ในกรณีเกิดอำนาจนอกระบบ อำนาจเผด็จการ และกระบวนการยุติธรรมไม่มีแล้ว ก็ต้องใช้อำนาจระหว่างประเทศเอาคนผิดมาลงโทษ ทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
นายสุรพงษ์ กล่าวถึงกรณีการเชิญนายบัน คี มุน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) มาเป็นตัวกลางในการเจรจาปัญหาทางการเมืองภายในประเทศไทยว่า กำลังอยู่ระหว่างรอคำตอบ ซึ่งน่าจะได้คำตอบเร็วๆนี้ ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าว ไม่ได้เป็นการดึงชาวต่างชาติเข้ามาแทรกแซงปัญหาในประเทศไทย เพราะไอซีซีมาพบตน และมีความเห็นว่าถ้ากระบวนการยุติธรรมดำเนินการไปจนแล้วเสร็จ ญาติพี่น้องของผู้สูญเสียไม่ได้รับความเป็นธรรม และมีการเรียกร้อง ไอซีซีก็สามารถพิจารณาได้เป็นกรณีๆไป
เมื่อถามว่า หากการดำเนินคดี 90 ศพ ไม่เดินหน้าเรื่องจะถึงไอซีซีหรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ตนไม่คิดที่จะไปก้าวก่ายกระบวนการยุติธรรมในไทย แต่เป็นการเตรียมความพร้อมในสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น ตนเป็นคนทำงานโดยคิดทางออกไว้หลายๆทาง เพื่อไม่ให้ประเทศไทยเข้าสู่ทางตันหรือเกิดอันตราย ในอดีตที่ผ่านมาเราอธิบายการที่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนถูกยุบได้อย่างยากเย็นมาก แต่วันนี้เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นกับพรรคเพื่อไทยเป็นเรื่องที่สามารถอธิบายให้สังคมเข้าใจได้มากขึ้น คนที่เป็นกลางได้เห็นว่าเหตุการณ์เหล่านี้ได้เกิดขึ้นกับประเทศไทย อย่างที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นจากกระบวนการต่างๆ ได้เห็นความแตกแยกทางสังคมจากกระบวนการเหล่านี้ วันนี้ทั้งโลกหูตาสว่างขึ้น สำนักข่าวต่างประเทศรู้กระบวนการต่างๆ ในการล้มล้างรัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตย วันนี้ถ้าประเทศไทยไม่อยู่ในระบอบประชาธิปไตย ประเทศไทยลำบาก สังคมโลกไม่ยอมรับ
อย่างไรก็ตาม สังคมโลกรู้หน้าที่ ไม่ได้เข้ามากดดัน แต่พวกเขาพยายามเสนอทางออกและเรียกร้องโดยสงบตามกระบวนการประชาธิปไตย ไม่เช่นนั้นเราอาจจะเป็นเหมือนเมียนมาร์ที่ถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ
'สุรพงษ์' ชี้ญาติ 'อัลรูไวลี่' ฟ้องศาลโลกเป็นสิทธิ
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่อุปทูตซาอุดีอาระเบียจะนำคดีอุ้มฆ่านายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี่ นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบียยื่นต่อศาลโลก ว่า เป็นสิทธิที่เขาสามารถทำได้ หากเขาไม่มั่นใจในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย
ทั้งนี้ เรื่องที่ตนไปพูดคุยกับอุปทูตซาอุดีอาระเบียก็ไม่มีใครทำมาก่อน แต่ตนเป็นคนกล้าที่จะพูดเป็นครั้งแรก เพราะเห็นว่าความจริงก็คือความจริงจะไปหลบเขาทำไม อย่างไรก็ตาม หากประเทศซาอุดีอาระเบีย เอาเรื่องนี้ไปพูดให้พันธมิตรประเทศมุสลิมของเขาฟัง ประเทศไทยก็เสียหายแน่นอน
ทั้งนี้หากในอนาคตมีหลายฝ่ายเรียกร้องเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ก็ต้องมีการเตรียมการว่าต้องทำอย่างไรบ้าง เรื่องนี้มีหลายประเทศที่เกิดการฆ่ากันตายจากเหตุการณ์การชุมนุมจนเกิดความวุ่นวาย เพราะผู้นำใช้ความโหดร้ายทำลายมนุษยชาติ ซึ่งเราต้องเตรียมการไว้ในกรณีเกิดอำนาจนอกระบบ อำนาจเผด็จการ และกระบวนการยุติธรรมไม่มีแล้ว ก็ต้องใช้อำนาจระหว่างประเทศเอาคนผิดมาลงโทษ ทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
นายสุรพงษ์ กล่าวถึงกรณีการเชิญนายบัน คี มุน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) มาเป็นตัวกลางในการเจรจาปัญหาทางการเมืองภายในประเทศไทยว่า กำลังอยู่ระหว่างรอคำตอบ ซึ่งน่าจะได้คำตอบเร็วๆนี้ ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าว ไม่ได้เป็นการดึงชาวต่างชาติเข้ามาแทรกแซงปัญหาในประเทศไทย เพราะไอซีซีมาพบตน และมีความเห็นว่าถ้ากระบวนการยุติธรรมดำเนินการไปจนแล้วเสร็จ ญาติพี่น้องของผู้สูญเสียไม่ได้รับความเป็นธรรม และมีการเรียกร้อง ไอซีซีก็สามารถพิจารณาได้เป็นกรณีๆไป
เมื่อถามว่า หากการดำเนินคดี 90 ศพ ไม่เดินหน้าเรื่องจะถึงไอซีซีหรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ตนไม่คิดที่จะไปก้าวก่ายกระบวนการยุติธรรมในไทย แต่เป็นการเตรียมความพร้อมในสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น ตนเป็นคนทำงานโดยคิดทางออกไว้หลายๆทาง เพื่อไม่ให้ประเทศไทยเข้าสู่ทางตันหรือเกิดอันตราย ในอดีตที่ผ่านมาเราอธิบายการที่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนถูกยุบได้อย่างยากเย็นมาก แต่วันนี้เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นกับพรรคเพื่อไทยเป็นเรื่องที่สามารถอธิบายให้สังคมเข้าใจได้มากขึ้น คนที่เป็นกลางได้เห็นว่าเหตุการณ์เหล่านี้ได้เกิดขึ้นกับประเทศไทย อย่างที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นจากกระบวนการต่างๆ ได้เห็นความแตกแยกทางสังคมจากกระบวนการเหล่านี้ วันนี้ทั้งโลกหูตาสว่างขึ้น สำนักข่าวต่างประเทศรู้กระบวนการต่างๆ ในการล้มล้างรัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตย วันนี้ถ้าประเทศไทยไม่อยู่ในระบอบประชาธิปไตย ประเทศไทยลำบาก สังคมโลกไม่ยอมรับ
อย่างไรก็ตาม สังคมโลกรู้หน้าที่ ไม่ได้เข้ามากดดัน แต่พวกเขาพยายามเสนอทางออกและเรียกร้องโดยสงบตามกระบวนการประชาธิปไตย ไม่เช่นนั้นเราอาจจะเป็นเหมือนเมียนมาร์ที่ถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ
'สุรพงษ์' ชี้ญาติ 'อัลรูไวลี่' ฟ้องศาลโลกเป็นสิทธิ
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่อุปทูตซาอุดีอาระเบียจะนำคดีอุ้มฆ่านายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี่ นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบียยื่นต่อศาลโลก ว่า เป็นสิทธิที่เขาสามารถทำได้ หากเขาไม่มั่นใจในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย
ทั้งนี้ เรื่องที่ตนไปพูดคุยกับอุปทูตซาอุดีอาระเบียก็ไม่มีใครทำมาก่อน แต่ตนเป็นคนกล้าที่จะพูดเป็นครั้งแรก เพราะเห็นว่าความจริงก็คือความจริงจะไปหลบเขาทำไม อย่างไรก็ตาม หากประเทศซาอุดีอาระเบีย เอาเรื่องนี้ไปพูดให้พันธมิตรประเทศมุสลิมของเขาฟัง ประเทศไทยก็เสียหายแน่นอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น