จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ -จักรภพ เพ็ญแข อ่านแถลงการณ์ตั้งกลุ่ม “องค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย” ประณาม คสช.ทำรัฐประหาร ทำให้ไทยกลับสู่ “ระบอบเผด็จการสุดขั้ว” พร้อมประกาศปฏิเสธอำนาจและผลพวงของการทำรัฐประหาร ชูแนวทางสิทธิมนุษยชน-ประชาธิปไตย โค่นระบอบเผด็จการ
ตอนหนึ่งของแถลงการณ์ซึ่งนายจารุพงศ์ใช้เวลาอ่าน 8 นาทีเศษ ได้ประณามการทำรัฐประหารของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. นำโดย พล.อ.ประยุทธร์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. โดยระบุว่าประเทศไทยได้กลับคืนสู่ “ระบอบเผด็จการสุดขั้ว”
โดยตอนหนึ่งของแถลงการณ์ยังกล่าวว่า “การกระทำของคณะรัฐประหารและเครือข่ายดังกล่าวนี้จึงถือเป็นอาชญากรรมที่ได้สร้างความแปดเปื้อนในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนไทย เราขอประณามการละเมิดสิทธิและเสรีภาพประชาชนไทยและชาวต่างประเทศที่กำลังเกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง จนประเทศไทยขณะนี้ได้กลายเป็นอาณาจักรแห่งความหวาดกลัว แม้ในอนาคตอันใกล้คณะทหารจะถ่ายโอนอำนาจไปสู่หุ่นเชิดในรูปแบบใดๆ ก็ตาม แต่กลไกที่ทำลายความก้าวหน้าของประเทศชาติและวงจรอุบาทว์นี้ก็ยังคงกดทับย่ำยีอำนาจอธิปไตยของประชาชนอยู่ต่อไป เราจึงต้องดำเนินการทุกอย่างเพื่อหยุดยั้งความเลวร้ายที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้เพื่อทวงคืนสิทธิเสรีภาพ และระบอบประชาธิปไตยให้กลับมาเป็นรากฐานของสังคมไทยต่อไป”
/div>
ทั้งนี้มีการระบุวัตถุประสงค์ของการตั้งกลุ่มขึ้นมา 6 ข้อได้แก่ หนึ่ง ต่อต้านระบอบเผด็จการทหารและเครือข่ายอำมาตย์ เพื่อให้อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน สอง ฟื้นฟูและเสริมสร้างระบอบประชาธิปไตยให้มีความถาวรและเป็นเสาหลักของสังคมไทย สาม เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ความเสมอภาค เสรีภาพและสันติภาพ สี่ ส่งเสริมระบอบเศรษฐกิจเสรีและเป็นธรรม ห้า ปฏิรูปวัฒนธรรมไทยให้สอดรับกับระบอบประชาธิปไตย และ หก พัฒนาคุณภาพประชาชนไทยสู่ความเป็นสากล
ตอนท้ายของแถลงการณ์ระบุว่า “นับแต่นี้ไป ให้ถือว่า "องค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย" ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว เพื่อเป็นศูนย์กลางการต่อสู้ของประชาชนทุกฝ่ายที่ยึดมั่นในอุดมการณ์สิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตย และโค่นล้มระบอบเผด็จการ” โดยรายละเอียดของแถลงการณ์อยู่แนบท้ายข่าว
นอกจากนี้ในเพจ “องค์กรเสรีไทย” ยังมีการเผยแพร่คลิปอ่านแถลงการณ์ดังกล่าวเป็นภาษาอังกฤษของ จักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตแกนนำ นปช.
สำหรับความเคลื่อนไหวของนายจารุพงศ์ก่อนหน้านี้นั้น เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.
เว็บไซต์พรรคเพื่อไทย รายงานว่า ชวลิต วิชยสุทธิ์ รักษาการรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นายจารุพงศ์ ได้ส่งจดหมายยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. 2557 แต่พรรคได้รับหนังสือในวันที่ 16 มิ.ย. 2557 พรรคจึงได้ทำหนังสือแจ้ง การเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรค กรณีหัวหน้าพรรคลาออกจากตำแหน่ง ต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2557 โดยเมื่อหัวหน้าพรรคได้ลาออกจากตำแหน่งตามข้อบังคับพรรคได้กำหนดให้มีผู้รักษาการ ซึ่งคณะกรรมการบริหารได้เคยให้ความเห็นชอบไว้ตามข้อบังคับพรรคข้อที่ 50 คือ รองหัวหน้าพรรค เป็นผู้รักษาการแทน ได้แก่ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ และนายปลอดประสพ สุรัสวดี ตามลำดับ
ในวันที่ 21 มิ.ย. เช่นเดียวกัน นายจารุพงศ์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ค
CharupongOfficial ว่า “เรียน พี่น้องชาวไทยที่เคารพ ผมลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อไปเรียกร้องประชาธิปไตย และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ “อย่างอิสระเสรี”
ต่อมาในวันที่ 22 มิ.ย. นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า “ผมขอเชิญทุกท่านร่วมติดตามความเคลื่อนไหว และข่าวสารสำคัญของเครือข่ายประชาธิปไตย ได้ที่เพจใหม่ของผม ผมจะไม่สยบยอมต่ออำนาจเผด็จการทหาร และจะยืนหยัดสู้เพื่อให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย และจนกว่าเผด็จการทหารจะคืนอำนาจที่แท้จริงให้แก่ประชาชนไทยทุกคน”
อนึ่งนายจารุพงศ์ ถูกศาลทหารออกหมายจับเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ภายหลังไม่ยอมมารายงานตัวตามคำสั่ง คสช. ฉบับที่ 1/2557 ลงวันที่ 22 พ.ค. 2557 และ คำสั่ง คสช. 57/2557 วันที่ 10 มิ.ย. 2557
000
แถลงการณ์องค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย
พี่น้องชาวไทยที่เคารพรักทุกท่าน
ขณะนี้ประเทศไทยของเราได้คืนสู่ระบอบเผด็จการสุดขั้วอีกครั้ง ระบอบทหารที่เรียกตนเองว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.นำโดย พลเอกประยุทธร์ จันทร์โอชา ได้ใช้กำลังอย่างผิดกฎหมายไทยและกฎหมายสากลเข้ายึดอำนาจการปกครองแผ่นดิน จากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนอย่างอุกอาจ โดยปฏิบัติไม่ต่างจากโจรที่เข้ามาปล้นทรัยพ์ ต่างแต่ว่าทรัพย์นั้นคืออำนาจอธิปไตยและสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย อันเป็นทรัพย์ที่มีค่าสูงสุดของความเป็นมนุษย์ การกระทำครั้งนี้จึงถือว่าละเมิดหลักนิติรัฐ-นิติธรรม หลักประชาธิปไตย และยังทำลายย่ำยีสิทธิเสรีภาพ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ นับเป็นอาชญากรรมอันใหญ่หลวงต่อประชาชนชาวไทย
การโฆษณาว่า พวกเขาต้องกระทำการยึดอำนาจโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ และคำสัญญาว่าจะคืนความเป็นปกติสุขให้กัสังคมไทย แท้จริงแล้วก็คือ การโกหกหลอกลวงขนานใหญ่เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อ เห็นผิดเป็นชอบ เห็นปีศาจอสุรกายเป็นเทวดาอารักษ์จนท้ายที่สุดก็หวังให้เห็นว่า ระบอบเผด็จการดีกว่าระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเป็นแนวคิดที่ผู้นำเผด็จการของโลกและของไทยพยายามปลูกฝังแต่ประสบความล้มเหลวเรื่อยมา
ประชาชนไทยได้ตาสว่างและยึดมั่นในแนวทางประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชนตามหลักสากล และยอมรับในวิวัฒนาการทางสังคม จึงต้องประกาศปฏิเสธอำนาจของคณะรัฐประหารตลอดจนผลพวงใดๆ ของการรัฐประหารในครั้งนี้โดยสิ้นเชิง คณะ คสช.ที่ร่วมมือกับเผด็จการซ่อนรูปอื่นๆ ในประเทศไทยขณะนี้ ไม่มีความชอบธรมใดๆ ทั้งในทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ที่จะนำพาประเทศไปสู่สันติสุขและความปรองดองได้เลย เพราะพวกเขานั่นเองที่ได้ร่วมกันสมคบคิด วางแผนก่อความวุ่นวายไปทั่วประเทศ และลักลอบสนับสนุนขบวนการโค่นล้มทำลายรัฐบาลที่มาจากประชาชนตั้งแต่ต้น เพื่อให้ประเทศไทยอยู่ในสภาพรัฐล้มเหลว วงจรประชาธิปไตยหยุดชะงัก และใช้ผลพวงที่พวกเขาได้วางแผนกระทำมาตลอด เป็นเงื่อนไขประกาศการยึดอำนาจการปกครองแผ่นดิน การกระทำของคณะรัฐประหารและเครือข่ายดังกล่าวนี้จึงถือเป็นอาชญากรรมที่ได้สร้างความแปดเปื้อนในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนไทย เราขอประณามการละเมิดสิทธิและเสรีภาพประชาชนไทยและชาวต่างประเทศที่กำลังเกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง จนประเทศไทยขณะนี้ได้กลายเป็นอาณาจักรแห่งความหวาดกลัว แม้ในอนาคตอันใกล้คณะทหารจะถ่ายโอนอำนาจไปสู่หุ่นเชิดในรูปแบบใดๆ ก็ตาม แต่กลไกที่ทำลายความก้าวหน้าของประเทศชาติและวงจรอุบาทว์นี้ก็ยังคงกดทับย่ำยีอำนาจอธิปไตยของประชาชนอยู่ต่อไป เราจึงต้องดำเนินการทุกอย่างเพื่อหยุดยั้งความเลวร้ายที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้เพื่อทวงคืนสิทธิเสรีภาพ และระบอบประชาธิปไตยให้กลับมาเป็นรากฐานของสังคมไทยต่อไป
เพื่อให้เจตนารมณ์ของประชาชนไทยที่จะล้มล้างอำนาจอันชั่วร้ายให้หมดสิ้น แล้วสถาปนาระบอบการปกครองที่ประชาชนเป็นเจ้าของ เป็นผู้ใช้ และเป็นผู้ได้รับประโยชน์อย่างสมบูรณ์ให้เป็นจริงให้จงได้ ดังนั้นเราจึงขอปฏิเสธอำนาจเผด็จการของคณะ คสช.และผลพวงทั้งปวงที่จะตามมา และขอประกาศจัดตั้ง "องค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย" "The Organization of Free Thais for Human Rights and Democracy (FT-HD)" ขึ้นในเวลาย่ำรุ่งของวันอังคารที่ 24 มิถุนายน พุทธศักราช 2557
เพื่อให้องค์กรนี้รองรับแนวความคิดและปฏิบัติการทุกชนิดของผู้ที่มีความมุ่งมั่นในเจตนารมณ์ประชาธิปไตยจากทั่วทุกมุมโลกร่วมกันโดยที่แนวความคิดและการปฏิบัติการนั้นๆ ต้องไม่ขัดต่อหลักประชาธิปไตย หลักสิทธิมนุษยชน หลักกฎหมายสากล และหลักการไม่ใช้ความรุนแรงใดๆ
"เสรีไทย" เป็นคำที่มีความหมายลึกซึ้งในสำนึกทางประวัติศาสตร์ที่สะท้อนความใฝ่เสรีภาพ การรักศักดิ์ศรีของสามัญชนไทยได้เป็นอย่างดี จึงถือเป็นชื่อมงคล เหมาะแก่การทำหน้าที่ประสานการต่อสู้เพื่อทวงคืนสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยของประชาชนไทยจากทุกมุมโลก ดังที่บรรพบุรุษของไทยได้เคยกระทำการมาแล้ว
ข้าพเจ้าและเพื่อนผู้ร่วมอุดมการณ์ทั้งในประเทศและทั่วโลก จึงได้มีมติร่วมกันในการจัดตั้งองค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย โดยมีวัตถุประสงค์เบื้องต้นในการก่อตั้ง ดังต่อไปนี้
1. ต่อต้านระบอบเผด็จการทหารและเครือข่ายอำมาตย์ เพื่อให้อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน
2. ฟื้นฟูและเสริมสร้างระบอบประชาธิปไตยให้มีความถาวรและเป็นเสาหลักของสังคมไทย
3. เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ความเสมอภาค เสรีภาพและสันติภาพ
4. ส่งเสริมระบอบเศรษฐกิจเสรีและเป็นธรรม
5. ปฏิรูปวัฒนธรรมไทยให้สอดรับกับระบอบประชาธิปไตย
6. พัฒนาคุณภาพประชาชนไทยสู่ความเป็นสากล
นับแต่นี้ไป ให้ถือว่า "องค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย" ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว เพื่อเป็นศูนย์กลางการต่อสู้ของประชาชนทุกฝ่ายที่ยึดมั่นในอุดมการณ์สิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตย และโค่นล้มระบอบเผด็จการ
ประกาศ ณ ย่ำรุ่ง วันอังคารที่ 24 เดือนมิถุนายน พุทธศักราช 2557
นายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ
เลขาธิการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น