วันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2557

"ฮิวแมนไรท์ วอทช์" ตั้งคำถามจนท.กรณีจับ "ชายชุดดำ"

alt







กรณีการจับผู้ต้องหาคดีอาวุธ ที่ตำรวจอ้างว่าเป็นชายชุดดำที่ยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ช่วงการขอยึดคืนพื้นที่จากกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) วันที่ 10 เม.ย.2553 มีการตั้งข้อสังเกตจากกลุ่มฮิวแมนไรท์ วอทซ์ ประเทศไทย ถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ทหาร "อุ้ม" ผู้ต้องหามาดำเนินคดีว่าถูกต้องหรือไม่ ขณะที่ว่าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติออกมายืนยันว่าการจับผู้ต้องหา ไม่ใช่การจับแพะ



ตำรวจชุดคอมมานโด กองปราบปราม คุมตัวผู้ต้องหาคดีอาวุธ ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นกลุ่มชายชุดดำ ไปชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ บริเวณสี่แยกคอกวัวและที่ถนนตะนาว ซึ่งเป็นจุดที่มีการเผชิญหน้าและยิงปะทะกันระหว่างกลุ่มชายชุดดำกับเจ้าหน้าที่ทหารจนมีผู้เสียชีวิต 26 คน บาดเจ็บ 820 คน เป็นพลเรือน 466 คน ทหาร 354 คน

ภาพ 1 จากคลิปเหตุการณ์ ปรากฏ “ชายชุดดำ” เข้ามาที่บริเวณสีแยกคอกวัว เวลา 20.24 น.
ภาพ 2 รถตู้ที่เชื่อว่าขนชายชุดดำเข้าไปในบริเวณสี่กั๊กพระยาศรี ถ่ายได้ในเวลา 20.19 น.
ภาพ 3 รถตู้เดินทางออกจากทีเกิดเหตุ ถ่ายได้ในเวลา 21.01 น.

กรณีการจับผู้ต้องหาที่ก่อเหตุเมื่อกว่า 4 ปีที่แล้ว รวมทั้งข้ออ้างที่ตำรวจบอกว่ามีพยานหลักฐาน แต่ไม่จับผู้ต้องหาในช่วงการสอบสวนก่อนหน้านี้ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการจับผิดตัวหรือไม่ ซึ่ง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ว่าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมายืนยันแล้วว่าไม่ได้จับผิดตัวหรือ "จับแพะ" ตามที่มีผู้สงสัย











หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกจับ คือ นายกิตติศักดิ์ สุ่นศรี หรือ "อ้วน" อาชีพลูกจ้างชั่วคราว สำนักงานพัฒนาสมรรถนะบุคคลากรครู กรมอาชีวะศึกษา ซึ่งภรรยาของเขาได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจนครบาลโคกครามเมื่อวันที่ 5 ก.ย.57 ว่านายกิตติศักดิ์ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ 5 คน ที่คาดว่าเป็นทหารนอกเครื่องแบบ มารับตัวจากบ้านไป โดยบอกว่าควบคุมตัวไปสอบสวนตามกฎอัยการศึก 7 วันจะปล่อยตัว แต่หลังจากนั้นก็มีคนโทรศัพท์เข้ามาข่มขู่ว่าไม่ให้ไปแจ้งความ จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้

สำหรับกรณีนายกิตติศักดิ์ กลุ่มฮิวแมนไรท์ วอทซ์ ประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ เมื่อวันที่ 9 ก.ย.57 เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ยุติการจับผู้ต้องสงสัยตามอำเภอใจ และหยุดการนำผู้ต้องหาไปขังในที่่ลับ

















วันนี้ (12 ก.ย.57) ตำรวจนำผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ไปชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพและนำกลับมาควบคุมที่กองปราบปราม ซึ่งการสอบสวนผู้ต้องหายังไม่พบความเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ซึ่งผลการสอบสวนของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ระบุว่าพล.อ.ร่มเกล้าเสียชีวิตจากสะเก็ดระเบิดชนิดขว้างเอ็ม 67 ซึ่งจุดนี้ยังพบทหารบาดเจ็บอีกหลายคน ผลการสอบสวนของ คอป. ระบุด้วยว่า ได้ข้อมูลจากพยาน เชื่อว่าระเบิดเอ็ม 67 ถูกขว้างออกมาจากภายในกำแพงบ้านไม้โบราณบนถนนดินสอ ฝั่งตรงข้ามประตูทางเข้าโรงเรียนสตรีวิทยา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น