กิจกรรมมืดรำลึกนวมทอง ไพรวัลย์ นักศึกษากางป้ายแฟลชม็อบ “นวมทองยังไม่ตาย” พันธ์ศักดิ์แสดงละครใบ้ แกนนำจัดกิจกรรมอานนท์-พันธ์ศักดิ์ ถูกนำตัวไปสอบปากคำ ผู้ร่วมงาน 3 รายถูกปรับ 100 ข้อหาไม่พกบัตรประชาชน
หลังจากเพจกิจกรรม ‘มืด’ ตั้งขึ้นโดยอานนท์ นำภา ทนายความ โพสต์ข้อความเชิญชวนผู้สนใจจัดกิจกรรมศิลปะรำลึกการจากไปครบรอบ 8 ปีของนวมทอง ไพรวัลย์ คนขับแท็กซี่ต้านรัฐประหารที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม
กิจกรรมดังกล่าวได้รับความสนใจ มีผู้ไปรวมตัวที่ร้านลาบด้านข้างอนุสาวรีย์ประชาธิไตยอันที่เป็นจุดนัดหมายราว 30-40 คน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจสังเกตการณ์อยู่ราว 7-8 นาย กิจกรรมหลักได้แก่การแสดงละครใบ้ของพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ ผู้เป็นพ่อของสมาพันธ์ ศรีเทพ หรือ น้องเฌอ หนึ่งในผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 และการกางป้ายผ้าของกลุ่มนักศึกษาข้อความว่า “นวมทองยังไม่ตาย” ราว 2-3 นาที ท้ายที่สุดตำรวจได้เชิญตัวอานนท์และพันธ์ศักดิ์ไปสอบปากคำที่สน.นางเลิ้ง
อานนท์ ได้โพสต์เฟซบุ๊คชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า
“เมื่อคืนผมกับ ปีเตอร์ ศรี มีเฌอเป็นลูกรัก (พันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ – ประชาไท) ถูกเรียกให้ไปให้ปากคำ กรณีมีนักศึกษานำป้ายผ้าไปชูที่บริเวรอนุสาวรียประชาธิปไตย พ่อน้องเฌอให้การไปแล้ว ส่วนผมขอเลื่อนไปเป็นวันที่ 5 พ.ย.57 เวลา 18.00 น. ที่ สน.นางเลิ้ง เนื่องจากเมื่อคืนนี้ผมไม่พร้อมที่จะให้การ
ผมมีประเด็นที่จะให้การอยู่ 2-3 ประเด็นคือ
1) เสรีภาพในการแสดงออก
2) ดุลพินิจในการจำกัดเสรีภาพ
3) ปัญหาของกฎอัยการศึกในสังคมประชาธิปไตย
2) ดุลพินิจในการจำกัดเสรีภาพ
3) ปัญหาของกฎอัยการศึกในสังคมประชาธิปไตย
ผมเพิ่งมาเห็นรูปนี้ซึ่งถูกแชร์ในเฟซบุ๊คเมื่อเช้า ผมคิดว่าโดยพฤติการณ์และข้อความบนผ้า เป็นการใช้เสรีภาพในการแสดงออกซึ่งไม่ผิดต่อกฎหมายแต่ประการใด ทั้งยังเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมในความกล้าหาญของน้องนักศึกษา
ขอบคุณพี่ทหารและพี่ตำรวจระดับปฏิบัติการณ์ที่เข้าใจและอะลุ่มอะล่วยในการทำกิจกรรม ขอบคุณระดับผู้บังคับบัญชาที่ไม่ตึงจนเกินไป ส่วนที่สูงกว่านั้นและไม่เข้าใจในเรื่องเสรีภาพ ย่อมเป็นโจทย์ให้เราต้องแก้เพื่อจะได้เข้าใจร่วมกันว่า ในสังคมประชาธิปไตย เราให้ความสำคัญกับการแสดงออกซึ่งเสรีภาพขนาดไหน
ปล. ผมเชื่อว่าลึกๆแล้วท่านก็ไม่ได้คิดว่าคนกลุ่มเล็กๆนี้จะก่อให้เกิดปัญหาอะไรมากหรอก เพียงแต่ท่านถูกกดทับมาอีกทีจากอำนาจ "มืด" เท่านั้น
ผมจะพยายามทำคำให้การเป็นหนังสือไปยื่นกับพนักงานสอบสวนนะครับ จะได้ไม่ต้องบันทึกอะไรยาวนานเกินไป 5 พ.ย.57 นี้เจอกันครับ”
ภาพจากเฟซบุ๊ก SahaiRock Freedom
ภาพจากเฟซบุ๊ก อานนท์ นำภา
ภาพจาก อัจฉรา อิงคามระธร
3 รายโดนปรับ ข้อหาไม่พกบัตรประชาชน
อัจฉรา อิงคามระธร หนึ่งในผู้ถูกปรับกล่าวว่า เข้าร่วมกิจกรรมงานศิลปะในความมืด โดยไปถึงก่อน 22.00 น.และนั่งทานอาหารในร้านลาบอันเป็นที่นัดหมาย โดยทราบข่าวมาว่าในช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่ได้ขอให้ลุงและป้าเจ้าของร้านปิดร้าน แต่ทั้งสองไม่ยอมปิดโดยให้เหตุผลว่าใครจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายซึ่งซื้อของไปแล้ว อย่างไรก็ตามเจ้าของร้านยอมขยับร้านรถเข็นไปไว้ด้านในซอยจากเดิมที่เคยอยู่ริมถนน
จนถึงเวลาประมาณ 22.00 น. กลุ่มนักศึกษาก็ทำกิจกรรมกางป้ายผ้ารำลึกนวมทองตรงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในเวลาสั้นๆ คล้ายเป็นแฟลชม็อบ จากนั้นพันธ์ศักด์ก็แสดงละครใบ้ เธอจึงเดินไปถ่ายรูป เมื่อเดินกลับมานั่งที่โต๊ะก็พบว่าตำรวจเริ่มมาสมทบกันมากขึ้นจากเดิมที่มีอยู่นิดหน่อยตามปกติ ก็มีตำรวจมาเพิ่มอีก 3 คันรถ ทหารอีก 1 คันรถ โดยเริ่มแรกเจ้าหน้าที่เข้าไปพูดคุยกับอานนท์และพันธ์ศักดิ์ จากนั้นจึงเดินมาที่โต๊ะของเธอและเพื่อนเพื่อขอตรวจบัตรประชาชนท่ามกลางความงุนงงของทุกคนเนื่องจากสถานที่ดังกล่าวไม่ใช่ผับ ท้ายที่สุดมี 3 ราย เป็นหญิงทั้งหมด ที่ไม่ได้นำบัตรประชาชนติดตัวมาด้วย จึงยินยอมถูกควบคุมตัวไปสน.นางเลิ้งเพื่อเสียค่าปรับคนละ 100 บาท
ทั้งนี้ กิจกรรม "มืด" นั้นระบุจุดประสงค์งานในเพจเฟซบุ๊กว่า “ในสถานการณ์บ้านเมืองเช่นนี ้ แม้งานศิลปะ ก็ต้องแสดงกันในความมืด พบกับการแสดงงานศิลปะ ดนตรีในความมืดของศิลปินในค วามมืด และขอชวนเชิญมิตรสหายร่วมแส ดงงานศิลปะในความมืด ในบ้านเมืองที่มืดมิด ไม่จำกัดประเภทงานศิลปะ ( ดนตรี ภาพถ่าย ภาพวาด บทกวี ฯลฯ ) พร้อมพบปะพูดคุย ดื่มกินในบรรยากาศ "มืดๆ" หมายเหตุ : ศิลปินเตรียมอุปกรณ์มาเองทั ้งเครื่องดนตรีและเครื่องเส ียง(หากต้องใช้) ส่วนค่าอาหารก็แชร์กันครับ บรรยากาศร้านลาบ ราคาสบายๆ เช่นเคย”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น