วันนี้ (2 เม.ย.2558) 4 องค์กรวิชาชีพสื่อสารมวลชน ออกแถลงการณ์ร่วมโดยแสดงความกังวลต่อคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 3/2558 ชี้กระทบสิทธิเสรีภาพของประชาชนและสื่อมวลชนมากกว่าการใช้กฎอัยการศึก พร้อมขอให้หัวหน้า คสช.ให้นโยบายที่ชัดเจนต่อเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน หวั่นใช้อำนาจเกินขอบเขตทำประชาชนหวาดกลัวขัดเจตนารมณ์ของคำสั่ง
แถลงการณ์ร่วม 4 องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนต่อคำสั่งที่ 3/2558 ของหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ
ตามที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ออกคำสั่งที่ 3/2558 โดยในข้อ 5 ของคำสั่งดังกล่าว ระบุว่า ให้อำนาจเจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยมีอำนาจออกคำสั่งห้ามการเสนอข่าว การจำหน่าย หรือทำให้แพร่หลายซึ่งหนังสือ สิ่งพิมพ์ หรือสื่ออื่นใด และได้กำหนดโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับนั้น คำสั่งนี้มีเนื้อหาที่กระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนและสื่อมวลชนมากยิ่งขึ้นกว่ากฎอัยการศึก
ในส่วนของประชาชนทั่วไปนั้นถ้าการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียใดถูกตีความว่า เป็นการกระทำตามข้อ 5 เป็นข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว หรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารฯลฯ ต้องได้รับโทษดังกล่าว ส่วนสื่อมวลชนก็เป็นไปในลักษณะเดียวกัน
4 องค์กรวิชาชีพสื่อสารมวลชน ประกอบด้วยสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย มีความเห็นร่วมกันว่าการออกคำสั่งในข้อดังกล่าว เป็นการให้ดุลพินิจกับเจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยอย่างกว้างขวาง หากไม่มีหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขในการปฏิบัติที่ชัดเจน เพื่อให้เจ้าพนักงานใช้ดุลพินิจว่าข้อความใดทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว หรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ทำให้เกิดความเข้าใจผิด จนกระทบต่อความมั่นคงของชาติ หรือความสงบเรียบร้อยของประชาชนนั้น อาจนำไปสู่การปฏิบัติที่ไม่ได้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของคำสั่ง
4 องค์กรวิชาชีพสื่อสารมวลชน มีความเห็นร่วมกันว่า หัวหน้า คสช. ควรให้นโยบายที่ชัดเจนต่อเจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อย หรือกำหนดมาตรการหรือเงื่อนไขในการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยตามอำนาจในวรรคสองของข้อ 5 ที่ชัดเจน เพื่อประชาชนทั่วไปและสื่อมวลชนทุกแขนงซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจากคำสั่งดังกล่าว จะได้มีความสบายใจขึ้นว่าการใช้อำนาจตามบทบัญญัติ มาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญชั่วคราวจะเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ดังที่หัวหน้า คสช.ให้สัญญาประชาคมไว้ เพราะคำสั่งดังกล่าวกระทบสิทธิขั้นพื้นฐานอย่างยิ่ง
ทั้งนี้ 4 องค์กรวิชาชีพสื่อสารมวลชน ขอแสดงความห่วงใยต่อการใช้อำนาจดังกล่าวว่าควรเป็นไปอย่างรอบคอบและระมัดระวังอย่างถึงที่สุด เพราะกรณีนี้น่าจะกระทบต่อการประเมินสถานะของประเทศในด้านสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนและประชาชนของประชาคมโลก และจะเป็นปัญหาที่ถูกหยิบยกมากล่าวถึงในวันสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนโลกวันที่ 3 พ.ค.2558
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น