รัฐพล ศุภโสภณ (คนถือโทรโข่ง) ที่มาภาพเฟซบุ๊ก Ratthapol Supasopon (Credit: Anuchit Nimtalung)
25 ก.ย.2558 หลังจากที่ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ จัดกิจกรรมรำลึก 9 ปี การรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 พร้อมประกาศอิสรภาพจากระบอบเผด็จการทหาร เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ออกมาแสดงความเห็นเมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา ว่า อย่าสนับสนุนการออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่มดังกล่าว ถ้าผิดกฎหมายก็คือผิดไปเรื่อยๆ หลายกรรมหลายวาระ เราพยายามระมัดระวังเพราะเจตนาของกลุ่มที่เคลื่อนไหวต้องการให้บังคับใช้กฎหมาย จึงได้เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ให้อดทน หากผู้เคลื่อนไหวมีเจตนาดีก็ต้องเตรียมตัวเลือกตั้งในครั้งหน้า ถ้ารัฐบาลทำอะไรไม่ดีก็ไปว่าตรงนั้น วันนี้เรากำลังจัดระเบียบทำไมจะต้องมาต่อต้านตนตอนนี้ก่อนหน้า 22 พ.ค.ไปทำอะไรอยู่ ซึ่งตนก็ห่วงอนาคตของเยาวชนเหล่านี้เพราะบางคนเรียนจบบ้างและไม่จบบ้าง พ่อแม่ก็เป็นทุกข์ถ้าไม่รู้จักตัวเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร (ที่มา : มติชนออนไลน์, 21 ก.ย.58)
ผิดกฎโจรไม่ผิดกฎหมาย
ล่าสุดผู้สื่อข่าว ‘ประชาไท’ ได้สัมภาษณ์ รัฐพล ศุภโสภณ หรือบาส สมาชิกขบวนการประชาธิปไตยใหม่และกลุ่มกลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย (LLTD) ถึงกรณีดังกล่าว โดย รัฐพล กล่าวว่า เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เราได้เห็นอันธพาลเห็นโจรที่ทำผิดกฎหมายปกติ มาลอยหน้าลอยตาบอกว่า "ถ้าต่อต้านการปล้นของกู มึงผิดกฎ ที่กูตั้งขึ้นมาเอง นะเว้ย"
รัฐพล กล่าวว่า ตั้งแต่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ พล.อ.ประยุทธ์ และนายทหารอีกจำนวนมากกำลังทำสิ่งเหล่านี้ครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างหน้าไม่อาย และไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ซึ่งมันก็เป็นอย่างที่ตนเคยพูดไปหลายครั้งคือ การจับกุมคนที่เรียกร้องสิทธิต่างๆ ทางการเมืองที่เขาพึงมี มันไม่ใช่การใช้กฎหมาย แต่มันไม่มีอะไรมากไปกว่าการบังคับใช้กำลังเยี่ยงอันธพาล ที่ใช้กำลังบังคับตั้งแต่แรกทุกขั้นตอน ยึดอำนาจ ใช้อำนาจบังคับสื่อ บังคับชุมชนเพื่อให้นายทุนกดขี่ในพื้นที่ชุมชนต่างๆ โดยไม่ต้องสนใจใคร ใช้อำนาจลงไปที่การศึกษา โฆษณาชวนชื่อตั้งแต่ยัดเยียดผ่านรายการวันศุกร์ ให้โฆษกพูดโดยตัดเวลาทีวีทุกช่องแม้กระทั่งคนจะดูละครดูฟุตบอล ไล่ล่าคุกคามคนที่ไม่เห็นด้วยรวมไปถึงคนรอบตัวพวกเขา มากกว่านี้ที่พูดกันไม่หมดไม่สิ้น จะเห็นได้ว่าล้วนมาจากการที่ตัวเองเป็นโจร ใช้กำลังปล้นแล้วยึดหมู่บ้าน ตั้งตัวเป็นคนดูแลความสงบหมู่บ้าน ทั้งๆที่ตัวเองเพิ่งปล้นเขามาแท้ๆ การปล้นแล้วยังทำเช่นนี้คือการไม่เคารพกฎหมายจริงๆต่างหาก ไม่ใช่มาบอกว่าคนถูกปล้นโวยวายก็เลยจับเข้าคุกเสีย แบบนี้ใครๆ ก็รู้โดยสามัญสำนึกกันทั้งนั้นว่าไม่ถูกต้อง
สวนเจตนาดีทำไมไม่เป็นนายกผ่านการเลือกตั้งตามกติกาปกติ
สำหรับกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ เสนอว่าหากผู้เคลื่อนไหวมีเจตนาดีก็ต้องเตรียมตัวเลือกตั้งในครั้งหน้านั้น รัฐพล กล่าวว่า เราลองมายึดตรรกะของพล.อ.ประยุทธ์เอง แบบนั้นคนที่ฉวยโอกาสปล้นอำนาจโดยไม่มาจากการเลือกตั้งนี่เจตนาดีหรือเปล่า ทำไมมาเป็นนายกด้วยเจตนาดี แต่ไม่ยอมมาจากการเลือกตั้ง ไม่ไปสมัครในกติกาปกติ
ยันเคลื่อนมาก่อน 22 พ.ค.57
ต่อกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ ถามพวกที่ต่อต้านตนตอนนี้ก่อนหน้า ก่อน 22 พ.ค. 2557 หรือการยึดอำนาจของ คสช.นั้น ไปทำอะไรอยู่ รัฐพล กล่าวว่า จริงๆ ตมทำเยอะมาก จริงๆ ตอนนี้ฝ่ายความมั่นคงล้วงข้อมูลกันเยอะแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมที่ตนเห็นในข่าวยังมีคนมาบอกว่าพวกตนรับเงินทักษิณกันอีก นี่แสดงว่าฝ่ายความมั่นคงแอบกินเงินเดือนกันฟรีๆ นะ สำหรับกิจกรรมกิจกรรมที่ตมทำ ตอน พฤษภาคม 53 ตนก็อยู่ไม่ห่างจากบริเวณที่มีการปะทะระหว่างทหารกับเสื้อแดงเกิดขึ้น เหตุการณ์ที่ทหารเอาปืนจากภาษีประชาชนมาเบิกกระสุนไปยิงหัวประชาชน
เขา เล่าต่อว่า พออยู่มหาวิทยาลัย ก็ทำเรื่อง SOTUS ทำค่ายลงไปศึกษาชุมชน เคลื่อนไหวประเด็น พ.ร.บ.ธรรมศาสตร์ออกนอกระบบ ทำประเด็นสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก แล้วก็ตอน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมลักหลับ ตนกับกลุ่ม LLTD ก็ไปต้านกันถึงหน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย และต่อต้านการใช้อำนาจเกินส่วนของศาลและองค์กรอิสระ เป็นต้น
รัฐพล ศุภโสภณ ที่มาภาพเฟซบุ๊ก Ratthapol Supasopon
ขอแยกแยะประท้วงรัฐประหารเพราะกระทบสังคม เรียนไม่จบเรื่องส่วนตัว
สำหรับกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ แสดงความเป็นห่วงอนาคตของเยาวชนเหล่านี้เพราะบางคนเรียนจบบ้างและไม่จบบ้างนั้น รัฐพล ได้แสดงความขอบคุณ พร้อมกล่าวว่า แต่ว่าท่านอย่ามายุ่งกับเรื่องส่วนตัวจะดีกว่า เรื่องที่ตนว่าท่านวิจารณ์ท่าน เพราะสิ่งที่ท่านทำมันกระทบสังคม แต่เรื่องการเรียนตนไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการทำกิจกรรมทางการเมืองเลย มันคนละเรื่อง ขอให้แยกแยะสักนิด
“ท่านก็คงจะอยากทำตัวให้สังคมมองแบบผู้ใหญ่สอนเด็ก และคงอยากใช้ตรรกะแบบคนป่วยใช้ๆ กัน คือ เอาเรื่องการเรียนและหน้าที่ที่ดีของเด็กในยุคนี้ นั่นก็คือการเอาแต่เรียนเรียนให้จบมาใช้ แต่ท่านคงลืมไปว่าที่จริงแล้วมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการที่พวกผมออกมาขับไล่ท่านเลย อย่าเข้าใจผิดนะครับว่าต่อต้าน ผมไม่ต้านครับ แต่ผมไล่” รัฐพล กล่าว
ชี้ต้านรัฐประหารคือการทำหน้าที่พลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตย
รัฐพล กล่าวด้วยว่า ความสนใจที่ตมมีในประเด็นทางสังคม มันก็เหมือนกับเพื่อนๆ ที่ชอบร้องเพลง ชอบเต้นเชียร์ลีดเดอร์ ชอบเล่นเกม ชอบอ่านนิยาย ชอบใช้ชีวิต Slow Life เพียงแต่ตนสนใจการเมืองมากเป็นพิเศษ เนื่องจากตนมองว่าสังคมที่ผู้ใหญ่ได้สร้างไว้มันจะต้องตกทอดมาเป็นมรดกสู่รุ่นตนเข้าสักวัน
“ผมจำเป็นจะต้องรู้ความเป็นมาเป็นไปและมีส่วนร่วมกับมันเข้าไว้ เนื่องจากผมก็มีสังคมที่ผมอยากเห็นและใฝ่ฝันถึง ผมเข้าใจดีว่าการเมืองมันอยู่ในทุกลมหายใจของคนเราแม้เราไม่รู้สึกตัวก็ตาม ผมจึงต้องออกมาแสดงออกในสิ่งที่ผมคิด พูดกันตามตรง ผมกำลังทำหน้าที่พลเมืองที่ดีตามระบอบประชาธิปไตย โดยหลักการสากลด้วยซ้ำ ผมต้านรัฐประหาร ต้องการให้มีการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจที่เหมาะสม ไม่เห็นมีตรงไหนที่เกินเลยคำว่าหน้าที่ไปสักนิด” รัฐพล กล่าว
รัฐพล กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า คนเรามีหน้าที่หลายอย่าง ท่านเองก็คงรู้ดี หน้าที่การเรียน กับหน้าที่พลเมืองมันคนละเรื่อง แม้เรามีบทบาทต่างกัน แต่หน้าที่หนึ่งที่มีในฐานะพลเมืองที่ดีคือการมีส่วนร่วม ฉะนั้นอย่าได้ไปมั่วเอาหน้าที่ส่วนบุคคลมายุ่งกับหน้าที่การเป็นพลเมืองอีก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น