ภาพจาก Chutiphong Pipoppinyo
จากกรณีเมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา กลุ่มคนไทยในสหรัฐฯ รวมตัวกันที่มุมถนน 47 ตัดกับถนนหมายเลขหนึ่งที่หน้าสำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ(ยูเอ็น) เพื่อสนับสนุนและต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ที่อยู่ระหว่างการประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็น ในนิวยอร์ก
ผู้สื่อข่าว ‘ประชาไท’ ได้สัมภาษณ์ ชุติพงศ์ พิภพภิญโญ นักศึกษาไทย ซึ่งศึกษาอยู่ที่ซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ ซึ่งนั่เครืองบินจากซานฟรานซิสโก กว่า 6 ชม. มาที่นิวยอร์ก เพื่อร่วมชุมนุมประท้วงที่หน้ายูเอ็นด้วย เริ่มต้น ชุติพงศ์ เล่าว่า การชุมนุมครั้งนี้เป็นการจัดพื้นที่ให้โดยยูเอ็น ซึ่งหากใครหรือกลุ่มใดต้องการประท้วงต้องขอใบอนุญาตในการชุมนุม และจะมีการจัดพื้นที่ให้บริเวณหน้าสำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ ที่นิวยอร์ก
ฝ่ายหนุนประยุทธ์ขยายวันจัดมาวันเดียวกับฝ่ายต้าน
ทั้งนี้ ในการขออนุญาต ชุติพงศ์ กล่าวว่า ครั้งแรกฝ่ายผู้สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ขออนุญาตจัดชุมนุมในวันที่ 27 ก.ย.58 แต่เมื่อทราบข่าวว่าฝ่าย ประท้วง พล.อ.ประยุทธ์ จะจัดวันที่ 26 ก.ย.58 เพียงวันเดียว ทำให้ฝ่ายที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ขอขยายวันจัดชุมนุมวันที่ 26 ก.ย. ถึงวันที่ 28 ก.ย. ด้วย (โดยคาดว่าวันที่ 27 จะเป็นวันชุมนุมใหญ่) สำหรับช่องทางที่ฝ่ายนี่ติดต่อสื่อสารกันนั้นคาดว่าจะเป็นเฟซบุ๊กของกลุ่มคนไทยในนิวยอร์ก สำหรับจำนวนคนของทั้ง 2 ฝั่งนั้น มีจำนวนเท่าๆ กันคือประมาณ 60 คน การชุมนุมเริ่มตั้งแต่ 11.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) สำหรับฝ่ายต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์ นั้นอยู่ถึง 18.00 น. ซึ่งช่วงท้ายเป็นช่วงที่ ปวิน ชัชวาลพงศ์ มาจึงมีคนรออยู่ ขณะที่ฝ่ายสนับสนุนนั้นยุติการชุมนุมไปก่อน
ยูเอ็นจัดพื้นที่ให้ชุมนุม มีหลายกลุ่ม
สำหรับคนที่มาจัดกิจกรรมชุมนุมประท้วงในพื้นที่ดังกล่าวนั้น ชุติพงศ์ กล่าวว่า ไม่ได้มีเพียงคนไทย ที่ขออนุญาตเข้ามาประท้วงกลุ่มใหญ่ที่สุดน่าจะเป็นฟาหลุนกง โดยล็อคที่ 1 เป็นกลุ่ม กปปส. และผู้สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ล็อคที่ 2 ถัดมาเป็นฝ่าหลุนกง จัดไว้ประมาณ 5 ล็อค ต่อมาเป็นล็อคของซูดาน ล็อคถัดมาเป็นกัมพูชา ที่มาประท้วงฮุนเซน
การจัดพื้นที่ชุมนุมนั้น ชุติพงศ์ กล่าวว่าเป็นทั้งการควบคุมและการอำนวยความสะดวกในการชุมนุม ด้วยโดยมีเจ้าหน้าที่คอยบอกทางไปห้องน้ำให้ผู้ชุมนุม เนื่องจากหลายคนที่มาชุมนุมนั้นก็มีที่มาและเดินทางมาจากหลายที่ ชุติพงศ์ กล่าวถึงพื้นที่ที่ยูเอ็นจัดให้เป็นที่ชุมนุมด้วยว่า จุดดังกล่าวเป็นจุดที่ผู้นำประเทศต้องขับรถผ่าน ดังนั้นผู้นำประเทศที่มาจะต้องเห็นผู้ที่ชุมนุมประท้วง โดยทราบจากผู้ที่ร่วมชุมนุมประท้วงยืนยันว่าในช่วงหนึ่งที่ผู้นำประเทศเดินเข้าและเดินออกมาจากที่ประชุมนั้น เวลาประมาณเที่ยงเป็นช่วงเข้านั้น มีคนยืนยันว่าเป็น พล.อ.ประยุทธ์ ส่งผลให้คนทั้งฝ่ายประท้วงและฝ่ายสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ แห่กันเข้าไป แต่ก็ไม่สามารถเข้าใกล้ได้ ใกล้สุดได้เพียงประมาณ 50 เมตร หางกันประมาณ 1 ช่วงถนน 2 เลน บวกกับทางเท้า 2 ฝั่ง
ชุติพงศ์ ยืนยันด้วยว่าไม่มีคนถูกดำเนินคดีเนื่องจากทุกคนเคารพกติกาที่ขออนุญาตไว้ โดยมีเพียงซูดานที่ใช้เครื่องเสียง ซึ่งมีคนเพียง 8-9 คน โดยช่วงที่คาดว่า พล.อ.ประยุทธ์ ผ่านมานั้น ฝ่ายต่อต้านก็มีการไปขอให้ซูดานช่วยตะโกนประท้วงให้ ขณะที่ฝ่ายสนับสนุนก็ให้ช่วยเป่านกหวีดให้
ระยะห่างจากฝ่ายต่อต้านกับฝ่ายสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ นั้น ชุติพงศ์ กล่าว่า ไม่ห่างกันมาก สามารถได้ยินเสียงของกันและกัน ฝ่ายต้านมีการโบกมือชู 3 นิ้วให้ ขณะที่ฝ่ายสนับสนุนก็มีการชูสัญลักษณ์ 3 นิ้วแบบ I love You กลับมาบ้าง ฝ่ายสนับสนุนส่งคนมาถ่ายรูปฝ่ายต่อต้าน และมีการพูดคุยแลกเปลี่ยน บางคนก็แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับฝ่ายต่อต้าน แต่ก็ชี้แจงว่าพวกเขาอยู่ที่นิวยอร์กมาก่อนที่จะมีสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง บางคนที่บอกกับตนว่าไม่ทราบสถานการณ์ของไทยเป็นอย่างไร แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผู้นำไทยมีประชุมนุมที่นิวยอร์กจึงอยากมาดู ส่วนจะจริงหรือไม่ตามที่เขาเรานั้นตนก็ไม่ทราบ
เขาอยากใช้สิทธิของเขาเข้ามาฟังเราก็ให้เขาฟัง
ชุติพงศ์ กล่าวด้วยว่าฝ่ายต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์ นั้น ตอนประชุมเตรียมก่อนที่จะไปชุมนุม ก็มีความเครียดเนื่องจากเกรงว่าจะมีการปะทะกันระหว่างฝ่ายสนับสนุนกับฝ่ายต่อต้านหรือไม่ พยายามหลีกเลี่ยงโดยการจัดต่างวันแล้ว แต่ฝ่ายสนับสนุนก็ขอขยายเวลามาชนวันอีก แต่เมื่อชุมนุมจริงๆ บรรยากาศก็โอเค มีการถ่ายรูปกันและกัน ขณะที่คนที่ไม่พร้อมคุยก็ไม่คุยเท่านั้น
“คนที่โอเคหน่อยก็บอกว่าก็ไม่เป็นไรก็เป็นสิทธิของเขา เขาอยากใช้สิทธิของเขาเข้ามาฟังเราก็ให้เขาฟัง ก็ให้เขาถ่ายรูปไป ฝั่งเราก็ไปถ่ายรูปในฝั่งเขา ตอนแรกก็กลัวว่าฝั่งนั้นจะทำอะไรเปล่า ก็ไม่ครับ ได้ธงชาติดกลับมาอันหนึ่ง” ชุติพงศ์ กล่าวถึงเหตุการณ์ที่ฝ่ายสนับสนุนและต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิสัมพันธ์กันระหว่างชุมนุมหน้ายูเอ็น
ฝ่ายประท้วงประยุทธ์ประเด็นรวมมิตร-ฝ่ายหนุนหวังสงบสุขปราบคอรัปชั่น
สำหรับประเด็นฝ่ายต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์ นั้น ชุติพงศ์ กล่าวว่า มีประเด็นความไม่ชอบธรรมทางกระบวนการในการขึ้นสู่อำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ การการบริหารงานไม่ได้เป็นไปตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาคม และละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะเรื่องการเอาประชาชนขึ้นศาลทหาร โดย มีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ประกอบด้วย หนึ่ง คืนอำนาจให้ประชาชนคนไทยโดยเร็ว โดยนำรัฐธรรมนูญปี 40 ซึ่งเป็นของประชาชนกลับมาใช้ แล้วมีการเลือกตั้งโดยเร็ว สอง หยุดลิดรอนสิทธิและเสรีภาพของประชาชน โดยให้เคารพสิทธิมนุษยชนของพลเมืองไทย สาม ทหารกินเงินเดือนจากภาษีประชาชนต้องเป็นองประชาชนเพื่อประชาชนเท่านั้น
ภาพจาก Chutiphong Pipoppinyo
ชุติพงศ์ กล่าวด้วยว่า คนที่มาประท้วงพล.อ.ประยุทธ์ นั้น มีความหลากหลาย ส่วนหลักเป็นส่วนที่เคยเข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่ม นปช. โดยจะมีคนที่เข้าร่วมการชุมนุมของกลุ่มย่อยเวทีอิสระอย่างกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย กลุ่มนักศึกษาทั้งที่เคยเคลื่อนไหวกับ สนนท. นอกจากนี้ยังเป็นกลุ่มที่ไม่ได้มาจากสายการเมืองมาก โดยจะมีป้ายของตนเองมาทำให้ประเด็นมีความหลากหลาย ทั้งประเด็นละเมิดสิทธิอย่างกรณีประเด็นสื่อประเด็นประวิตร โรจนพฤกษ์ ป้ายประเด็นของสมยศ พฤกษาเกษมสุข ป้าย NO 112 ป้ายไม่เอา ม.44 และประเด็นสิทธิมนุษยชน โดยหากเป็นกลุ่มที่เป็นการเมืองมากๆ ก็จะชูประเด็นไม่เอาประยุทธ์ รวมไปถึงประเด็นโครงการพัฒนาของรัฐตางๆ เช่นประเด็นเรื่องเหมืองทอง เหมืองแร่เมืองเลย ประเด็นเรื่องโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ การเวนคืนที่ดิน ฯลฯ เป็นประเด็นค่อนข้างรวมมิตรมาก
ขณะที่ฝ่ายสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ นั้น ชุติพงศ์ ระบุว่า จะเน้นการให้กำลังใจและเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะทำให้ประเทศกลับสู่ภาวะสงบสุขได้ และใช้อำนาจที่มีทำให้จัดการปัญหาคอรัปชั่น เป็นต้น รวมทั้งมีการประท้วงยิ่งลักษณ์และทักษิณด้วย
สภาพจริงชุมนุมต่างจากในเฟซบุ๊ก-ชี้ประชาธิปไตยทำให้เราฟังกัน
ชุติพงศ์ กล่าวถึงสภาพการถกเถียงในเฟซบุ๊กกับสภาพชุมนุมจริงว่า คนที่มาคอมเมนต์ก็คอมเมนต์โดยความสัมพันธ์เชิงปัจเจคมันอยู่ภายใต้ความสัมพันธ์ทางการเมืองมันยังมีพลังอยู่อย่างที่ผมก็คิดไม่ถึง เพราะอย่างที่ซานฟรานซิสโกนั้นคุยไม่ได้เลย แต่ว่าที่นี่(นิวยอร์ก)เขาค่อนข้างจะเปิดมากๆ เดินมาถ่ายรูปคู่ก็มี
ดารุณี กฤตบุญญาลัย ถ่ายคู่กับผู้ชุมนุมสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ ภาพจาก Chutiphong Pipoppinyo
“เหมือนเด็กจบจากสถาบันที่เคยทะเลาะกันแล้ว แล้วมาเจอหน้ากันตอนโตแล้ว” ชุติพงศ์ กล่าวถึงสภาพการชุมนุมระหว่าง 2 กลุ่ม
“มีบล็อกเฟซบุ๊กของคนที่มาคอมเมนต์ในเฟซบุ๊กก็จริง แต่พอมาเจอกันจริงๆ ก็ผิดคาด แต่ก็มีคนที่บอกว่า ‘รักเผด็จการก็กลับไทยไปสิ’ มีคนตะโกนแบบนี้ แต่ก็มีคนตะโกนบอกว่า ‘เฮ้ย เขาก็ใช้สิทธิของเขาไง เพราะว่าประชาธิปไตยทำให้คนมีสิทธิ’ ผมก็พูดเหมือนกันว่าเขาอยากรู้ว่าเราพูดอะไรก็ให้เขามาฟัง” ชุติพงศ์ เล่าบรรยากาศการชุมนุมดังกล่าวเพิ่มเติม พร้อมระบุด้วยว่าหลังจากที่มีการแลกเปลี่ยนกันภายในฝ่ายต่อต้านพล.อ.ประยุทธ์ ก็เปิดโอกาสให้ฝ่ายสนับสนุนเข้ามาถ่ายรูปและฟังสิ่งที่ฝ่ายต่อต้านนำเสนอข้อมูลได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น