วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้กักขัง 'อ.ตุ้ม' 1 เดือน คดีวางหรีดหน้าศาล


26 พ.ย. 2558 มติชนออนไลน์รายงานว่านางสุดสงวน สุธีสร หรือ อาจารย์ตุ้ม อาจารย์ประจำ คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เดินทางมายังศาลแพ่ง ตามที่ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดี ละเมิดอำนาจศาล ที่เป็นผู้ถูกกล่าวหา ร่วมกับนางดารุณี กฤตบุญญาลัย และ นายพิชา วิจิตรศิลป์ ทนายความกลุ่ม นปช. ซึ่งเสียชีวิตแล้ว นำกลุ่มมวลชนวางพวงหรีดและชูป้ายข้อความวิจารณ์การทำหน้าที่ของศาลแพ่ง เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2557
 
ซึ่งศาลได้จำหน่ายคดีของนางดารุณี ผู้ถูกกล่าวที่ 1 พร้อมออกหมายจับหลังไม่มาศาลตามนัด และพิพากษาจำคุก นางสุดสงวน และ นายพิชา ฐานละเมิดอำนาจศาล คนละ 2 เดือนแต่คำรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา จึงเห็นควรลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 1 เดือน โดยไม่รอลงอาญา
 
ด้านศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมพร้อมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า นางสุดสงวน ให้การรับสารภาพ แต่อุทธรณ์ว่าเป็นการร่วมชุมนุมภายใต้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ และไม่ทราบว่ามีการนำพวงหรีดมาศาล ซึ่งตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวงหรีด ส่วนการร้องเพลงก็เป็นเพลงประจำกลุ่ม ไม่มีเจตนาส่งเสียงดังรบกวนการพิจารณาคดีของศาลแพ่ง นั้น เห็นว่าเป็นการอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ซึ่งต้องห้ามอุทธรณ์ จึงไม่รับวินิจฉัย
 
ส่วนจะมีเหตุให้รอการลงโทษหรือไม่ศาลเห็นว่า นางสุดสงวน จบการศึกษาคณะนิติศาสตร์ ระดับปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจบปริญญาโท จากสหรัฐอเมริกา ย่อมทราบดีถึงขั้นตอนกระบวนการพิจารณาคดีในชั้นศาล การนำพวงหรีดมาวางหน้าศาล และร้องเพลงเสียดสีเกี่ยวกับการตัดสินคดีของศาลแพ่ง ถือว่าไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมาย เป็นเรื่องร้ายแรง แม้ นางสุดสงวน ไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน ก็ไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ แต่พิพากษาแก้ให้เปลี่ยนจากโทษจำคุกเป็นกักขังนางสุดสงวน แทน เป็นเวลา 1 เดือน นอกนั้นให้เป็นไปตามศาลชั้นต้น
 
ขณะที่บรรยากาศที่ศาลแพ่ง มีกลุ่มแนวร่วม นปช. เดินทางมาให้กำลังใจพร้อมมอบดอกไม้ให้ นางสุดสงวน จำนวนมาก โดยมีกำลังตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว ดูแลความเรียบร้อยบริเวณถนนรัชดาภิเษก และ มีกำลังตำรวจจาก สน.พหลโยธิน ดูแลความเรียบร้อย บริเวณภายในอาคาร และ บริเวณโดยรอบศาลแพ่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น