'กลิน เดวีส์' ทูตสหรัฐประจำประเทศไทยแสดงความกังวลต่อบทระวางโทษจำคุกหนักหน่วงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ที่พิพากษาภายใต้กฎหมายหมิ่นสถาบันฯ ของประเทศ ระบุไม่มีใครควรถูกจำคุกฐานแสดงความคิดเห็นอย่างสันติ
เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2558 ASTV ผู้จัดการออนไลน์ อ้างรายงานตามสำนักข่าวเอเอฟพีว่า นายกลิน ที. เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ ณ เวทีเสวนาที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศในกรุงเทพฯ ขณะที่การดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ปกครองของคณะรัฐประหาร
“เรายังกังวลต่อบทระวางโทษที่ยาวนานอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ที่ศาลทหารไทยพิพากษาต่อพลเมืองฐานละเมิดกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ” เดวีส์ บอกกับผู้ที่ร่วมเสวนา หลังจากแสดงความกังวลว่ากฎหมายหมิ่นประมาททางอาญานี้ถูกใช้สำหรับสกัดกั้นการโต้เถียงของสาธารณะกว้างขวางมากขึ้น
นายเดวีส์ ที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งได้ราวๆ 9 สัปดาห์ ย้ำว่ารัฐบาลสหรัฐฯ มีความเคารพอย่างยิ่งและรู้สึกชื่นชมพระมหากษัตริย์ไทย แต่ก็อ้างถึงสิทธิการแสดงความคิดเห็นอย่างอิสรเสรี “เราเชื่อว่าไม่ควรมีใครควรถูกจำคุกต่อการแสดงมุมมองอย่างสันติ และเราสนับสนุนอย่างหนักแน่นต่อความสามารถของบุคคลหรือองค์กรอิสระใดๆ ในการค้นคว้าวิจัยและรายงานประเด็นสำคัญๆ โดยปราศจากความกลัวว่าจะถูกแก้แค้น”
ภายใต้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ใครก็ตามที่ถูกพิพากษาว่ามีความผิดฐานดูหมิ่น ดูถูก กล่าวหา ใส่ร้าย และทำให้พระมหากษัตริย์ พระราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์เสื่อมเสีย มีสิทธิต้องโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี
นับตั้งแต่ก่อรัฐประการเมื่อปีที่แล้ว กองทัพได้ยกระดับการตรวจตราคำกล่าวหาละเมิดสถาบันฯ มากขึ้น โดยเฉพาะในสื่อสังคมออนไลน์
ในเดือนสิงหาคม สหประชาชาติบอกว่ารู้สึกตกใจต่อโทษจำคุก 30 ปี และ 28 ปีต่อคนไทย 2 คน ในความผิดหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ฐานดูหมิ่นกล่าวหาสถาบันฯ บนเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นโทษสูงสุดเท่าที่เคยมีมา
ไทยเป็นพันธมิตรที่ยาวนานของสหรัฐฯ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติตกอยู่ในความตึงเครียดนับตั้งแต่เหตุรัฐประหารเมื่อปีที่แล้วที่สหรัฐฯ ออกมาประณามอย่างหนักหน่วง
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์อันตึงเครียดเช่นนี้ก่อความเสี่ยงต่อดุลอำนาจของสหัฐฯ ทำให้อเมริกาลังเลที่จะโดดเดี่ยวไทยซึ่งเป็นพันธมิตรเก่าแก่ในภูมิภาค และในวันพุธ (25 พ.ย.) นายเดวีส์ แม้ย้ำถึงเสียงเรียกร้องของวอชิงตันที่ขอให้ไทยคืนสู่ประชาธิปไตย แต่เน้นว่าเขาไม่อยากให้มันเป็นไปในลักษณะของการชี้นิ้วต่อว่า “ไทยจำเป็นต้องทำมันด้วยตนเอง” เขากล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น