หนังสือพิมพ์อินเตอร์เนชั่นแนล นิวยอร์กไทมส์ ฉบับวางจำหน่ายในไทยวันที่ 4 ธ.ค. ถูกโรงพิมพ์ในประเทศปฏิเสธพิมพ์ข่าวอีกเป็นครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์ โดยเจ้าของโรงพิมพ์ระบุว่ามีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับสถาบันเบื้องสูง
3 ธ.ค. 2558 - หนังสือพิมพ์รายวัน อินเตอร์เนชั่นแนล นิวยอร์กไทมส์ ฉบับวันที่ 4 ธันวาคม เวอร์ชั่นที่พิมพ์จำหน่ายในไทย ถูกโรงพิมพ์ในประเทศปฏิเสธพิมพ์ข่าวอีกเป็นครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์
ทั้งนี้ ตามรายงานของผู้จัดการออนไลน์ ได้สัมภาษณ์นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EPCO เปิดเผยว่า โรงพิมพ์ได้ตรวจสอบพบข่าวฉบับที่จะตีพิมพ์วางจำหน่ายในวัน 4 ธ.ค. มีพาดหัวข่าวและเนื้อหาข่าวที่เป็นประเด็นอ่อนไหวเกี่ยวข้องกับสถาบันเบื้องสูงจึงสั่งให้งดพิมพ์ข่าวดังกล่าว
โดยนับตั้งแต่เดือนกันยายนปีนี้ โรงพิมพ์ซึ่งเป็นคู่สัญญาของนิวยอร์กไทมส์ ตัดสินใจไม่พิมพ์หนังสือพิมพ์อินเตอร์เนชั่นแนล นิวยอร์กไทมส์แล้ว 3 ฉบับ ได้แก่ ฉบับวันที่ 22 ก.ย. 2558, 1 ธ.ค. 2558 และ 4 ธ.ค. 2558ปล่อยพื้นที่ว่างในหน้า 1 และหน้า 6 ของหนังสือพิมพ์ พร้อมข้อความว่า "บทความซึ่งอยู่ในพื้นที่นี้ถูกนำออกไปโดยผู้พิมพ์ของเราในประเทศไทย อินเตอร์เนชั่นแนล นิวยอร์กไทมส์ และกองบรรณาธิการไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำออกดังกล่าว" (อ่านข่าวก่อนหน้านี้)
แฟ้มภาพหนังสือพิมพ์อินเตอร์เนชั่นแนล นิวยอร์ก ไทมส์ ฉบับวันที่ 1 ธันวาคม ที่ปล่อยพื้นที่ว่างที่หน้า 1 บริเวณบทรายงานข่าวของโทมัส ฟุลเลอร์ และมีการลงข้อความว่า "บทความซึ่งอยู่ในพื้นที่นี้ถูกนำออกไปโดยผู้พิมพ์ของเราในประเทศไทย อินเตอร์เนชั่นแนล นิวยอร์กไทมส์ และกองบรรณาธิการไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำออกดังกล่าว"
ในหนังสือพิมพ์อินเตอร์เนชั่นแนล นิวยอร์กไทมส์ ฉบับวันที่ 1 ธ.ค. มีบทความของ โทมัส ฟุลเลอร์ เรื่อง "Thai Economy and Spirits Are Sagging" ใจความหลักพูดถึงสถานการณ์เศรษฐกิจของไทยที่กำลังย่ำแย่ นอกจากนั้นเป็นการให้ภาพรวมด้านสถานการณ์ทางการเมืองทั้งการ "ปรับทัศนคติ" และแนวคิดซิงเกิลเกตเวย์ รวมถึงกรณีการเสียชีวิตด้วยการ "ฆ่าตัวตาย" และ "ป่วย" ของผู้ต้องหาสามรายในคดี 112 รวมถึงมีการกล่าวถึงสมาชิกในราชวงศ์
โดยฉบับที่พิมพ์จำหน่ายในประเทศไทย มีการปล่อยพื้นที่ว่างในหน้า 1 และหน้า 6 ของหนังสือพิมพ์ พร้อมข้อความว่า "บทความซึ่งอยู่ในพื้นที่นี้ถูกนำออกไปโดยผู้พิมพ์ของเราในประเทศไทย อินเตอร์เนชั่นแนล นิวยอร์กไทมส์ และกองบรรณาธิการไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำออกดังกล่าว"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น