ปมราชภักดิ์ ‘จตุพร’ ชี้ไม่มีที่ไหนให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไปตรวจสอบผู้บังคับบัญชาตัวเองที่เป็นรัฐมนตรี ใครจะกล้าตรวจสอบ ‘ณัฐวุฒิ’ เผยทหารมาเฝ้าหน้าบ้านอ้างทำตามหน้าที่ สวนการตรวจสอบทุจริตก็เป็นหน้าที่ ปชช. เช่นกัน
จากเมื่อช่วงสายของวานนี้ (30 พ.ย.58) จตุพร พรหมพันธุ์ และ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ถูกเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัว กลางตลาดมหาชัย จ.สมุทรสาคร ท่ามกลางสื่อมวลชนที่รอทำข่าว และประชาชน ระหว่างแถลงข่าวก่อนเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์ (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม) ล่าทั้งคู่ถูกปล่อยตัวจนกลับถึงบ้าน ในคืนวันเดียวกัน โดย ณัฐวุฒิ โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ’ เมื่อเวลา 0.07 น. ของวันนี้(1 ธ.ค.58) ว่า “ขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วงครับ ผมกลับถึงบ้านตอน 3 ทุ่ม 40 ปลอดภัยดี แต่มีรถทหารและรถปิคอัพตามมาจอดสตาร์ทเครื่องอยู่หน้าบ้านทันทีที่มาถึง คงจอดทั้งคืน ตกลงปล่อยผมหรือยังครับ”
ณัฐวุฒิ เผยทหารเฝ้าบ้านอ้างทำตามหน้าที่ สวนตรวจสอบทุจริตก็เป็นหน้าที่ ปชช. เช่นกัน
เมื่อเวลา 13.21 น. วันนี้(1 ธ.ค.58) ณัฐวุฒิ โพสต์ภาพและข้อความผ่านเพจดังกล่าวอีกว่า เมื่อการเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์เป็นเรื่องที่ฝ่ายความมั่นคงยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้ เราก็ยุติเรื่องนี้ เพราะไม่มีเจตนาจะใช้ประเด็นดังกล่าวเป็นเงื่อนไขทางการเมืองเผชิญหน้ากับรัฐบาลแต่อย่างใด ส่วนการติดตามผลการตรวจสอบจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเดินหน้าต่อไป
“ผมมั่นใจว่าความจริงที่ตรงไปตรงมา ในระยะเวลาที่เร่งด่วนเท่านั้นที่จะคลายความสงสัยของคนในสังคมได้ แต่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นที่บ้านผม ไม่แน่ใจว่ามาจากเจตนาใดของผู้มีอำนาจ เพราะยังคงมีทหารทั้งในและนอกเครื่องแบบสลับกันมาเฝ้าหน้าบ้านตลอด 24 ชั่วโมง ช่วงสายวันนี้ผมเดินออกไปสนทนาด้วย เขาบอกว่ามาทำตามหน้าที่ ผมก็ไม่ขัดข้อง แต่การติดตามตรวจสอบการทุจริตก็เป็นหน้าที่ของประชาชนเช่นกัน” ณัฐวุฒิ กล่าว
ภาพณัฐวุฒิ ตรวจสอบรถที่มีตรากองทัพและไม่ติดป้ายทะเบียนซึ่งจอดบริเวณบ้านพักตนเอง
ทั้งนี้ตั้งแต่มีการประกาศของทั้ง 2 แกนนำ นปช. ที่จะไปอุทยานราชภักดิ์ ได้มีเจ้าหน้าที่ทหารมาอยู่บริเวณบ้านพักของ ณัฐวุฒิ โดยเมื่อวันที่ 29 พ.ย. ที่ผ่านมา เขากล่าว่า มีรถทหาร 4 คันมาที่บ้าน ริมถนนหน้าหมู่บ้าน 4 คน ป้อมยาม 8 คน ศาลพระภูมิ 6 คน จอดรถหน้าบ้าน 1 คัน
จตุพร ชี้ปมราชภักดิ์ ตั้งลูกน้องสอบนาย ใครจะกล้าตรวจสอบ
ขณะที่ จตุพร กล่าวในรายการมองไกล ผ่านยูทูปเมื่อ 1 ธ.ค.นี้ ว่า การถูกควบคุมตัวขณะจะเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์นั้น ไม่ได้กระทบกระเทือนจิตใจเลย และขอขอบคุณทหารที่ควบคุมตัวได้ทำด้วยน้ำใจแห่งมิตรไมตรีต่อกัน แม้ พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และกองทัพบก แถลงการควบคุมตัวเนื่องจากใช้คำว่า "ทุจริต" ซึ่งเป็นเพียงความรู้สึก ความเชื่อเท่านั้น แต่ตนได้ย้ำมาเสมอว่า รับไม่ได้กับการทุจริตเพราะเป็นสิ่งที่เลวร้าย ยิ่งการทุจริตอุทยานราชภักดิ์จึงเป็นสิ่งเลวร้ายเกินกว่าจะหาเรื่องใดมาเปรียบเทียบได้
"ไม่คาดคิดว่า การเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์จะไปกระทบความมั่นคง หรือกระทบต่อผู้มีอำนาจทั้งปวง เพราะอุทยานราชภักดิ์ ไม่ได้เป็นสมบัติของใคร คนใดคนหนึ่ง แม้กองทัพเป็นผู้จัดสร้าง แต่เป็นของคนไทยทุกคน เนื่องจากได้รับการพระราชทานชื่อจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ว่า อุทยานราชภักดิ์ แปลว่า อุทยานที่สร้างขึ้นด้วยความจงรักภักดี ดังนั้น การห้ามพวกผมไปอุทยานราชภักดิ์ สังคมก็ไม่ได้หมดความเคลือบแคลงใจ และที่สำคัญ พวกผมไม่ได้ไปเพื่อโค่นล้มใคร แต่ต้องการไปเห็นด้วยตาของตัวเอง" จตุพร กล่าว
จตุพร กล่าวด้วยว่า ตลอดเวลาเกิดข้อหาการจัดสร้างมีทุจริตขึ้น คนไทยเรียกร้องให้ตรวจสอบตามข้อเท็จจริง แต่ผลสอบของกองทัพบกกลับไร้ข้อมูลมาอธิบาย บอกเพียงให้เชื่อว่าไม่ทุจริต แล้ว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ตั้งกรรมการจากทหารทั้งหมดมาตรวจสอบซ้ำอีก ซึ่งคงไม่มีที่ไหนให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไปตรวจสอบผู้บังคับบัญชาตัวเองที่เป็นรัฐมนตรี ใครจะกล้าตรวจสอบ ดังนั้นจึงเป็นเพียงการแก้ปัญหาทางการเมือง เพื่อให้ประชาชนหายเคลือบแคลงใจ โดยไม่ได้มุ่งตรวจสอบหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น รวมทั้งไม่ได้กำหนดเวลาให้แล้วเสร็จไว้ด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น