วันอังคารที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2559

ยกจริยธรรม 'สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์' จี้ช่อง 3 ถอด 'สรยุทธ' ชั่วคราวจนกว่าคดีจะสิ้นสุด


1 มี.ค. 2559 สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ออกแถลงการณ์ เรื่อง การทบทวนการทำหน้าที่ของพิธีกรข่าว กรณี นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา โดย ระบุว่า จากการที่ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 29 ก.พ. 59 ให้จำคุกนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ดำเนินรายการข่าวของสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไร่ส้ม จำกัด เป็นเวลา 13 ปี 4 เดือน ในข้อหาที่เกี่ยวกับการทุจริตค่าโฆษณาของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และต่อมา นายสรยุทธ ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวเพื่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์  
แถลงการณ์ ระบุด้วยว่า คำพิพากษาดังกล่าวได้ก่อให้เกิดกระแสเรียกร้องให้ นายสรยุทธ ยุติการปฏิบัติหน้าที่เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องที่เกิดขึ้น  แต่ในเวลาต่อมาผู้บริหารของสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ได้มีมติให้ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ทำหน้าที่ต่อไป โดยนายสุรินทร์ กฤตยา-พงศ์พันธุ์ ปฏิบัติการแทนรักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด หรือ  สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ให้เหตุผลว่าเนื่องจากกรณีนี้ได้เกิดขึ้นก่อนนายสรยุทธ มาร่วมงานกับสถานี และคดีนี้ยังไม่ถึงที่สุด
สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ซึ่งเป็นองค์กรวิชาชีพที่มีสมาชิกระดับบุคคลและระดับองค์กรของของสถานีโทรทัศน์และสถานีวิทยุต่างๆ ทั่วประเทศ  ได้ร่วมหารือถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นประกอบกับความคิดเห็นและปฏิกิริยาของส่วนต่างๆ ในสังคม และมีความเห็นว่ากรณีดังกล่าวมีผลกระทบไม่ใช่เฉพาะต่อความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ของสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3  เท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบต่อวงการสื่อมวลชนไทยในภาพรวมซึ่งกำลังอยู่ในภาวะที่ถูกสังคมตั้งคำถามต่อความรับผิดชอบและจริยธรรมในการปฏิบัติหน้าที่
ถึงแม้กรณีนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการอุทธรณ์ แต่คำพิพากษาของศาลชั้นต้นเป็นการพิสูจน์ในกระบวนการยุติธรรมว่ามีหลักฐานเพียงพอว่า นายสรยุทธ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตที่เกิดขึ้น  ซึ่งเป็นความผิดทั้งทางด้านอาญาและด้านจริยธรรม เพราะฉะนั้นสังคมจึงมีความคาดหวังว่า สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 จะแสดงความรับผิดชอบและเป็นตัวอย่างในการวางมาตรฐานจริยธรรมด้วยการให้ นายสรยุทธ ยุติบทบาทหน้าจอ อย่างน้อยเป็นการชั่วคราวจนกว่าคดีจะสิ้นสุด
สื่อมวลชนไทยได้ยึดมั่นในหลักการของการกำกับและดูแลกันเองเพื่อสร้างหลักประกันสำหรับเสรีภาพในการรายงานข้อมูลข่าวสารและแสดงความคิดเห็นมาตลอด  แต่จุดยืนของสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ต่อกรณี นายสรยุทธ ทำให้หลักการของการกำกับดูแลกันเองของสื่อถูกตั้งคำถามมากขึ้น  และเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้กับความพยายามของกลุ่มคนที่ต้องการให้มีกลไกที่มีอำนาจทางกฎหมายในการควบคุมและลงโทษสื่อที่ละเมิดจริยธรรม
"ขอเรียกร้องให้ผู้บริหารของ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ทบทวนการทำหน้าที่ของ  นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา เพื่อเป็นแบบอย่างในการสร้างบรรทัดฐานด้านจริยธรรมให้กับวงการสื่อมวลชนไทย" สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ระบุตอนท้ายแถลงการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น