รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ค้านแนวคิดให้พระสงฆ์เป็นสมาชิกพรรคการเมือง หวั่นความเคารพนับถือศรัทธาของประชาชนถดถอยลง จนกลายเป็นความเสื่อมศรัทธาได้
27 พ.ย. 2559 สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น รายงานว่านายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงโรดแมปการเลือกตั้ง ว่า ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณอะไรบ่งบอกว่าจะไม่เป็นไปตามโรดแมป โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ได้ระบุไว้อย่างชัดเจน ว่า ยืนยันรัฐบาลเดินหน้าตามโรดแมปที่ได้วางไว้ ซึ่งการจะเป็นไปตามโรดแมปหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข 2 ประการ คือ 1. เงื่อนไขตามเวลา และ 2. เงื่อนไขตามสถานการณ์
อย่างไรก็ตาม นายองอาจ ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนของเงื่อนไขตามเวลานั้น เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะรัฐธรรมนูญได้บัญญัติระยะเวลาดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ ไว้อย่างชัดเจน แต่ในส่วนของเงื่อนไขตามสถานการณ์ คงไม่มีใครบอกได้ล่วงหน้า เพราะไม่รู้ว่าสถานการณ์ในวันเวลาข้างหน้าจะเป็นอย่างไร อาจมีสถานการณ์หรือเหตุการณ์ที่ทำให้โรดแมปเคลื่อนได้ และหากโรดแมปจะเคลื่อน แต่ถ้ามีเหตุผลเพียงพอมีความจำเป็นที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เชื่อว่าทุกฝ่ายพร้อมจะรับฟังเหตุรับฟังผล แต่ส่วนตัวมองว่าขณะนี้ทุกอย่างยังเป็นไปตามโรดแมป
นอกจากนี้ นายองอาจ ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะอนุกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ รับฟังความคิดเห็นของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ มีข้อเสนอแนะให้พระสงฆ์เป็นสมาชิกพรรคการเมืองได้ ว่า อยากทราบเหตุผลที่ชัดเจนถึงข้อเสนอให้พระสงฆ์เป็นสมาชิกพรรคการเมืองได้ ว่า มีวัตถุประสงค์ที่แท้จริงเพื่ออะไร ซึ่งโดยส่วนตัวไม่เห็นด้วย เนื่องจากพระสงฆ์เป็นผู้ทรงศีล อยู่ในสถานะเป็นที่เคารพนับถือ และศรัทธาของพุทธศาสนิกชน พระสงฆ์จึงควรดำรงตนให้เป็นที่เคารพนับถือ ศรัทธาของประชาชน การที่พระสงฆ์เป็นสมาชิกพรรคการเมือง และทำกิจกรรมทางการเมือง อาจมีส่วนทำให้ความเคารพนับถือศรัทธาของประชาชนถดถอยลง จนกลายเป็นความเสื่อมศรัทธาได้ พระ สมควรมีวัตรปฏิบัติที่ดี ความเป็นกลางทางการเมือง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด น่าจะเหมาะสมกว่าหรือไม่
ดังนั้น ข้อเสนอนี้เป็นข้อเสนอที่อ่อนไหว จึงอยากขอร้องให้คณะอนุกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ คิดให้ดี รอบคอบ ก่อนเสนอให้กรรมการร่างรัฐธรรมนูญยกร่างเป็นกฎหมายออกมาบังคับใช้ต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น