มติชนออนไลน์รายงานอ้างแหล่งข่าว ป.ป.ช. เผยการสอบบริษัทลูกชาย 'พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา' ชี้ชัดไม่ได้ว่าใครผิด จะต้องไปตรวจสอบข้อมูลในรายละเอียดของบริษัทนั้นก่อน ยอมรับว่าการแสวงหาข้อเท็จจริงในกรณีนี้เกิดความล่าช้าและต้องสะดุดลงเล็กน้อย ต้องรอแก้ระเบียบก่อนเดินหน้าต่อ
12 ก.พ. 2560 มติชนออนไลน์ รายงานว่าจากกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แสวงหาข้อเท็จจริง กรณีร้องเรียนให้ตรวจสอบ หจก.คอนเทมโพรารี คอนสตรัคชั่น ที่มีนายปฐมพล จันทร์โอชา บุตรชาย พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม และอดีตแม่ทัพภาคที่ 3 เป็นคู่สัญญากับภาครัฐหลายแห่ง รวมถึงกองทัพภาคที่ 3 ด้วย รวมวงเงินกว่า 155 ล้านบาท โดยคณะทำงานแสวงหาข้อเท็จจริงได้ส่งเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ไปตรวจสอบที่ตั้งของ หจก.คอนเทมโพรารีฯ ที่ตั้งอยู่ในค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ จ.พิษณุโลกแล้วพบข้อมูลเบื้องต้นว่าหจก.ดังกล่าวอาจเข้าข่ายไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะรับงานในฐานะคู่สัญญากับภาครัฐได้นั้น
“เป็นการลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องของส่วนราชการที่ไปจ้างบริษัทที่ไม่เคยมีผลงาน ไม่มีเครื่องมืออุปกรณ์เพียงพอ ยังไม่สามารถเจาะจงว่าเกี่ยวโยงกับอดีตข้าราชการหรือบุตรได้แต่อย่างใด ชี้ชัดไม่ได้ว่าใครผิด จะต้องไปตรวจสอบข้อมูลในรายละเอียดของบริษัทนั้นก่อน ยอมรับว่าการแสวงหาข้อเท็จจริงในกรณีนี้เกิดความล่าช้าและต้องสะดุดลงเล็กน้อย เนื่องจากเมื่อพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่4) พ.ศ. 2559 ประกาศใช้ออกมาแล้ว (ประกาศในราชกิจจาฯเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2559) กำหนดว่าการทำงานในชั้นของการแสวงหาข้อเท็จจริงอำนาจขึ้นอยู่กับคณะกรรมการป.ป.ช. แต่เดิมขึ้นอยู่กับเลขาป.ป.ช. ดังนั้นสำนักกฎหมายจึงต้องดำเนินการปรับปรุงระเบียบป.ป.ช.ให้สอดคล้องเสียก่อน ทราบว่าสำนักกฎหมายเตรียมเสนอเข้าที่ประชุมกรรมการป.ป.ช.ในสัปดาห์หน้า จากนั้นก็สามารถเดินหน้าแสวงหาข้อเท็จจริงต่อไปได้ทันที อย่างไรก็ตามขอย้ำว่ากรณีนี้ยังอยู่ในชั้นแสวงหาข้อเท็จจริงเท่านั้น ยังไม่ถึงชั้นของการตั้งอนุกรรมการไต่สวนแต่อย่างใด” แหล่งข่าวระบุ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น