โกตี๋ อัดถูกยัดเยียดข้อหาก่อการร้าย ชี้อาวุธขนาดนั้นมีแต่ทหารที่ทำได้ ยันไม่ได้เป็นเครือข่ายหรือกองกำลังติดอาวุธ แต่เป็นการติดความคิด ด้านประวิตรระบุพบวางแผนลอบสังหารตน ขณะที่ โฆษก ทบ. ชี้โยงกับธรรมกายไม่สมเหตุสมผล โดย ตร.กำลังสอบขยายผล
20 มี.ค. 2560 จากรณีเมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา ฝ่ายความมั่นคงและทหารบุกค้นบ้าน วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำเสื้อแดง พร้อมเป้าหมายอื่น รวมจำนวน 9 จุด ซึ่งในบางจุดพบอาวุธแต่บางจุดไม่พบนั้น (อ่านรายละเอียด)
วันนี้ (20 มี.ค.60) สำนักข่าวไทย รายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า เนื่องจากมีบุคคลให้ข้อมูล และเจ้าหน้าที่ได้ติดตามข่าวอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่การจัดฉาก ยืนยันต้องขอตัวโกตี๋ จากทางการลาว เพราะเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง
พล.อ.ประบิตร ยอมรับว่าขณะนี้ยังไม่ทราบผู้บงการใหญ่ ย้ำที่ผ่านมาไม่ได้กล่าวหาใคร เพราะอาจไม่ใช่กลุ่มคนเสื้อแดง และมั่นใจว่าเรื่องนี้จะไม่กระทบกับการเดินหน้าสร้างความปรองดอง
ประวิตรระบุพบวางแผนลอบสังหารตน
ขณะที่ บีบีซีไทย รายงานไว้วานนี้ (19 มี.ค.60) ซึ่ง พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงกรณีนี้ด้วยว่า การตรวจค้นและพบอาวุธ เป็นการติดตามสืบค้นมาอย่างต่อเนื่องแล้วจึงขยายผลการจับกุม ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีการตรวจค้นแล้วครั้งหนึ่ง แต่ไม่เจอเพราะมีการโยกย้ายถ่ายเทออกไป จนกระทั่งมีการนำกลับมาอีกครั้ง เจ้าหน้าที่จึงติดตามมาจนสามารถจับกุมได้ ก็ต้องย้อนถามไปว่า อาวุธสงครามจำนวนมากขนาดนี้จะนำไปทำอะไร และพบว่ามีการวางแผนลอบสังหารตนเองด้วยอาวุธนี้ด้วย เพราะสถานที่ที่พบอยู่ใกล้กับบ้านของตนเอง
โฆษก ทบ. ชี้โยงกับธรรมกายไม่สมเหตุสมผล
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า อาวุธและวัตถุระเบิดที่จับได้ ถูกพบในสถานที่เป้าหมาย โดยมีการหลบซ่อนไว้อย่างมิดชิดในพื้นที่ส่วนบุคคล ซึ่งคนภายนอกไม่สามารถจะเข้าถึงได้ และการตรวจค้นก็อาศัยกระบวนการสืบสวนที่เป็นระบบ ควบคู่กับงานการข่าว เมื่อมีข้อมูลชัดเจนในแง่ของพยานหลักฐานแล้ว เจ้าหน้าที่จึงเข้าดำเนินการ และครั้งนี้สื่อมวลชนก็เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ที่บันทึกภาพการปฏิบัติไว้อย่างละเอียด เพื่อเป็นหลักฐานป้องกันผู้ไม่หวังดีนำไปทำลายความน่าเชื่อ
พ.อ.วินธัย กล่าวว่ากรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจเชื่อมโยงกับปัญหาวัดพระธรรมกายนั้น ขอชี้แจงว่า ปัจจุบันเจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการเกี่ยวกับงานรักษากฎหมาย งานดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่วัดพระธรรมกายและโดยรอบได้อยู่แล้ว ข้อสังเกตดังกล่าวจึงดูไม่สมเหตุสมผล และเรื่องของการเชื่อมโยงบุคคลในทางคดี ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ซึ่งยังอยู่ในระหว่างสอบสวนบุคคลต่าง ๆ
โกตี๋ อัดถูกยัดเยียดข้อหาก่อการร้าย ชี้อาวุธขนาดนั้นมีแต่ทหารที่ทำได้
วานนี้ (19 มี.ค.60) วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ ให้สัมภาษณ์ Thaivoice กรณีดังกล่าวว่า ทั้งหมดเป็นการจัดฉาก เพื่อยัดเยียดข้อหาก่อการร้ายให้กับตน แต่เป็นฉากที่ไม่เนียน เป็นการขายความโง่ของทหารไทย เหมือนกับหลายครั้งที่ทำกับคนที่ต่อต้านรัฐบาลเผด็จการทหาร ยืนยันว่า ตนไม่ได้เป็นเจ้าของอาวุธสงครามเหล่านั้น ประชาชนธรรมดาไม่สามารถหาอาวุธสงครามแบบนั้นมาถือครองได้ ยกเว้นทหารเท่านั้นที่จะมีอาวุธสงครามร้ายแรงแบบนี้ได้ ซึ่งเรื่องนี้ พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 รู้ดีว่าอาวุธดังกล่าวมาจากไหน
วุฒิพงศ์ ยืนยันว่า ตนไม่ได้เป็นเครือข่ายหรือกองกำลังติดอาวุธ แต่เป็นการติดความคิดให้กับประชาชนที่ต่อต้านรัฐบาลเผด็จการทหารเท่านั้น อีกทั้งข้อกล่าวหาว่าจะก่อเหตุร้ายหลายจุดในประเทศไทยนั้น ยืนยันว่าไม่มี แต่ในฐานะประชาชนที่ถูกกระทำมาโดยตลอดจะไม่ยอมตกเป็นผู้ถูกกระทำอีกต่อไป ส่วนแผนการลอบสังหาร พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตรนั้น ก็ไม่มีเช่นกัน แต่จากการเป็นผู้นำที่ไร้วุฒิภาวะ ไร้ความสามารถ พูดจาไม่ดี ของผู้นำทั้งสองคนนี้ เชื่อว่าคนไทยจำนวนมากไม่พอใจแน่นอน
ตร.สอบขยายผล
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ รายงานด้วยว่า วันนี้ (20 มี.ค.60) เมื่อเวลา 10.40 น. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญผกก.ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา ในฐานะ รองโฆษก ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าการปฏิบัติการตรวจค้นแหล่งสะสมอาวุธสงคราม 9 จุด ในพื้นที่ 7 จังหวัด เครือข่าย วุฒิพงศ์ หรือ “โกตี๋” ว่า ตำรวจมีพยานหลักฐานชัดเจนจึงได้ดำเนินการ ตรวจค้นและควบคุมตัวเครือข่ายนายโกตี๋ทั้ง 9 คน ซึ่งการตรวจค้นยังไม่ได้สิ้นสุด หากการข่าวพบความเชื่อมโยงไปถึงใคร กลุ่มใด หรือพื้นที่ต้องสงสัยใด ก็ต้องดำเนินการตรวจค้นอีกครั้ง ส่วนที่มาของอาวุธปืนอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าอาวุธยุทโธปกรณ์มาจากที่ใด ใครเป็นท่อน้ำเลี้ยง ตอนนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ถ้าหากพยานหลักฐานไปโทษใครก็ต้องดำเนินการ
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวต่อว่า อาวุธจำนวนมากที่เจ้าหน้าที่ยึดได้ ทราบว่าเป็นการสะสมมาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่พบพิรุธแต่ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ส่วนจะมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มเสื้อแดงบางกลุ่มหรือไม่นั้น ต้องตรวจสอบอีกครั้ง แต่ปกติโกตี๋มีความชัดเจนเรื่องจุดยืนอยู่แล้ว พร้อมกันนี้ต้องมีการตรวจสอบว่ามีกลุ่มนักการเมือง เข้ามาเกี่ยวข้องกับการขู่ลอบสังหารผู้นำประเทศ การขัดขวางการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย หรือการสะสมอาวุธด้วยหรือไม่
ส่วนกรณีที่มีข้อสงสัยว่ากลุ่มคนดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับเหตุวินาศกรรมก่อนหน้านี้หลายครั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครหรือไม่นั้น พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ตนไม่ทราบแต่ส่วนตัวเชื่อว่าเจ้าหน้าที่มีการสอบสวนขยายผลอยู่แล้ว ซึ่งทั้ง 9 ราย จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการขู่สังหารผู้นำประเทศด้วยหรือไม่นั้น ขณะนี้กำลังซักถามอยู่ แต่ไม่ขอลงรายละเอียด โดยปกติเจ้าหน้าที่จะมีการซักถามทุกประเด็นอยู่แล้ว โดยทั้ง 9 คน ก็ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อทางการ เพื่อนำไปขยายผลต่อ สำหรับนายโกตี๋ เจ้าหน้าที่มีหลักฐานที่ชัดเจนอย่างหนึ่ง คือ การโพสต์ข้อความผ่านโลกโซเชี่ยลข่มขู่ว่าจะสังหารผู้นำประเทศ ซึ่งการกระทำในลักษณะนี้ ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการกระทำความผิด
ทั้งนี้พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้รายงานเรื่องดังกล่าวไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี และพล.อ. ประวิตร รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไปก่อนหน้านี้แล้ว
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวต่อว่า อาวุธจำนวนมากที่เจ้าหน้าที่ยึดได้ ทราบว่าเป็นการสะสมมาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่พบพิรุธแต่ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ส่วนจะมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มเสื้อแดงบางกลุ่มหรือไม่นั้น ต้องตรวจสอบอีกครั้ง แต่ปกติโกตี๋มีความชัดเจนเรื่องจุดยืนอยู่แล้ว พร้อมกันนี้ต้องมีการตรวจสอบว่ามีกลุ่มนักการเมือง เข้ามาเกี่ยวข้องกับการขู่ลอบสังหารผู้นำประเทศ การขัดขวางการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย หรือการสะสมอาวุธด้วยหรือไม่
ส่วนกรณีที่มีข้อสงสัยว่ากลุ่มคนดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับเหตุวินาศกรรมก่อนหน้านี้หลายครั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครหรือไม่นั้น พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ตนไม่ทราบแต่ส่วนตัวเชื่อว่าเจ้าหน้าที่มีการสอบสวนขยายผลอยู่แล้ว ซึ่งทั้ง 9 ราย จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการขู่สังหารผู้นำประเทศด้วยหรือไม่นั้น ขณะนี้กำลังซักถามอยู่ แต่ไม่ขอลงรายละเอียด โดยปกติเจ้าหน้าที่จะมีการซักถามทุกประเด็นอยู่แล้ว โดยทั้ง 9 คน ก็ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อทางการ เพื่อนำไปขยายผลต่อ สำหรับนายโกตี๋ เจ้าหน้าที่มีหลักฐานที่ชัดเจนอย่างหนึ่ง คือ การโพสต์ข้อความผ่านโลกโซเชี่ยลข่มขู่ว่าจะสังหารผู้นำประเทศ ซึ่งการกระทำในลักษณะนี้ ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการกระทำความผิด
ทั้งนี้พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้รายงานเรื่องดังกล่าวไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี และพล.อ. ประวิตร รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไปก่อนหน้านี้แล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น