วันพฤหัสบดีที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2560


พรรคประชาธิปัตย์ครบ 71 ปี 'อภิสิทธิ์' ลั่นพร้อมเลือกตั้งไม่ว่าช้าหรือเร็ว พร้อมทั้งนโยบายและตัวผู้สมัครแล้ว พรรคภูมิใจไทย ทำบุญครบรอบปีที่ 9 พร้อมลงสนามเลือกตั้ง ชู 4 นโยบายจับต้องได้ เห็นผลโดยเร็ว

6 เม.ย.2560 รายงานข่าวระบุว่า วันนี้ เมื่อเวลา 10.30 น. อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  ชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษา บัญญัติ บรรทัดฐานอดีตหัวหน้าพรรค มารุต บุญนาค อดีตประธานรัฐสภาพร้อมด้วยอดีต ส.ส. ของพรรค เข้าร่วมพิธีทางพุทธศาสนา ถวายเพล พร้อมจตุปัจจัยไทยทาน แด่คณะสงฆ์จากวัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร จำนวน 9 รูป เนื่องในวันครบรอบ 71 ปีพรรคประชาธิปัตย์
อภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก้าวย่างเข้าปีที่ 71 ของพรรคประชาธิปัตย์ จะทำงานตอบสนองความต้องการของประชาชนและตอบโจทย์ของประเทศ จากประสบการณ์ของพรรคทั้งความสำเร็จและความล้มเหลว มั่นใจว่าพรรคฯ เป็นทางเลือกให้กับประชาชน ไม่เหมือนพรรคการเมืองอื่น โดยยึดมั่นความซื่อสัตย์และอยากเห็นบ้านเมืองเดินไปข้างหน้าสู่ประชาธิปไตย ไม่ล้มเหลวเหมือนในอดีต โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจจะต้องหลุดพ้นจากความเหลื่อมล้ำ ไม่ใช่ดีเฉพาะภาคธุรกิจ จะต้องลงไปแก้ปัญหาในภาคเกษตรกร ผู้ใช้แรงงาน รวมถึงวางแผนแก้ปัญหาเตรียมเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในอนาคต  และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ลั่น พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งก้าวสู่ ปชต.
ต่อกรณีคำถามว่าภายหลังจากมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ พรรคจะดำเนินการอย่างไร อภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่สามารถบอกได้ เพราะยังมีข้อจำกัดคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แต่เชื่อว่า จะมีการผ่อนปรนตามลำดับ ซึ่งพรรคไม่มีปัญหาหากจะมีการเลือกตั้งไม่ว่าช้าหรือเร็ว เพราะมีความพร้อมทั้งในด้านนโยบายและตัวผู้สมัคร และไม่กังวลเรื่องกติกาที่มีข้อยุติในเรื่องแบ่งเขตเลือกตั้งไปแล้ว และกฎหมายพรรคการเมืองตรงกับนโยบายพรรค ที่ให้ประชาชนเป็นเจ้าของพรรคการเมือง
สำหรับข้อเสนอเลือกตั้งท้องถิ่น ที่อาจมีขึ้นก่อนการเลือกตั้งใหญ่นั้น  อภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบกรอบเวลาแน่ชัด แต่สิ่งสำคัญคืออนาคตของท้องถิ่น ที่จะให้มีการควบรวม อบต. เป็นเทศบาล ยังไม่สอดคล้องกับภารกิจของท้องถิ่นในการเข้าถึงปัญหาของประชาชน

'ภูมิใจไทย' ลั่น พร้อมลงสนามเลือกตั้ง

ขณะที่วันเดียวกัน ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย มีงานทำบุญครบรอบวันเกิด ก้าวเข้าสู่ปีที่ 9 พร้อมกิจกรรมรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ โดยมี อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยแกนนำ และสมาชิกพรรคเข้าร่วม อาทิ ชัย ชิดชอบ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) และอดีตประธานรัฐสภา สรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรค ทรงศักดิ์ ทองศรี รองหัวหน้าพรรค ศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรค ฯลฯ โดยมีตัวแทนพรรคการเมืองมาแสดงความยินดี อาทิ วัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อุดมเดช รัตนเสถียร อดีต ส.ส.นนทบุรี ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย วราวุธ ศิลปอาชา ประธานสโมสรฟุตบอลจังหวัดสุพรรณบุรี สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค นิกร จํานง สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ฯลฯ ตัวแทนจากพรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคประชาธิปัตย์ อาทิ กรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก ฯลฯ 
สำหรับการเตรียมตัวเข้าสู่การเลือกตั้งของพรรคภูมิใจไทย การเป็นพรรคการเมืองนั้นทุกวันคือการเตรียมการเข้าสู่การแต่งตั้ง การเป็นผู้แทนอยู่ไม่ได้หมายความว่า ต้องทำหน้าที่แค่ในสภา แต่ต้องรับทุกเรื่องที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชน พร้อมพยายามแก้ไขปัญหา แบ่งเบาทุกข์ของประชาชน พรรคภูมิใจไทย มีความพร้อมตลอดเวลาอยู่แล้ว เพียงแต่เวลานี้จะต้องทำกฎ ระเบียบที่มีการวางไว้
“พรรคการเมืองก็ต้องรอดูว่าจะมีการอนุญาตให้ทำกิจกรรมทางการเมืองอย่างไร เมื่อไหร่ รูปแบบใด แต่เราได้เห็นเจตนารมณ์ที่ดีของผู้บริหารประเทศ ที่พยายามคืนประชาธิปไตย คิดว่าคงไม่ทำให้กระบวนการเหล่านี้ช้าลงหรือมีปัญหา และทุกภาคส่วนควรให้ความร่วมมือ เพื่อให้โรดแมปเป็นไปตามเป้าและไม่ล่าช้า เรามีเวลา 12 – 18 เดือนในการเตรียมตัว และไม่กังวลในเรื่องของการเตรียมตัวพรรค เพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เราไม่ใช่พรรคใหญ่ แต่มีฐานทุนที่ดี มีสมาชิกที่มีคุณภาพ คุ้นเคยกับพื้นที่ เราจึงพร้อมตลอดเวลา ไม่ว่าจะมีเวลาให้เท่าไหร่ก็ตาม ถ้าพรรคภูมิใจไทยบอกว่าไม่พร้อม ก็อย่ามาเลือกพรรคภูมิใจไทยเลย” อนุทิน กล่าว
อนุทินกล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยมีนโยบายหลักๆ 4 นโยบาย ที่จะเสนอต่อประชาชนอยู่แล้ว ไม่มีการปรับเปลี่ยนนโยบาย แต่จะเปลี่ยนในรายละเอียดให้เข้ากับสถานการณ์ เชื่อว่านโยบายเหล่านี้จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชน เราอยากนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดแก่ประชาชน โดยจะนำเสนอสิ่งที่เป็นไปได้ จับต้องได้โดยเร็ว และพรรคภูมิใจไทยมีความจำเป็นต้องส่งผู้สมัครเลือกตั้งในทุกเขต เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพราะทุกคะแนนเสียงมีความหมาย
“อย่างไรก็ตาม อย่าคาดว่าหลังการเลือกตั้งแล้วทุกอย่างจะเร็วเหนือเสียง แต่ต้องค่อยๆ เมื่อออกจากห้องไอซียูก็จะต้องค่อยๆ พักฟื้น เสริมสร้างความแข็งแกร่ง ไม่ต้องเร่งมาก การสร้างประเทศที่ผ่านวิกฤตต่างๆ หลายปี ต้องเน้นรากฐานที่เข้มแข็ง เราต้องมีความอดทนและให้ความร่วมมือ” อนุทิน กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น