วันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554


แฉใบสั่งดีเอสไออุ้มทหาร โยนเสื้อแดงฆ่ากันเอง
ไทยอีนิวส์เปิดคลิป BBC ฉบับแปลไทย 
แฉใบสั่งดีเอสไออุ้มทหาร โยนเสื้อแดงฆ่ากันเอง
Thu, 2011-11-10 22:23


           เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา เว็บไทยอีนิวส์ นำเสนอรายงานเรื่อง โลกตลึงDSIแฉผ่านBBCหมดเปลือกปกปิดทหารฆ่าประชาชนปี53 ธาริตใบสั่งโยนผิดเสื้อแดงฆ่ากันเอง โดยระบุว่า มีผู้นำสารคดี Thailand - Justice Under Fire (ประเทศไทย-ความยุติธรรมที่ปลายกระบอกปืน) ออกเผยแพร่อีกครั้่งทาง Youtube อัพโหลดโดย minitau1 และมีการแปลภาษาไทยด้วย

            ทั้งนี้ สารคดีดังกล่าวสำนักข่าวบีบีซีเผยแพร่เมื่อวันที่ 7 ส.ค.2554 ที่ผ่านมา จัดทำโดย Fergal Keane , Jonathan Jones, Mark Alden มีการจำกัดการฉายเฉพาะในบางประเทศและไม่เปิดให้ดาวน์โหลดคลิปย้อนหลังในเว็บ

          "วัฒนธรรมการปกปิดความผิดและการโยนความรับผิดแบบไทย หากนายกฯ ยิ่งลักษณ์จะเอาผู้่กระทำผิดลงโทษได้ตามที่ให้สัมภาษณ์เรา ก็จะกลายเป็นกรณีแรกของประวัติศาสตร์ประเทศนี้"  BBC ระบุ

คลิปสารคดี BBC - Thailand - ความยุติธรรมปลายกระบอกปืน อัพโหลดโดย minitau1

     ไทยอีนิวส์ระบุว่า ความน่าสนใจของสารคดีชุดนี้คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์ว่า หากพบหลักฐานทหารสังหารประชาชน พวกเขาก็ต้องติดคุกโดยผู้พิพากษาจะตัดสินคดีเหล่านี้ ซึ่ง BBC ชี้ว่าหากยิ่งลักษณ์ทำตามที่พูดได้จริง มันจะเป็นครั้งแรกในหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ ของไทยเลยทีเดียว พร้อมกับตั้งข้อสงสัยว่าจะเป็นจริงไปได้เพียงไหน เพราะประวัีติศาสตร์การเมืองไทยยุคใหม่ ไม่เคยมีการดำเนินคดีต่อกองทัพหรือผู้มีอำนาจสั่งการเลย ไม่ว่าจะในตอนเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 หรือพฤษภาทมิฬ 2535 สุดท้ายก็มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมยกเว้นความผิดให้

          ในคราวเหตุการณ์ 10 เมษายน - 19 พฤษภาคม 2553 BBC ระบุว่า มีความพยายามจะปกปิดความผิดให้กองทัพหรือผู้มีอำนาจสั่งการ เช่นคดีสังหารผู้สื่อข่าวช่างภาพชาวอิตาลี ฟาบิโอ โปเลนจี (Fabio Polengi) ทางสำนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้แจ้งกับพี่สาวของผู้ตาย อิซา โปเลนจี (Isa Polengi) ว่าไม่มีทหารในที่เกิดเหตุขณะที่มีการยิงฟาบิโอในวันที่ 19 พฤษภาคม 2553

          ขณะเดียวกันทาง BBC ได้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวต่างประเทศที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์นั้น 3 คน คนแรกคือ แบรด คอกซ์ (Brad Cox) ซึ่งยืนยันว่า มีกองทหารอยู่ตรงจุดนั้น อย่างน้อยที่สุดก็ 1 ชั่วโมงก่อนเข้าสลายการชุมนุม, มิเชล มาส (Michel Maas) นักข่าววิทยุเนเธอร์แลนด์ ที่ถูกยิงบาดเจ็บเวลาเดียวกับฟาบิโอ ก็ยืนยันว่า การยิงมาจากทิศทางกองทัพ ขณะที่พวกเขาหลบอยู่ กระสุนมาจากทิศทางทหารตั้งอยู่ , ผู้สื่อข่าวช่างภาพญี่ปุ่นอีกรายที่เห็นฟาบิโอถูกยิงล้มลงและเข้าไปลากตัวออกจากที่เกิดเหตุก็ระบุเช่นเดียวกัน

 
 BBC รายงานว่า แกนนำเสื้อแดงได้แนะนำให้ BBC สัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ใน DSI สองคน ให้สัมภาษณ์โดยไม่เปืดเผยชื่อ และใบหน้า (ดูในคลิป Youtube นาทีที่ 33)

             เจ้าหน้าที่ 2 คนนี้ยืนยันว่า "เราเชื่อว่าการเสียชีวิตในเหตุการณ์นั้่น เกิดขึ้นโดยการยิงของทหาร แต่หลังจากที่เรามีข้อสรุปในคดีก่อนว่า ประชาชนถูกสังหารโดยกองทัพ คดีต่อมาที่มีข้อสรุปแบบเดียวกันก็ถูกขัดขวาง DSI ถูกสั่งให้ปกปิดเรื่องกองทัพสังหารประชาชน เราถูกสั่งให้พูดว่า ในตอนนี้ยังไม่ทราบตัวผู้กระทำ แม้เราเชื่อว่า การเสีียชีวิตนั้นเกิดขึ้่นโดยการยิงของทหาร"

         เช่นเดียวกับคดีการตายของผู้สื่อข่าวช่างภาพญี่ปุ่น คือนายฮิโรยูกิ มูรามูโต้ ซึ่งถูกสังหารในวันที่ 10 เมษายน 2553 ตอนแรก DSI สรุปว่า เขาถูกฆ่าโดยทหาร ซึ่งตรงกับการสอบสวนของรอยเตอร์ ซึ่งเป็นต้นสังกัดของเขา แต่แล้วในเวลาต่อมา DSI ได้เปลี่ยนแปลงรายงานว่า เขาอาจถูกฆ่าโดยฝ่ายเสื้อแดง

         "มีนโยบายให้กล่าวโทษคนเสื้อแดงในทุกกรณีเท่าที่จะเป็นไปได้ ยังมีความพยายามจะออกคำสั่งว่า หากไม่พบผู้กระทำผิดให้โยนข้อกล่าวหาไปให้ฝ่ายเสื้อแดง อธิบดี DSI เป็นผู้ออกคำสั่งนั้น"

         "มีคำสั่งว่า หากไม่สามารถหาบุคคลที่เหนี่ยวไกปืนได้ เราจะต้องสันนิษฐานว่า ฝ่ายเสื้อแดงและผู้สนับสนุนเป็นคนทำ" แต่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี DSI ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆกับ BBC

          พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศอฉ.กล่าวปฏิเสธกับ BBC เรื่องผู้นำทหารไปพบอธิบดี DSI และสั่งว่า"อย่าเข้ามายุ่ง ต้องให้ทหารไม่มีความผิด" และปฏิเสธกรณี 6 ศพวัดปทุมฯ ว่าอาจถูกยิงมาจากข้างนอกแล้วแบกเข้ามาในวัด

          แต่ผู้สื่อข่าวต่างประเทศชาวแคนาดา มาร์ค แมคคินนอน (Mark MacKinnon) ที่อยู่ในวัดปทุมในวันที่เกิดเหตุ ยืนยันว่า หลังสลายชุมนุม คนจำนวนมากหลบเข้าไปในวัด มีทหารตามมายิง และมีคนจุดบั้งไฟขึ้น จากนั้นทหารก็ยิงมาใส่อย่างถล่มทลายแบบไม่หยุดยั้ง โดยทหารที่อยู่บนรางรถไฟฟ้าเหนือวัดปทุมฯ ทั้งที่ผู้ตายมีเครื่องหมายพยาบาล และอยู่ในวัดพุทธศาสนา เป็นเขตอภัยทาน ในกลางกรุงเทพฯ
http://redusala.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น