วันเสาร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2555


กลศึก การเมือง แยกกันเดิน รวมกันตี แก้"รัฐธรรมนูญ"
กลศึก การเมือง แยกกันเดิน รวมกันตี แก้"รัฐธรรมนูญ"


              ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกดบัตรแทน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการร้อง กกต.ให้ยุบพรรค การเมืองและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. 416 คน ที่ลงชื่อในญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านมาตรา 291  เป้าหมายเดียวกัน


             ถามว่าใครกันเล่าที่มีบทบาทเป็นอย่างสูงในกรณีเปิดโปงเรื่องกดบัตรแทน เพียงยิ้มก็เห็นแก้ม เพียงแย้มก็เห็นไรฟัน  เป็นแก้มของ น.ส.รสนา โตสิตระกูล เป็นแก้มของ นายสมชาย แสวงการ เป็นแก้มของ นายบุญยอด สุขถิ่นไทย   คนเหล่านี้ล้วนเคยขึ้นเวทีพันธมิตรมาแล้วทั้งสิ้น  เพียงแต่วันนี้เขาเล่นบทเป็น ส.ว.ทั้งที่มาจากการเลือกตั้งและมาจากการสรรหา เพียงแต่วันนี้เขาเล่นบท ส.ส.ในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์


            ถามว่าคนที่ไปร้อง กกต.เป็นใครเล่า  คนที่รับหน้าไปยื่นหนังสือ คือ พล.ต. จำลอง ศรีเมือง เป็นการยื่นหนังสือในนามพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป้าหมายเพื่อดึงแข้งดึงขาไม่ให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญดำเนินไปด้วยความราบรื่น ง่ายดาย  เป็นปฏิบัติการคนหน้าเดิม  หากนำเอากรณีเปิดโปงเรื่องกดบัตรแทน มาวางเรียงเคียงกับกรณียื่นเรื่องต่อ กกต.กล่าวหาพรรคการเมือง กล่าวหา ส.ส.และ ส.ว. 416 คน ที่ร่วมลงชื่อในญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ  ประสานกับบทบาทของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์และพันธมิตร ส.ว.ในการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 2 ก็จะซาโตริ เอ็นไล้ทะเม้นต์


          ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นยุทธวิธี แยกกัน เดิน รวมกันตี เป้าหมายคือสกัดขัดขวางกระบวนการบริหารจัดการต่อรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550  ต้องการให้ดำเนินไปด้วยความยาก ลำบาก

           ยุทธศาสตร์ที่กำหนดคือ จะต้องไม่มีการแก้ไขในลักษณะนี้ หรือหากสกัดขัดขวางไม่ได้ก็ต้องให้เป็นไปอย่างคดเคี้ยว วกวน ยาวนาน  ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่ นายบรรหาร ศิลปอาชา รู้สึก


          "ภาพรวมดูน่าเบื่อ มี ส.ส.ขอสงวนคำแปรญัตติเกือบร้อยคน อภิปรายยืดเยื้อ ประเด็นซ้ำซ้อน ประธานก็ปล่อยให้พูด"  ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน สรุป
"เป็นเกมของฝ่ายค้านที่พยายามลากยาวเพื่อให้ส่งผลกระทบต่อองค์ประชุม ดังนั้น รัฐบาลต้องอดทนเพื่อให้องค์ประชุมครบและเดินหน้าต่อไปได้"


            แม้ว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน จะอยู่กับพรรคภูมิใจไทยซึ่งเป็นฝ่ายค้าน  เห็นหรือยังว่ากระบวนการสัประยุทธ์ทางการเมืองมากด้วยความสลับซับซ้อน มิได้ดำเนินไปในแบบ 1+1 เป็น 2 การเมืองมิได้เป็นไปอย่างเรียงลำดับเป็นอนุกรม  แม้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี จะพยายามลดทอนแรงเสียดทานหลายอย่างให้เหลือน้อยลง ดังในกรณีพนมมือเข้าบ้านสี่เสาเทเวศร์  เป็นกลยุทธ์แบบเดียวกับเมื่อ เล่าปี่ เพียรขอเข้าพบมังกรหลับแห่งเขาโงลังกั๋ง จูกัดเหลียง หรือขงเบ้ง ถึง 3 ครั้ง 3 ครา


           แต่นั่นมิได้หมายความว่าถนนสายการเมืองจะราบรื่นเหมือนยืนอยู่บนเนินเขาในชั่วพริบตา  กระบวนการสกัดขัดขวาง กระบวนเตะตัดขา อันเป็นกระบวนการตกค้างมาจากผู้เสพเสวยประโยชน์จากรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ก็จะยังดำเนินต่อไป  เพียงแต่ว่าเมื่อเทียบปริมาณที่เคยเห็นในห้วงก่อนรัฐประหารหรือในห้วงเดือนพฤษภาคม-ธันวาคม 2551 อาจจะแปรเปลี่ยนเป็นน้อยลง  แต่ฤทธิ์เดชก็ยังคงอยู่ ประมาทไม่ได้


          มีความจำเป็นที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย จักต้องสรุปบทเรียนจากกาลอดีต  บทเรียนจากชัยชนะของการเลือกตั้งเมื่อเดือนธันวาคม 2550 แล้วก็ต้องพ่ายแพ้ในเดือนธันวาคม 2551ชัยชนะจากการเลือกตั้งมิได้เป็นชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
http://redusala.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น