มันจบแล้วครับ มาร์ค | |
มันจบแล้วครับ “อภิสิทธิ์และปชป.” (อ้างอิงจาก เวบไซท์ VoiceTV) “มันจบแล้วครับนาย” ที่ว่ากันว่าเป็นวาทกรรมสุดท้ายของคุณเนวิน ชิดชอบ ที่บอกกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายเก่า ผ่านทางโทรศัพท์ หลังตัดสินใจแปรพักตร์ยกพรรคพวกจำนวนหนึ่ง ไปสนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในค่ายทหาร ดังก้องขึ้นมาในโสตประสาทของผมอีกครั้ง หลังฟังคำแถลงของคุณอภิสิทธิ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้าน ต่อกรณีพฤติกรรมของส.ส.ลูกพรรค ที่กระทำระหว่างการประชุมสภาฯเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ปรองดอง นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยืนยันค้าน พ.ร.บ ปรองดองฯ และ ปกป้องลูกพรรคประชาธิปัตย์กรณีก่อความวุ่นวายในสภา /ที่มา : Voice News ว่าที่จริงแล้ว เดิมผมก็เชื่อว่าอนาคตทางการเมืองของคุณอภิสิทธิ์ มันจบไปแล้ว(กลายเป็น “ศพทางการเมือง”ก่อนวัยอันควร) ตั้งแต่หลังเหตุสลายการชุมนุม ๑๐ เมษา ๕๓ ที่มีผู้เสียชีวิต ๒๗ ราย เพราะมั่นใจว่าคุณอภิสิทธิ์ ผู้มีชาติตระกูลดีพร้อม(ตามค่านิยมอันฝังแน่นของสังคมไทย) ทั้งสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก จากประเทศที่เป็น “แม่แบบ”ประชาธิปไตยอย่างอังกฤษ ต้องเป็นคนที่ “สปิริต”ประชาธิปไตยสูงกว่านักการเมืองไทยทั่วๆไป ยิ่งถ้านึกย้อนไปถึงพฤติกรรม และวาทกรรม ต่างกรรมต่างวาระในอดีต นับตั้งแต่เริ่มก้าวเดินบนถนนการเมือง คุณอภิสิทธิ์เคยสร้างความหวังความประทับใจให้กับผมและคนไทยอีกเป็นจำนวนมาก ว่านี่แหละ คือ “ผู้นำ”ในฝันของคนไทย ยิ่งทำให้ผมมั่นใจว่าคุณอภิสิทธิ์ จะต้องแสดง “สปิริต”อันสูงส่ง ในฐานะผู้นำรัฐบาลแน่ๆ แต่ก็อย่างที่ทราบกัน กลายเป็นว่าคุณอภิสิทธิ์ กลับทำให้หลายคนที่เคยชื่นชมผิดหวังอย่างรุนแรง เพราะนอกจากต่อมสปิริตจะไม่ทำงานแล้ว คุณอภิสิทธิ์ ยังแสดงให้เห็น “จิตลึก”อีกด้านของมนุษย์ ไม่เพียงไร้คำขอโทษ แต่รัฐบาลภายใต้การนำของคุณอภิสิทธิ์ ยังสั่งเดินหน้าล้อมปราบด้วยกระสุนจริงต่อไป พร้อมกับสร้างวาทกรรม “ก่อการร้าย” / “ชายขุดดำ” / “แผนล้มเจ้า” เป็นเกราะกำบังการล้อมปราบ ก่อนจะจบลงในวันที่ ๑๙ พฤษาคม ๒๕๕๓ ด้วยสถิติมีผู้เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมรวม ๙๑ ศพ(ยอดรวมต่อมาเพิ่มเป็น ๙๘ ศพ) ทำให้ชื่อคุณอภิสิทธิ์ ถูกจารึกในประวัติศาสตร์การเมืองไทยสมัยใหม่ ว่า ในช่วงที่เขาเป็นนายกรัฐมนตรี มีผู้เสียชีวิตเพราะออกมาชุมนุมต่อต้านมากที่สุด มากกว่านายกรัฐมนตรี ที่เป็นทหารอย่างจอมพลถนอม กิตติขจร(เหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ มีผู้เสียชีวิต ๗๗ ราย) / มากกว่ายุคม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช นายกรัฐมนตรีที่มาจากพรรคประชาธิปัตย์เช่นกัน(เหตุการณ์ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ มีผู้เสียชีวิต ๔๑ ราย) / หรือกระทั่งนายกรัฐมนตรีที่เป็นทหารอีกคน คือ พล.อ.สุจินดา คราประยูร(เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ๒๕๓๕ มีผู้เสียชีวิต ๔๐ ราย) ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ไม่เคยมีนายกรัฐมนตรีคนไหน ที่เดินบนถนนการเมืองต่อไปได้ หลังปล่อยให้มีการสังหารประชาชนที่ออกมาต่อต้านตัวเอง กรณีจอมพลถนอม ไม่เพียงแค่ลาออก แต่ยังถึงกับต้องหลบหนีไปต่างประเทศ / กรณีพล.อ.สุจินดา แม้ไม่ถึงกับต้องหลบไปต่างประเทศ แต่หลังลาออก ก็ต้องยุติบทบาททางการเมืองไปโดยปริยาย เช่นเดียวกับกรณีของม.ร.ว.เสนีย์ ที่ต้องลาออกหลังเกิดเหตุการณ์ และยุติบทบาททางการเมืองในอีก ๓ ปีต่อมา ผมจึงนึกถึงคำพูด “มันจบแล้วครับนาย” ตั้งแต่ตอนที่เกิดเหตุสลายการชุมนุม ๑๐ เมษา ๕๓ แต่การณ์กลับกลายเป็นว่า ไม่เพียงคุณอภิสิทธิ์ จะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ด้วยการเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ชุมนุมต่อต้านจนมีผู้เสียชีวิตมากที่สุด แต่คุณอภิสิทธิ์ ยังสร้างประวัติศาสตร์อีกบทหนึ่ง ในแง่ที่ว่าเขาเป็นนายกรัฐมนตรีที่ยังสามารถลอยหน้าลอยตา ได้ต่อไปอีกหลังเกิดเหตุการณ์ ไม่ต้องขอโทษ / ไม่ต้องลาออก / ไม่ต้องหลบไปต่างประเทศ เพื่อแสดงความรับผิดชอบใดๆ เหมือนอดีตนายกรัฐมนตรีคนอื่นๆ(แต่ก็ถูกประชาชนลงโทษให้หลุดจากเก้าอี้ ด้วยกระบวนการเลือกตั้ง ตามกติกาประชาธิปไตย ในเวลาต่อมา) จากบทเรียนเหตุการณ์เมษา-พฤษภา ๕๓ ผมถึงไม่แปลกใจและไม่ผิดหวังอะไรกับคุณอภิสิทธิ์อีก กับกรณีท่าทีการแสดงออกของเขาต่อพฤติกรรมของส.ส.ลูกพรรค ระหว่างการประชุมสภาฯเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ปรองดอง ก็เหมือนๆที่หลายๆคนคิดและวิพากษ์วิจารณ์กันนั่นแหละครับ คนที่ผ่านเหตุการณ์สั่งสลายการชุมนุมด้วยกระสุนจริงจนมีผู้เสียชีวิตถึง ๙๘ ศพ ทั้งไม่เคยมีแม้ “คำขอโทษ” แถมยังแสดงท่าที “ชิล ชิล”กับชีวิต กินอิ่ม/พักผ่อน/นอนหลับสบายๆ จะไปแคร์หรือมี “สำนึก”อะไร กับการแสดงพฤติกรรม “เถื่อน+ถ่อย” ละเมิดกฏกติกาสภาฯของลูกพรรค สภาปรองดองป่วน หวิดวางมวย /ที่มา : Voice News วันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ผมเองก่อนหน้านี้ สารภาพผิดว่าช่วงหนึ่งยังเป็นพวกมอง “โลกสวย” เพราะแอบคาดหวังและให้กำลังใจคุณอภิสิทธิ์และพรรคปชป.(คลิกเพื่อย้อนอ่านบล็อก ตอน “ให้กำลังใจ อภิสิทธิ์และปชป.”) ด้วยเชื่อว่า แม้องคุลีมาลยังกลับใจได้ แต่พอเจอช็อตคำแถลงและท่าทีล่าสุดของคุณอภิสิทธิ์ ความคิดแบบ “โลกสวย”ก็จบกันไปเสียที ขณะที่ความเชื่อเรื่อง “อนาคตการเมือง”ของคุณอภิสิทธิ์ ที่ผมเคยเชื่อว่ามันมืดดับลงไปแล้ว หลังเหตุการณ์เมษา-พฤษภา ๕๓ ถูกตอกย้ำให้หนักแน่นขึ้น จนกล้าพูดดังๆว่า “มันจบแล้วครับคุณอภิสิทธิ์” เพราะตราบที่กงล้อประชาธิปไตยยังเดินหน้า และตราบที่คนไทยเรียนรู้โลกกว้างมากขึ้นเท่าไหร่ “ประตูแห่งโอกาส”ที่จะเปิดให้คุณหวนกลับมาเป็น “ผู้นำ”ของคนไทยอีกครั้ง มันปิดตายลงแล้ว และสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ พรรคที่ผมเคยเลือกมาตลอด(เหมือนคนไทยอีกหลายล้านคน) ก่อนจะมีพรรคไทยรักไทย เพราะเชื่อว่าเป็นพรรคที่มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยมากกว่าพรรคอื่นๆ ณ ขณะนั้น หากพวกคุณยังไม่เปลี่ยนหัวหน้าพรรคใหม่ และไม่เปลี่ยนความเชื่อ+วิธีคิดในการทำงานการเมืองใหม่ ให้ก้าวหน้าเท่าทันประชาชน และหากประเทศนี้ยังยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย ผมก็อยากบอกว่า “มันจบแล้วครับประชาธิปัตย์” “ประตูแห่งโอกาส” ของการกลับมาเป็น “รัฐบาล” ปิดตายสำหรับคุณเช่นกัน ! ๔ มิถุนายน ๒๕๕๕ ดูข้อความเห็นเพิ่มเติมที่ http://www.voicetv.co.th/blog/1038.html | |
http://redusala.blogspot.com |
ดาวน์โหลดคลิ๊ปคนเสื้อแดง
วันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2555
มันจบแล้วครับ มาร์ค
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น