|
แล้วพลันที่ม็อบ เสธ.อ้ายสลายตัวลงไป
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
กลายเป็นผู้ที่แสดงตัวชัดแจ้งกว่าใครอื่นว่าจะเป็นแม่ทัพนำม็อบต่อไปในการ
โค่นล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ปีศาจคาบไปป์เจ้าของฉายาหน้าแหลมฟันดำให้เหตุผลว่า
ในการต่อสู้กับนักการเมืองชั่วเราจะไปยอมแพ้และถอยไม่ได้เด็ดขาด
จะต้องต่อสู้ตลอดไป
นี่เป็นการส่งสัญญาณที่ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าในม็อบที่จะเกิดขึ้นหลังปี
ใหม่ 2556 ท่าทางจะต้องมี น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ เป็นแกนนำหลักอย่างแน่นอน
ซึ่งเท่าที่ผ่านมาถือว่าเขาเป็นคนที่มีบทบาทในการโค่นล้มรัฐบาลอยู่หลาย
รัฐบาล ตั้งแต่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นต้นมา
นี่ยังเป็นข้อสรุปที่บอกได้ว่า ถึงแม้จะไม่มี เสธ.อ้ายอีกต่อไป
แต่กลุ่มความคิดสุดโต่งยังคงมี เสธ. อื่นๆอีกตั้งหลายคน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าของฉายา CIA เมืองไทย น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ!
รายนี้ถือว่ามีความเก๋าเกมในการวางแผนโค่นล้มรัฐบาลเป็นประสบการณ์ทุนเดิม
มากมาย
เมื่อมองไปอย่างนี้แล้วจะเห็นได้ว่าพลังของม็อบโค่นล้มรัฐบาลในครั้งต่อ
ไปคงจะไม่มีเพียงลำพังกำลังขององค์การพิทักษ์สยามเท่านั้น
แต่ว่าจะมีเครือข่ายหลักๆอย่างกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเข้ามา
เป็นแกนกลางด้วย และอาจจะยังมีอีกหลายภาคี ทั้งกลุ่มสันติอโศกที่นำทัพโดย
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง กลุ่มเสื้อหลากสีของ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์
รวมทั้งกลุ่มกรีนที่เป็นคู่แฝดแยกออกได้ยากกับกลุ่มเสื้อเหลือง
เพียงยังไม่ถึงสิ้นปีเราก็พอมองเห็นโฉมหน้าของกลุ่มกบฏแช่แข็งในโฉมใหม่กัน
แล้ว
เพียงแต่มีข้อสงสัยว่ายุทธการของกลุ่มที่จะแช่แข็งประเทศไทยกลุ่มใหม่นี้จะ
เริ่มต้นกันตรงไหนและแปรขบวนไปอย่างไร?
ในด้านยุทธศาสตร์และยุทธวิธี ข่าวคราวนี้สอดคล้องกันในหลายๆข่าว
รวมทั้งข่าวกรองของสภาความมั่นคงแห่งชาติที่วิเคราะห์ว่าการเคลื่อนไหวของ
ม็อบนั้นคงจะต้องเป็นหลังปีใหม่
ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคมอาจจะเป็นการพักยกไประยะหนึ่งเท่านั้นเอง
เครือข่ายของกลุ่มพันธมิตรฯเสื้อเหลืองก็วิเคราะห์ว่า
ภายหลังปีใหม่ไปแล้วสถานการณ์น่าจะอยู่ในขั้นสุกงอมที่จะสามารถขับไล่รัฐบาล
ได้
นี่เป็นการวิเคราะห์ที่แตกต่างจากการวิเคราะห์กลุ่มของ เสธ.อ้ายที่ผ่านมา!
การวิเคราะห์นี้อาจจะสอดคล้องกับกรณีคดี 98
ศพที่มีความคืบหน้าไปอย่างมากมายหลายคดี ตั้งแต่คดีของนายพัน คำกอง
คดีของนายชาญณรงค์ พลศรีลา หรือคดีของนายชาติชาย ซาเหลา
เป็นที่คาดหมายได้ว่าคดีที่สืบเนื่องมาจากการสลายการชุมนุมนี่เองจะเป็น
ปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นเร้าที่จะให้ม็อบโค่นล้มรัฐบาลนั้นเตรียมแปรขบวน
ขึ้นมาสู่การปฏิบัติการ
นอกจากจะเกี่ยวกับคดีสลายการชุมนุมแล้วอาจจะวิเคราะห์สืบเนื่องมาจากคดี
ที่การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
รวมทั้งม็อบของ เสธ.อ้ายที่ล้มเหลวนอกระบบ
เหตุของความล้มเหลวทั้งหมดนั้นคงจะทำให้อำนาจแฝงเบื้องหลังต้องออกมาแสดงเอง
อีกครั้ง โดยอาศัย น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ เป็นแม่ทัพหลัก
แต่การจัดทัพเที่ยวหน้านี้คงน่าจะจัดอยู่หลายกระบวนทัพทีเดียว
ซึ่งไม่รู้ว่าจะหนาแน่นเหมือนกับสงครามเก้าทัพหรือไม่?
แต่ที่พอจะเข้าใจกันได้นั้นคงจะมีความพยายามปั่นกระแสชาตินิยมหรือความคลั่ง
ชาติให้สูงมากกว่าปัจจุบัน
เป็นไปได้ที่อาจจะมีการดึงเอาปัญหาความขัดแย้งทางกัมพูชามาเป็นชนวนเหตุที่
จะผลักดันสถานการณ์ให้เป็นไปตามกลุ่มเป้าหมายของการโค่นล้มรัฐบาล
กระแสตรงนี้จึงเป็นเรื่องที่จะต้องจับตามองอยู่บ้างเหมือนกัน
โดยเฉพาะในเดือนเมษายน 2556
จะเป็นช่วงที่ศาลโลกอาจจะต้องตีความคำพิพากษาเขาพระวิหารตามการร้องขอของ
ฝ่ายกัมพูชา
สถานการณ์ในช่วงดังกล่าวนั้นเป็นช่วงที่น่าจะโฟกัสเป็นอย่างยิ่งและไม่ควร
กะพริบตาเด็ดขาด
อีกทั้งสามารถคาดหมายได้ว่าการขับเคลื่อนโค่นล้มรัฐบาลในปีหน้านั้น
สถานการณ์มีโอกาสจะกลายเป็นสงครามครั้งสุดท้ายได้ไม่ยาก
มองในแง่โหราศาสตร์ก็มีความเป็นไปได้เช่นนั้น
หรือในด้านการเมือง สนามเลือกตั้ง กทม.
ที่เป็นสนามสำคัญก็จะมีการขับเคลื่อนในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย
แน่นอนที่ฝ่ายประชาธิปัตย์คงไม่อยากที่จะพลาดหวังในสนาม กทม. เด็ดขาด
เมื่อประเมินสถานการณ์โดยภาพรวมแล้ว
ช่วงจังหวะของการประจันหน้าสัปยุทธ์ทางการเมืองครั้งใหญ่คงจะอยู่ในช่วง
เดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายนแน่นอน น.ต.ประสงค์นั้นเป็นแม่ทัพที่รบนอกแบบ
แต่ไม่รู้ว่าทัพของพรรคประชาธิปัตย์นั้นจะรบอย่างไร?
จะเล่นบทแนวร่วมแขนงไผ่กับ น.ต.ประสงค์สักแค่ไหนในการโค่นล้มรัฐบาล
แต่ยี่ห้อประชาธิปัตย์ก็คงจะไม่อยู่เฉย
เพียงแต่ว่าจะหลบฉากอยู่ตรงส่วนไหนของขบวนการเท่านั้น
และทัพนี้ก็ถือเป็นอีกทัพที่สำคัญเช่นเดียวกัน
ทัพของแมลงสาบนั้นยั่งยืนมาโดยตลอด
เป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่ยังไม่สูญพันธุ์มาจนถึงทุกวันนี้
และยังคงไม่สูญพันธุ์ได้ง่ายๆ ขอให้จับตาดูให้ดี!
|
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น