วันเสาร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555

มาจากคำสั่งศาล


มาจากคำสั่งศาล
โดย วงค์ ตาวัน  คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
ในข่าวสดออนไลน์  วันพุธที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.


ในจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่ ศอฉ.ใช้เจ้าหน้าที่ติดอาวุธจริงปราบม็อบปี 2553 ซึ่งมีถึง 99 ศพ ขณะนี้มีประมาณ 36 ศพ ที่สามารถรวบรวมพยานหลักฐานได้ครบถ้วน แล้วนำขึ้นไต่สวนในชั้นศาล   
เป็นสำนวนไต่สวนชันสูตรศพ เพื่อให้ศาลชี้ว่าใครทำให้ตาย

ทุกสำนวนต้องเบิกตัวพยาน เบิกพยานวัตถุ มาไต่สวนในศาล เป็นไปตามกระบวน การที่เป็นหลักเป็นฐาน ต่างจากกรณีนักการเมืองโทษโน่นนี่ในเหตุการณ์ ซึ่งแค่คำพูดไม่มีหลักฐาน 
จากนั้นศาลจะมีคำสั่งว่า ใครที่ทำให้ตาย  

ใน 36 สำนวนนี้ ศาลได้บทสรุปและมีคำสั่งออกมาแล้ว 2 ศพ คือ นายพัน คำกอง และนายชาญณรงค์ พลศรีลา  
โดยมีคำสั่งว่าตายด้วยปืนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติการตามคำสั่งของศอฉ.  
เมื่อศาลชี้แล้ว อัยการจึงส่งสำนวนกลับมาให้ดีเอสไอ เพื่อทำเป็นคดีใหม่หาคนกระทำผิด  
การตั้งข้อหาต่ออภิสิทธิ์และสุเทพ มาจากขั้นตอนนี้  
มาจากสำนวนคดีนายพัน คำกอง ที่ศาลชี้แล้วและอัยการส่งกลับมาแล้ว  
ไม่ได้เกี่ยวกับข้ออ้างว่าทักษิณบีบให้ยอมร่วมนิรโทษกรรมอะไรเลย!?


นี่คดีพัน คำกอง คดีเดียว อีกไม่นานสำนวนชาญณรงค์ พลศรีลา ส่งกลับมาอีก ก็ต้องแจ้งข้อหากับคนทั้งสองอีก  
จะอ้างเรื่องการเมืองอะไรก็ตาม โปรดเคารพขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมบ้าง!  
ศาลเป็นผู้สั่งว่าตายเพราะเจ้าหน้าที่ศอฉ. จากนั้นดีเอสไอจึงมาทำเป็นคดีต่อ  
แล้วทักษิณมาบีบใครตอนไหนไม่ทราบ แทรกอยู่ช่วงไหนของในขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมนี้

ตอนที่มีคนตายใหม่ๆก็โทษชายชุดดำ  
แต่ในการไต่สวนชั้นศาลสำหรับ 2 คดีแรก ไม่มีใครพบชายชุดดำในที่เกิดเหตุเลย  
อีก 30 กว่าคดี แม้ยังไม่สรุป แต่จนบัดนี้ก็ไม่มีเลยที่มีพยานเห็นชายชุดดำอยู่ในจุดยิงคนตาย!  

ล่าสุดพอถึงขั้นตอนตั้งข้อหา ก็มาโยนว่าเป็นเกมการเมือง  
จะพูดอะไรก็พูดเถอะ แต่โปรดเคารพญาติพี่น้องของนายพัน คำกอง และนายชาญณรงค์ พลศรีลา ที่เขาไปนั่งฟังการเบิกความในศาลทุกนัดด้วยความสะเทือนใจ   
ว่าคนเหล่านี้ต้องตายด้วยปืนของรัฐ

ศาลเป็นผู้ชี้ว่าใครทำให้ตาย และพนักงานสอบสวนต้องตั้งข้อหาคนสั่งการ 
ก็ยังชุดดำชุดแม้วอยู่นั่นแหละ!  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น