Thailand Mirror รายงานทัศนะทางการเมืองสองแกนนำเสื้อแดงในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ "สุรชัย" ชี้ฝ่ายอำมาตย์ถอยรอจังหวะรุก ประชาชนต้องเตรียมรับมือ "สมยศ พฤกษาเกษมสุข" ยืนยันจุดยืน เรียกร้องเสรีภาพ ไม่มีทางเลือกอื่น ถึงตายก็ยอม
เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร 4 ม.ค.56 - "สุรชัย" ชี้อำมาตย์อยู่ในเกมถอยเพื่อรอจังหวะรุก ประชาชนต้องเตรียมพร้อมด้วยการสร้างความรู้ พัฒนาความคิด ขณะที่เห็นว่าถึงแม้จะผ่านรัฐธรรมนูญวาระ 3 หรือมีการนิรโทษกรรม ปัญหาความแตกแยกทางความคิดของสังคมไทยก็ไม่จบ
นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ถึงแม้ในที่สุด รัฐบาลจะเลือกโหวตวาระ 3 ผ่านรัฐธรรมนูญเพื่อนำไปสู่การแก้ไข ตามที่ นปช.นำเสนอ ก็ไม่ทำให้ปัญหาจบ การต่อสู้ยังไม่จบ เพราะรัฐธรรมนูญจะถูกฉีกเมื่อไหร่ก็ได้ ขณะที่ นปช.เดินหน้าสู้ไม่เต็มที่ ส่วนรัฐบาล ก็มีเป้าหมายที่ต่างจากประชาชน
นายสุรชัย เชื่อว่าการที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ออกมาให้โอวาทและอวยพรเหล่าผู้นำกองทัพ เนื่องโอกาสวันขึ้นปีใหม่ที่ผ่านมาว่า ความแตกแยกของสังคมไทยในขณะนี้เป็นอุปสรรคในการสร้าง ความสามัคคี และกล่าวเรียกร้องให้กองทัพออกมาสร้างความสามัคคีให้กับคนในชาตินั้น เป็นสัญญาณว่า ฝ่ายอำมาตย์มองสถานการณ์ขณะนี้ว่าควรอยู่ในเกมถอย จึงเปลี่ยนท่าทีด้วยการสนับสนุนการปรองดอง รอรัฐบาลเพลี่ยงพล้ำ คนเสื้อแดงแตกคอกัน และเมื่อถึงจังหวะนั้นฝ่ายอำมาตย์จะกลับมาเป็นฝ่ายรุกทันที
นายสุรชัย กล่าวย้ำว่า เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ฝ่ายประชาชนต้องเข้มแข็ง พร้อมรบ โดยคำว่ารบไม่ได้หมายถึงการติดอาวุธ แต่หมายถึงการสร้างความรู้ พัฒนาความคิด เตรียมความพร้อม เพื่อรับมือ
อย่างไรก็ตาม นายสุรชัย เห็นว่าการนิรโทษกรรมจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะหากจะมี การนิรโทษกรรม ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายต้องถูกลงโทษเหมือนกันทั้งหมดก่อน และถึงแม้จะมีการนิรโทษกรรมจริง ก็ไม่ทำให้ปัญหาความแตกแยกของสังคมไทยจบลงได้
นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ รับสารภาพคดีหมิ่นเบื้องสูงเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2555 และได้ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษแล้ว ขณะนี้อยู่ในระหว่างรอรัฐบาลดำเนินการตามขั้นตอน
"สมยศ พฤกษาเกษมสุข" ยืนยันจุดยืน เรียกร้องเสรีภาพ ไม่มีทางเลือกอื่น ถึงตายก็ยอม
"สมยศ พฤกษาเกษมสุข" ยืนยันยอมถูกกักขัง เพียงร่างกาย และจะไม่ยอมรับสารภาพโดยที่ไม่ผิด เพราะหากเป็นเช่นนั้นก็จะตกอยู่ในกรงขังมโนธรรม ไปตลอดชีวิต
นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข กล่าวถึงกรณีที่จะมีการนัดพร้อมฟังคำพิพากษาในวันพุธที่ 23 มกราคม 2556 ว่าในทางกฎหมายหรือเหตุผลแล้วจะชนะคดีอย่างแน่นอน ซึ่งคาดว่าคดีน่าจะสรุป เป็นกระทำการโดยประมาทเลินเล่อ อาจได้รับการปล่อยตัว หรือไม่ก็รอลงอาญา
นอกจากนั้น กระแสสังคมยังให้การสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นองค์การสหประชาชาติ สำนักงานสิทธิมนุษยชน องค์การนิรโทษกรรมสากล ที่เห็นว่ากรณีของตนเป็นเรื่องการละเมิดสิทธิเสรีภาพ หากศาลไทยกล้าฝืนกระแสเรียกร้องขององค์กรสากลต่าง ๆ ก็จะไม่เป็นผลดีต่อสถาบันอย่างแน่นอน
นายสมยศ ยังกล่าวถึงกรณีการรณรงค์ให้ยกเลิกหรือแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เชื่อว่าไม่มีทางสำเร็จอย่างแน่นอน แต่การรณรงค์ก็ไม่ควรหยุดเช่นกัน และเห็นว่า ครก.112 ควรเดินหน้าเรียกร้องต่อไป เพื่อตอกย้ำว่ารัฐบาลต้องการเพียงรักษาอำนาจ สู้ไปสยบไป ซึ่งจะทำให้รัฐบาล ตกขบวนประวัติศาสตร์ ขบวนประชาธิปไตย และสะท้อนความล้มเหลวในการเป็นรัฐบาลประชาธิปไตย
นายสมยศ ยืนยันว่าขณะนี้ถูกกักขังเพียงร่างกายเท่านั้น แต่จะไม่ยอมรับสารภาพโดยที่ไม่ผิด เพราะหากยอมรับสารภาพก็จะกับตกอยู่ในกรงขังมโนธรรมไปตลอดชีวิต รู้สึกขมขื่นใจและเจ็บปวด ที่ตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองจากกระบวนการยุติธรรมไทยที่ล้มเหลว ถึงตนต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในคุก แต่ก็พร้อมที่จะรักษาจุดยืนในการเรียกร้องเสรีภาพ ไม่มีทางเลือกอื่น ถึงตายก็ยอม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น