หลังผู้บริหารไทยพีบีเอสถูกฟ้อง ม.112 ยกยวงจากการออกอากาศตอบโจทย์ฯ ตอน “สถาบันพระมหากษัตริย์ ภายใต้รัฐธรรมนูญ” ล่าสุด กสท. ตั้งคณะทำงานพิจารณา "ตอบโจทย์ประเทศไทย" กรณีออกอากาศตอน “สถาบันพระมหากษัตริย์ ภายใต้รัฐธรรมนูญ” แล้ว
ภายหลังจากที่ไทยพีบีเอสออกอากาศรายการตอบโจทย์ประเทศไทย ตอน “สถาบันพระมหากษัตริย์ ภายใต้รัฐธรรมนูญ” ในระหว่างวันที่ 11-15 มีนาคม 2556 เวลา 21.45-22.30 น. ซึ่งก่อให้เกิดการถกเถียงในวงกว้าง เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ที่ผ่านมา คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) มีมติแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณารายการดังกล่าว โดยการเสนอของคณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการที่มีพลโท ดร.พีระพงษ์ มานะกิจ เป็นประธาน
คณะทำงานชุดดังกล่าวประกอบด้วย นายจาตุรงค์ ปัญญาดิลก อดีตปลัดสำนักงานนายกรัฐมนตรี นายณัฐจักร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย นายอนุสรณ์ ศรีแก้ว นายวีระ อุไรรัตน์ ผู้แทนจากสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และนายเจษฎ์ โทณะวณิก คณะทำงานชุดดังกล่าวจะทำหน้าที่ในการพิจารณาความเหมาะสมของเนื้อหารายการที่ออกอากาศในบริบทของสังคมไทยทุกมิติ รวมทั้งพิจารณาเนื้อหาว่าขัดกฎหมายฉบับใดบ้าง
อย่างไรก็ตามยังไม่มีการกำหนดระยะเวลาในการดำเนินงาน ทั้งนี้ โดยปกติการแต่งตั้งคณะทำงานแต่ละชุดจะมีระยะเวลาในการปฏิบัติหน้าที่ครั้งละไม่เกินสามเดือน
ก่อนหน้านี้ มีผู้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้บริหารไทยพีบีเอส ผู้ดำเนินรายการและผู้ร่วมรายการ และนำ
ภาพบันทึกประจำวันมาโพสต์ในโซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยเนื้อหาระบุว่า เมื่อวันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมา มีผู้แจ้งความร้องทุกข์ต่อ พนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ให้ดำเนินคดีกับ ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา สุลักษณ์ ศิวรักษ์ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล และสมชัย สุวรรณบรรณ
ในบันทึกประจำวัน ระบุว่า ผู้แจ้งความให้ดำเนินคดีกับ ภิญโญ สุลักษณ์ และสมศักดิ์ ใน "ความผิดทางอาญาและเกี่ยวกับความมั่นคงของราชอาณาจักรตามมาตรา 37" และ สมชัย "ในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157"
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบโดย "ประชาไท" พบว่า มาตราที่ใกล้เคียง คือ มาตรา 37 ของพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ที่ว่า มาตรา 37 "ห้ามมิให้ออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาสาระที่ก่อให้เกิดการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือมีการกระทำซึ่งเข้าลักษณะลามกอนาจาร หรือมีผลกระทบต่อการให้เกิดความเสื่อมทรามทางจิตใจหรือสุขภาพของประชาชนอย่างร้ายแรง
"ผู้รับใบอนุญาตมีหน้าที่ตรวจสอบและให้ระงับการออกอากาศรายการที่มีลักษณะตามวรรคหนึ่ง หากผู้รับใบอนุญาตไม่ดำเนินการ ให้กรรมการซึ่งคณะกรรมการมอบหมายมีอำนาจสั่งด้วยวาจา หรือเป็นหนังสือให้ระงับการออกอากาศรายการนั้นได้ทันที และให้คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวโดยพลัน
"ในกรณีที่คณะกรรมการสอบสวนแล้วเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเกิดจากการละเลยของผู้รับใบอนุญาตจริง ให้คณะกรรมการมีอำนาจสั่งให้ผู้รับใบอนุญาตดำเนินการแก้ไขตามที่สมควร หรืออาจพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตก็ได้"
ต่อมา เมื่อวันที่ 27 มี.ค.
สำนักข่าว DNN รายงานว่า นายกิตติ นิลผาย อาชีพทนายความ แจ้งตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง ให้ดำเนินคดีกับคณะกรรมการบริหารองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย หรือ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส จำนวน 5 คน ประกอบด้วย สมชัย สุวรรณบรรณ ประธานกรรมการและผู้อำนวยการ วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ วุฒิ ลีลากุศลวงศ์ มงคล ลีลาธรรม และ พุทธิศักดิ์ งามเดช กรรมการ ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากการแพร่ภาพออกอากาศรายการ "ตอบโจทย์ประเทศไทย" ตอน "สถาบันพระมหากษัตริย์ ภายใต้รัฐธรรมนูญ" ในตอนที่ 4 และตอนที่ 5 โดยนำแผ่นซีดี ที่บันทึกภาพและเสียงรายการดังกล่าว และเอกสารจำนวนหนึ่ง มามอบไว้เป็นหลักฐาน โดยเบื้องต้นตำรวจได้รับเรื่องไว้พร้อมจะลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และจะสั่งการให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับความผิดที่เกิดขึ้น ก่อนจะส่งให้ผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น