สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ที่ผ่านมา อ้างอิงการสัมภาษณ์นายจักรภพ เพ็ญแข และนายสุนัย จุลพงศธร ซึ่งเปิดเผยว่า กลุ่มผู้นำทางการเมืองราว 15 คนมีแผนการจะเคลื่อนไหวจากภายนอกประเทศเพื่อรณรงค์อารยะขัดขืนต่อระบอบทหาร โดยยืนยันว่าการต่อต้านจะเป็นไปอย่างสงบสันติ และจุดมุ่งหมายของการก่อตั้งกลุ่มก็เพื่อเติมเต็มช่องว่างที่หายไปของการเคลื่อนไหวต่อต้านเผด็จการทหารโดยไม่มีแกนนำ
“เราเห็นว่าระบอบประชาธิปไตยของไทยนั้นถูกทำลายลงอย่างเป็นระบบ” นายจักรภพกล่าวผ่านการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ และว่ากล่าวด้วยว่าประชาชนถูกตามล่า ถูกข่มเหงโดยปราศจากความเป็นธรรม การจัดตั้งกลุ่มดังกล่าวขึ้นก็เพื่อจะดำเนินการต่อต้านการรัฐประหารทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ อย่างไรก็ตาม นายจักรภพปฏิเสธว่า อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งลี้ภัยอยู่นอกประเทศนั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตั้งกลุ่มดังกล่าว
ในอีกด้านหนึ่ง รอยเตอร์ได้รายงานคำสัมภาษณ์ของพ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. ซึ่งยอมรับว่ากฎหมายของไทยอาจจะไม่สามารถครอบคลุมไปถึงต่างประเทศไทย “แต่หากเรารู้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน เราก็จะร้องขอความร่วมมือกับต่างประเทศเพื่อนนำตัวพวกเขากลับมา” โฆษก คสช. กล่าวและว่า ขณะนี้ทาง คสช. ได้จับตาความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่อต้านการรัฐประหาร และสำหรับคนที่ถูกเรียกให้รายงานตัวแต่ไม่มารายงานตัวจะต้องถูกดำเนินคดีและนำตัวขึ้นศาลทหาร
จักรภพ เพ็ญแข เผยว่า ขบวนการดังกล่าวอาจจะใช้ชื่อว่า “ขบวนการเสรีไทย” ซึ่งเป็นการนำเอาชื่อขบวนการใต้ดินต่อต้านฝ่ายอักษะของไทยในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มาใช้ ขณะที่สุนัยระบุว่ายังไม่ได้ตกลงกันในเรื่องชื่อของกลุ่ม
สำหรับท่าทีของทางกระทรวงการต่างประเทศของไทย วันที่ 7 มิ.ย. ที่ผ่านมา
มติชนอนไลน์รายงานว่านายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ถึงกรณีการเคลื่อนไหวเพื่อจัดตั้งองค์กรต่อต้านการรัฐประหารของนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า นายดำรง ใคร่ครวญ อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก ได้หารือกับนางยู ออย เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวดังกล่าวแล้ว โดยเอกอัครราชทูตกัมพูชาได้ยืนยันท่าทีของกัมพูชาอย่างชัดเจนว่าไม่สนับสนุนให้ใครใช้กัมพูชาเป็นฐานเพื่อเคลื่อนไหวทางการเมืองในลักษณะที่เป็นการแทรกแซงกิจการภายในของมิตรประเทศ
นายเสขกล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศได้จัดทำแนวทางชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจกับภาคประชาสังคมของต่างประเทศ หลังจากที่องค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษยชนชั้นนำ อาทิ ฮิวแมนไรท์วอช ได้แสดงความสนใจและเฝ้าติดตามสถานการณ์การเมืองไทยอย่างใกล้ชิด โดยได้มอบหมายนายนรชิต สิงหเสนี เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ชี้แจงทำความเข้าใจที่สำนักงานใหญ่ของฮิวแมนไรท์วอชในนครนิวยอร์กแล้ว
"ขณะเดียวกันในสัปดาห์หน้า นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ จะเดินทางไปร่วมประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ และจะใช้โอกาสนี้เพื่อชี้แจงให้ชาติสมาชิกเข้าใจเกี่ยวกับพัฒนาการล่าสุดในไทย รวมถึงเหตุผลและความจำเป็นที่ทำให้กองทัพต้องเข้ามาคุมอำนาจในการบริหารประเทศด้วย" นายเสขกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น