วันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2557

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน 'ยกฟ้อง' 2 จำเลย คดีเผาเซ็นทรัลเวิลด์ปี 53



ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ยกฟ้อง 2 จำเลยคดีเผาเซ็นทรัลเวิลด์ เหตุการณ์สลายการชุมนุม พ.ค.53

แฟ้มภาพ: ประชาไท 23 พ.ค.2553
4 ก.ย. 2557 เวลา 9.00 น ที่ห้องพิจารณาคดี 405 ศาลอาญากรุงเทพใต้ อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่พิพากษายืนให้ยกฟ้องตามศาลชั้นต้น ในคดีหมายเลขดำ/แดงที่ 2478/2553, อ.1424/2556 จากที่่พนักงานอัยการสำนักงานอัยการยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นไป
ทั้งนี้  เมื่อวันที่ 25 มี.ค.56 ศาลอาญากรุงเทพใต้ อ่านคำพิพากษาของศาลชั้นต้นยกฟ้องคดีดังกล่าว ที่พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายสายชล แพบัว จำเลยที่ 1 อายุ 28 ปี (ในวันเกิดเหตุ) อาชีพรับจ้างและนายพินิจ จันทร์ณรงค์ จำเลยที่ 2 อายุ 26 ปี (ในวันเกิดเหตุ) อาชีพรับจ้าง ในความผิดร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่นซึ่งเป็นโรงเรือนที่เก็บสินค้าจนเป็นเหตุให้นายกิตติพงษ์ สมสุข ซึ่งอยู่ในอาคารเซ็นทรัลเวิลด์ถึงแก่ความตาย  และข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เหตุเกิดที่ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ค.53 ซึ่งมีการสลายการชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) โดยที่สายชลถูกจับกุมและถูกคุมขังตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.53 ส่วนพินิจถูกจับกุมและคุมขังตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค.53 ทั้งสองถูกปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังจากศาลชั้นต้นสั่งยกฟ้อง รวมแล้วสายชลถูกจำคุก 1,022 วัน ส่วนพินิจถูกจำคุก 1,041 วัน
สำหรับคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นั้น ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นเช่นกัน ที่ตัดสินลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 1 ปี แต่เนื่องจากให้การเป็นประโยชน์ในชั้นสอบสวนลดเหลือ 9 เดือน ส่วนจำเลยที่ 2 ถูกตัดสินโทษไปคดีก่อนหน้าแล้ว จึงให้ปล่อยตัวทั้งคู่ เนื่องจากถูกคุมขังมาสมควรแก่โทษแล้ว 
หลังจากศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ นายวิญญัติ ชาติมาตรี ทนายจำเลย เปิดเผยว่าจะทำหนังสือยื่นขอความเป็นธรรมกับอัยการต่อไป เพราะคดีนี้ถูกชั่งน้ำหนักถึง 2 ศาลแล้ว จึงขอความเป็นธรรมไม่ดำเนินคดีกับจำเลยต่อ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น