วันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2557

อัยการสูงสุดยังไม่ฟ้อง 'จำนำข้าว' ให้รวมพยานหลักฐานสมบูรณ์ก่อน


อัยการสูงสุดพิจารณาคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวแล้วเห็นว่าคดีมีข้อไม่สมบูรณ์ จึงมีหนังสือแจ้ง ป.ป.ช. และให้ตั้งคณะทำงานร่วมอัยการสูงสุด-ป.ป.ช. เพื่อพิจารณารวบรวมพยานหลักฐานให้สมบูรณ์ และหาข้อยุติเกี่ยวกับการฟ้องต่อไป
4 ก.ย. 2557 - สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย รายงานวันนี้ (4 ก.ย.) ว่า นายวันชัย รุจนวงศ์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า นายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด ได้พิจารณาสำนวนคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จากกรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งทำให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท แล้วเห็นว่าสำนวนยังมีข้อไม่สมบูรณ์พอที่จะดำเนินคดีตามข้อกล่าวหา เนื่องจากมีประเด็นที่ยังไม่สมบูรณ์ ประกอบด้วย
1.ประเด็นโครงการรับจำนำข้าว ควรรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนว่า นายกรัฐมนตรีมีอำนาจในการยับยั้งโครงการที่เป็นนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภาแล้วหรือไม่
2.ประเด็นเรื่องการละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ควรทำการไต่สวนและรวบรวมพยานหลักฐานให้สมบูรณ์ว่าโครงการรับจำนำข้าว ได้ถูกท้วงติงจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแล้ว นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ดำเนินการตรวจสอบ ป้องกันการทุจริตหรือไม่ อย่างไร และผลการตรวจสอบเป็นอย่างไร
3.ประเด็นเรื่องการทุจริตเห็นว่าควรไต่สวนพยานเพิ่มเติมให้ได้ความว่า โครงการรับจำนำข้าว พบการทุจริตในขั้นตอนใด และอย่างไร รวมถึงให้รวบรวมรายงานวิจัยโครงการนโยบายข้าวของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ TDRI เนื่องจากในสำนวนมีเพียงหน้าปกรายงานวิจัยเท่านั้น โดยในวันนี้สำนักงานอัยการสูงสุด ได้มีหนังสือแจ้งข้อไม่สมบูรณ์ไปยัง ป.ป.ช. และตั้งผู้แทนอัยการสูงสุดเป็นคณะทำงานร่วม กับผู้แทนฝ่ายคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อพิจารณาหลักฐานที่ไม่สมบูรณ์และรวบรวมพยานหลักฐานให้สมบูรณ์ เพื่อหาข้อยุติเกี่ยวกับการฟ้องต่อไป
โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวย้ำว่า การทำคดีดังกล่าวไม่มีความกังวลใดๆ เนื่องจาก ทำตามข้อกฎหมายอย่างถูกต้องเป็นธรรม พร้อมยืนยันว่าไม่มีการเมืองแทรกแซง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น