วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ทุกเชื้อชาติร่วมแถลงประณามการก่อเหตุรุนแรงต่อเป้าหมายอ่อนแอ


จากเหตุการณ์ คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนางสาวพารีด๊ะ สาและ อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นลูกจ้างโครงการสร้างงานจ้างงานเร่งด่วน อยู่บ้านเลขที่ 57/1 บ้านปุโรง หมู่ที่ 2 ต.ปุโรง อ.กรงปินัง จ.ยะลา เมื่อเวลา 19.50 น. วันที่ 8 พ.ค.2558 เสียชีวิตขณะนั่งอยู่บริเวณบ้านพักของตนเอง ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ โดยคนร้ายเดินมาจากสวนยางพาราหลังบ้านพัก ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ได้มีองกรประชาสังคมได้ออกแถลงการณ์ประณามและเรียกร้องทั้งต่อภาครัฐให้มีมาตรการป้องกัน เยียวยา และให้ผู้ก่อเหตุยุติการกระทำต่อเป้าหมายอ่อนแอ
เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสนติภาพ (B4P) สนับสนุนทุกองค์กรร่วมประณาม
เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ (B4P) ออกจดหมายเปิดผนึกถึงผู้เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาชายแดนใต้แสดงความกังวลของคนไทยพุทธ ถึงกรณีฆ่าและการกระทำต่อเป้าหมายที่อ่อนแอทั้งกรณีเหตุฆ่าแล้วเผานายสรรเพ็ชร กาญจนเทพ และนางนพรัตน์ กาญจนเทพ ในหมู่บ้านบ้านตันหยง ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา และเหตุคนร้ายยิงนางสาว ฟารีด๊ะ สาและ เสียชีวิตที่บ้านปุโรง อ.กรงปินัง จังหวัดยะลา
เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสนติภาพ มีความกังวลต่อความสูญเสียของทุกคน ซึ่งไม่ควรสูญเสีย ในบรรยากาศที่กำลังเดินหน้าการพูดคุยสันติสุข จึงขอเสนอให้ละเว้นต่อเป้าอ่อนแอ และพลเรือน เพราะการละเมิดมนุษยธรรมยิ่งทำให้ทุกฝ่ายไกลไปจากเป้าหมายทั้งสิ้น และเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพขอสนับสนุนแถงการณ์ของสมาคมเด็กและเยาวชนเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ (กลุ่มลูกเหรียง) สมาคมผู้หญิงเพื่อสันติภาพ
จดหมายเปิดผนึกฉบับเต็ม http://www.deepsouthwatch.org/node/7146
สมาคมผู้หญิงเพื่อสันติภาพ we peace ประณามการก่อเหตุรุนแรงต่อสตรี
สมาคมผู้หญิงเพื่อสันติภาพออกแถลงการณ์กรณี สตรีถูกยิง อ.กรงปินัง จังหวัดยะลา โดยขอประณามการกระทำอันโหดร้ายที่กระทำต่อสตรี ปราศจากอาวุธ และไม่มีทางต่อสู้ นับเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยม กระทำต่อเป้าหมายที่อ่อนแอ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อสมาชิกในครอบครัวอย่างยิ่ง
สมาคมผู้หญิงเพื่อสันติภาพ (We Peace) ขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น อีกทั้งขอให้รีบเร่งดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม การให้ความช่วยเหลือเยียวยา และขอเรียกร้องให้พี่น้องประชาชน องค์กรภาคประชาสังคม ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐ รวมพลังกันแสดงจุดยืน ประณามการกระทำดังกล่าวต่อผู้ก่อเหตุความรุนแรง
แถงการณ์ฉบับเต็ม http://www.deepsouthwatch.org/node/7145
กลุ่มลูกเหรียงเรียกร้องเยียวยาบุตรระยะยาว
สมาคมเด็กและเยาวชนเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ (กลุ่มลูกเหรียง) ออกแถลงการณ์ ประมาณการกระทำของผู้ก่อเหตุความรุนแรงที่โหดร้ายที่กระทำต่อเป้าหมายอ่อนแอ เป็นกระทำที่ขาดเมตตาธรรม ไร้มนุษยธรรม ผิดต่อกฎหมายและละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยเรียกร้อง ให้องค์กรภาคประชาสังคม หน่วยงานภาครัฐและพี่น้องประชาชนรวมพลังกันแสดงจุดยืดและประณามการกระทำครั้งนี้
ทางกลุ่มขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เรียกร้องให้เยียวยาด้านจิตใจและให้ความช่วยเหลือระยะยาวต่อพี่น้องฝาแฝดซึ่งเป็นบุตรของนางสาวฟารีดะห์อย่างเป็นรูปธรรมที่สุด
แถลงการณ์ฉบับเต็ม http://www.deepsouthwatch.org/node/7147
ส่วนเหตุการณ์คนร้ายเหตุฆ่าแล้วเผา นายสรรเพ็ชร กาญจนเทพ อายุ 42 ปี และนางนพรัตน์ กาญจนเทพ อายุ 37 ปี เหตุเกิดที่ หมู่ที่ 1 บ้านบาเจาะ  ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2558 เวลา 17.10 น. องค์กรภาคประชาสังคมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ หลายองค์กรได้ออกแถลงการณ์ ดังนี้
LEMPAR จี้รัฐต้องจัดกลไกการตรวจสอบและการสอบสวนที่เป็นกลางและอ้างอิงหลักฐานได้
สำนักปาตานีรายาเพื่อสันติภาพและการพัฒนา (Lempar) ออกแถลงการณ์ว่า แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและขอแสดงความไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งต่อการกระทำความรุนแรงทุกรูปแบบโดยเฉพาะต่อกลุ่มเป้าหมายพลเรือนทุกชนชาติและศาสนา
พร้อมกันนี้ได้มีข้อเรียกร้องให้รัฐจัดตั้งกลไกตรวจสอบข้อเท็จจริงที่มีความเป็นกลางที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ทำหน้าที่สืบสวนสอบสวนและชี้แจงต่อสาธารณะ เพื่อลดกระแสความรู้สึกของสาธารณะ และเรียกร้องให้สาธารณะวิจารณญาณที่มีวุฒิภาวะทางการเมือง เพราะบางทีความจริงอาจจะเป็นความเท็จและความเท็จอาจจะเป็นความจริงก็เป็นได้
นอกจากนี้ได้เรียกร้องให้รัฐเร่งการดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายอย่างมีความรัดกุมรอบคอบเพื่อให้ได้คนร้ายตัวจริง ทั้งนี้หากจำเป็นที่จะต้องใช้ยุทธการปิดล้อมตรวจค้นหมู่บ้านเป้าหมาย ขอให้รัฐใช้ความระมัดระวังอย่างสูงในการปฏิบัติการเพื่อไม่ให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบ
แถลงการณ์ฉบับเต็ม  http://www.deepsouthwatch.org/node/7140
กลุ่มลูกเหรียง ขอให้กองกำลังติดอาวุธยุติทำร้ายเป้าหมายอ่อนแอ
สมาคมเด็กและเยาวชนเพื่อสันติภาพชายแดนใต้(กลุ่มลูกเหรียง) ออกแถลงการณ์ ประมาณการกระทำของผู้ก่อเหตุความรุนแรงที่โหดร้ายที่กระทำต่อเป้าหมายอ่อนแอ เป็นกระทำที่ขาดเมตตาธรรม ไร้มนุษยธรรม ผิดต่อกฎหมายและละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยเรียกร้อง ให้องค์กรภาคประชาสังคม หน่วยงานภาครัฐและพี่น้องประชาชนรวมพลังกันแสดงจุดยืดและประณามการกระทำครั้งนี้
เรียกร้องให้เร่งดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม และนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษ และสร้างความเชื่อมั่นในการดำรงชีวิตอย่างปลอดภัย พร้อมการเยียวยาด้านจิตใจ และความช่วยเหลือระยะยาวต่อลูกๆ ของผู้ที่เสียชีวิต และขอให้กองกำลังติดอาวุธ ยุติการทำร้ายเป้าหมายที่อ่อนแอ เพื่อส่งเสริมบรรยากาศของการพูดคุยสันติภาพที่ยั่งยืน
แถลงการณ์ฉบับเต็ม http://goo.gl/C8ajxl
มูลนิธิสตรีประณามกลุ่มผู้ใช้ความรุนแรงในการก่อเหตุทุกกรณี
มูลนิธิสตรีผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ออกแถลงการณ์ประณามกลุ่มผู้ใช้ความรุนแรงในการก่อเหตุทุกกรณีและทุกเหตุการณ์ ที่มุ่งประสงค์ต่อชีวิตและทรัพย์สินประชาชนผู้บริสุทธิ์ สร้างความเสียหาย วุ่นวาย แตกแยก หวาดกลัว และความไม่ปลอดภัยต่อสาธารณชน
โดยเรียกร้องให้องค์กรภาคประชาสังคมและประชาชนรวมพลังกันแสงจุดยืนและประณามการกระทำของผู้ก่อเหตุที่มีต่อสตรี พร้อมทั้งร่วมมือกันช่วยเหลือเยียวยาจิตใจแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างรวดเร็วและเหมาะสม โดยไม่เลือกปฏิบัติ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตให้กลับฟื้นคืนสู่ปกติในเร็ววัน
แถลงการณ์ฉบับเต็ม http://goo.gl/510pJx
สสชต. เรียกร้องสันติภาพที่ยั่งยืน
สหพันธ์ นักเรียน นักศึกษา เพื่อสันติภาพชายแดนใต้ (สสชต.) ออกแถลงการณ์ ประณามผู้ก่อเหตุความรุนแรง อันเป็นการกระทำขาดเมตตาธรรมไร้มนุษยธรรมที่ผิดกฎหมายและละเมิดสิทธิความเป็นมนุษย์ รวมทั้งขอเรียกร้องให้องค์กรภาคประชาสังคมและพี่น้องประชาชนร่วมพลังกันแสดงจุดยืนและประณามการกระทำของผู้ก่อเหตุดังกล่าว
พร้อมกันนี้ได้แสดงความเสียใจและความห่วงใยเป็นอย่างยิ่งต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบในเหตุการณ์ครั้งนี้ และเชื่อมั่นว่าสันติภาพที่ยั่งยืนไม่อาจเกิดขึ้นได้ หากผู้บริสุทธิ์ยังถูกคุกคาม และสังคมยังไร้ซึ่งความมั่นคงปลอดภัย
แถลงการณ์ฉบับเต็ม http://goo.gl/wM8eYo
มูลนิธิผสานวัฒนธรรมและกลุ่มด้วยใจ "เหตุการณ์เข้าข่ายอาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ"
แถลงการณ์ร่วมองค์กรพัฒนาเอกชน (มูลนิธิผสานวัฒนธรรมและกลุ่มด้วยใจ) กล่าวว่า เหตุการณ์ความรุนแรงต่อพลเรือนอาจเข้าข่าย “อาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ” (Crime against Humanity) ที่ฝ่ายกระทำจะต้องรับผิดทางอาญาตามหลักการของกฎหมายอาญาระหว่างประเทศ การฆ่าสังหารพลเรือนเท่ากับเป็น“การละเมิด” กฎหมายระหว่างประเทศ โดยกลุ่มที่กระทำทั้งที่เป็นรัฐและไม่ใช่รัฐจะต้องรับผิดทางอาญาตามหลักการดังกล่าว
แถลงการณ์ได้เรียกร้องให้กลุ่มผู้ใช้ความรุนแรงทุกฝ่ายยุติการฆ่าสังหารต่อพลเรือนผู้บริสุทธิ์ในสถานการณ์ความขัดแย้งในจังหวัดชายแดนใต้ การฆ่าสังหารผู้บริสุทธิ์ เป้าหมายอ่อนแอไม่ว่าจะเป็นพุทธ มุสลิม และอื่นๆ รวมทั้งการทำลายศพที่เป็นการกระทำอย่างเป็นระบบแพร่หลายจะเข้าข่ายอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ พร้อมเรียกร้องให้รัฐที่มีพันธะ หน้าที่ในการปกป้อง คุ้มครอง ให้ผู้หญิงได้มีชีวิตรอด และ ดำเนินการหามาตรการป้องกันเหตุอย่างจริงจังและขอให้ทุกฝ่ายร่วมกันสร้างสรรค์บรรยากาศของสันติภาพให้กลับคืนมาทดแทนความรุนแรงที่สร้างรอยร้าวและบาดแผลมาอย่างยาวนานให้กลับคืนมา
แถลงการณ์ฉบับเต็ม http://goo.gl/Ig3epY

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น