12 ต.ค.2558 เมื่อเวลา 18.00 น. โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจได้เผยแพร่สารจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 2 โดยมี พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้อ่านสารฉบับดังกล่าว ระบุ ความสำคัญของสารมีอยู่ 2 ประเด็น คือ เรื่องของความคิดเห็นที่แตกต่างทางการเมืองและการปรองดองกับเรื่องของการยกร่างรัฐธรรมนูญ โดยเป็นประเด็นที่เคยเรียนให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบกันไปแล้ว แต่วันนี้สรุปเพื่อให้เห็นถึงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนของรัฐบาลว่ามีความตั้งใจจริงที่จะพาประเทศชาติไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน โดยเรื่องการยกร่างรัฐธรรมนูญ ขอให้ทุกคนให้โอกาสกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศได้ ที่ตั้งขึ้นมาใหม่ ให้ได้ทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อนำประเทศกลับสู่ความผาสุกและยั่งยืนโดยเร็ว
ส่วนประเด็นความคิดเห็นที่แตกต่างทางการเมืองและการปรองดอง ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เสนอความคิดเห็นทั้งเหมือนและแตกต่าง รัฐบาลพร้อมรับข้อมูลไว้ทั้งหมด เพื่อจะนำไปสู่การปฏิรูปประเทศอย่างเป็นรูปธรรม ยืนยันการดำเนินการทุกอย่างเป็นการวางแผนเพื่อวันข้างหน้าที่รัฐบาลซึ่งมาจากการเลือกตั้งได้ใช้อำนาจที่ได้รับมอบหมายจากพี่น้องประชาชนได้อย่างถูกต้อง เป็นธรรม และเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ และประชาชนอย่างแท้จริง นายกรัฐมนตรีจึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนช่วยขับเคลื่อนประเทศ ยอมรับเรื่องในอดีต และหันมาร่วมมือกันหาทางแก้ไขปัญหาเหล่านั้น เพื่อให้ประเทศก้าวหน้าและยั่งยืนต่อไป
สำหรับการปรองดองต้องมีการศึกษาในรายละเอียดอย่างมีส่วนร่วม เพื่อให้เกิดกระบวนการที่เหมาะสม ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย ต้องมีการดำเนินการอย่างรอบคอบ ชัดเจน และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมาย
ส่วนอีก 2 ประเด็นที่เพิ่มขึ้นมา คือ การดำเนินงานของกองสนับสนุนการเสริมสร้างสุขภาพ หรือ สสส. ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายหน่วยงานต่างๆ เข้าไปตรวจสอบไม่ได้หมายความว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นแล้ว หากแต่เป็นการตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่า สสส.มีกรอบการทำงานที่ชัดเจน เป็นไปตามวัตถุประสงค์ และประกอบไปด้วยกิจกรรมต่างๆ ที่ส่งเสริมสุขภาพประชาชนอย่างครบถ้วน และเป็นไปตามกฎ ระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ อย่างรัดกุม มีการใช้จ่ายงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพเกิดประโยชน์สูงสุด
ขณะที่การเสนอข้อมูลข่าวสารของสื่อมวลชนบางส่วนที่ออกไปในทิศทางของการขัดแย้งภายในกองทัพ ยืนยันขณะนี้สถานการณ์ในกองทัพเป็นปกติ กำลังพลทุกนายมีความรัก ความสามัคคีต่อกัน แม้บางท่านจะมีแนวคิดที่แตกต่างกันไปบ้าง แต่สิ่งสำคัญคือการเคารพต่อการตัดสินใจ และการให้เกียรติซึ่งกันและกันตามหน้าที่ภาระของแต่ละคน นายกรัฐมนตรีคาดหมายจะได้รับความร่วมมือจากสื่อมวลชนที่จะยุติการเสนอข้อมูลข่าวสารที่จะออกไปในทางความขัดแย้งอย่างที่ผ่านมา เพราะไม่เป็นข้อเท็จจริงและไม่เกิดประโยชน์ต่อฝ่ายใด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น