โปแลนด์กลายเป็นประเทศที่ 14 ของยุโรปที่ประกาศต่อต้านพืชดัดแปลงพันธุกรรมจากบรรษัทยักษ์ใหญ่ ซึ่งประเทศต่างๆ เหล่านี้เกรงว่าพืชจีเอ็มโอจากบรรษัทจะส่งผลกระทบต่อพืชในท้องถิ่นของพวกเขา รวมถึงส่งผลต่อภาพลักษณ์อุตสาหกรรมอาหาร หรือมีอิทธิพลเหนือเกษตรกรในท้องถิ่น
6 ต.ค. 2558 สถานีวิทยุของโปแลนด์รายงานว่าประเทศโปแลนด์ประกาศคัดค้านอย่างเป็นทางการไม่ให้นำพืชตัดต่อพันธุกรรมของมอนซานโตมาปลูกในประเทศ ทำให้โปแลนด์กลายเป็นประเทศที่ 14 ในยุโรปที่ปฏิเสธพืชดัดแปลงพันธุกรรมหรือจีเอ็มโอของบรรษัทยักษ์ใหญ่ทางการเกษตรแห่งนี้
จากที่ก่อนหน้านี้มีประเทศในยุโรปอย่าง สโลวีเนีย, เซอร์เบีย, โครเอเชีย, ลัตเวีย, อิตาลี, เยอรมนี, สก็อตแลนด์, เวลส์, ลิทัวเนีย, ออสเตรีย, ไอร์แลนด์, ฝรั่งเศส และกรีซ มีท่าทีต่อต้านการปลูกพืชจีเอ็มโอในประเทศของตน ในตอนนี้มีโปแลนด์ร่วมปฏิเสธด้วยเป็น 14 ประเทศแล้ว
เว็บไซต์เนชันออฟเชนจ์รายงานว่าสาเหตุที่หลายประเทศบอยคอตต์พืชจีเอ็มโอของมอนซานโตโดยเฉพาะข้าวโพดที่ดัดแปลงพันธุกรรมเนื่องจากเกรงว่าพืชจีเอ็มโอจะส่งผลทำให้พืชที่ปลูกตามธรรมชาติในประเทศของพวกเขาถูกปนเปื้อนไปด้วย
ริชาร์ด ล็อกเฮด เลขาธิการหน่วยงานกิจการชนบทของสก็อตแลนด์เคยกล่าวไว้ว่าเขารู้สึกกังวลถ้าหากมีการปลูกพืชดัดแปลงพันธุกรรมในสก็อตแลนด์เนื่องจากอาจจะส่งผลเสียหายต่อภาพลักษณ์แบรนด์ที่ "เขียว" และ "คลีน" ของพวกเขาได้ ถือเป็นการสร้างความเสี่ยงต่ออนาคตของภาคส่วนอาหารและเครื่องดื่มที่มีมูลค่า 14,000 ล้านปอนด์ของพวกเขา
เนชันออฟเชนจ์ระบุว่ายุโรปมีการต่อต้านพืชดัดแปลงพันธุกรรมมานานหลายทศวรรษแล้ว มีการชุมนุมประท้วงในเรื่องนี้หลายครั้ง เช่นเมื่อต้นปีที่ผ่านมามีชาวนาโปแลนด์ประท้วงบนท้องถนนและใช้รถแทร็กเตอร์ของพวกเขาปิดถนนเพื่อแสดงการคัดค้านไม่ให้บรรษัทเอกชนต่างประเทศเข้ามามีอิทธิพลเหนืออุตสาหกรรมของพวกเขาแล้วพวกเขาก็ประสบความสำเร็จ ทำให้ในตอนนี้โปแลนด์ไม่อนุญาตให้มอนซานโตนำพืชดัดแปลงพันธุกรรมเข้ามาในเขตแดนของพวกเขาอย่างเป็นทางการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น