13 ต.ค. 2558 เมื่อเวลา 11.30 น. ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย นำโดยนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมฯ พร้อมคณะ เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินผ่านนายธาวิน อินทรจำนงค์ รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้ตรวจสอบจริยธรรมของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กรณีแต่งตั้งเครือญาติและบุคคลที่เคยร่วมอาชีพเดียวกันเป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เข้าข่ายเป็นการเลือกปฏิบัติ มีผลประโยชน์ทับซ้อนและขัดกันแห่งผลประโยชน์
ทั้งนี้ นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า รายชื่อสมาชิกสปท.จำนวน 200 คน ที่นายกฯ ได้ประกาศแต่งตั้งเมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา พบว่ามีบุคคลที่เป็นเครือญาติของนายวิษณุ ที่เป็นรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับมอบหมายให้ดูแลเรื่องกฎหมายและการยุติธรรม คือ พล.อ.ต.เฉลิมพล เครืองาม และนายดุสิต เครืองาม ทั้งสองคนเป็นพี่น้องร่วมสายโลหิตเดียวกับนายวิษณุ ขณะเดียวกัน พบว่า นายกฯ มีการแต่งตั้งบุคคลที่มีอาชีพหรือเคยมีอาชีพเดียวกับตนเองคือนายทหาร หรือตำรวจในและนอกราชการมาเป็นสมาชิกจำนวนถึง 77 คน หรือมากกว่า 38.5 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด ทั้งที่ในข้อเท็จจริงสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ควรประกอบไปด้วยบุคคลที่มีความหลากหลายอาชีพ มากกว่าจะเป็นพี่น้อง หรือคนกันเอง จึงถือว่าพฤติกรรมดังกล่าวของรองนายกฯและนายกฯในฐานะผู้ใช้อำนาจแต่งตั้ง ไม่ได้ใช้วิจารณญาณในการพิจารณาแต่งตั้งบุคคลตามระบบคุณธรรม จริยธรรมที่กฎหมายกำหนด
นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า เข้าข่ายมีผลประโยชน์ทับซ้อนและเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันโดยใช้อำนาจทางกฎหมายเสนอ แต่งตั้งบุคคลใกล้ชิดตนขึ้นมารับตำแหน่งกินเงินเดือน และรับผลประโยชน์ตอบแทนอื่นจากรัฐ ส่อขัดจริยธรรมผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มาตรา 13 (2) พ.ร.บ.ผู้ตรวจการแผ่นดิน และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยประมวลจริยธรรมของข้าราชการเมือง 2551 จึงขอให้ผู้ตรวจฯดำเนินการตรวจสอบหากพบว่าเป็นกรณีฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงขอให้ดำเนินการส่งเรื่องให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ดำเนินการตามกฎหมายป.ป.ช.ที่เกี่ยวกับการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวมเพื่อนำไปสู่การถอดถอนต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น