วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

วิษณุแจงเขียนจม.ขอพักโทษผู้ต้องขังรายหนึ่ง ทำอย่างเปิดเผย มีระเบียบรองรับตามกฎหมาย


26 ก.พ. 2559 จากกรณีเฟซบุ๊กแฟนเพจ 'กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ' นำภาพจดหมายที่เขียนด้วยลายมือของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ขอให้พักโทษผู้ต้องขังรายหนึ่ง มาเผยแพร่นั้น
ล่าสุด สำนักข่าวไทย รายงานว่า  นายวิษณุ กล่าวถึงจดหมายดังกล่าวว่า ญาติผู้ต้องขังคนดังกล่าว เคยเดินทางพบตนเอง แล้วขอให้ช่วยพักโทษผู้ต้องขังรายนั้น ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นนายกสมาคมกล้วยไม้  จึงสอบถามยังอธิบดีกรมราชทัณฑ์ว่า เข้าเงื่อนไขให้สามารถทำได้หรือไม่ ซึ่งได้คำตอบว่า การจะพักโทษผู้ต้องขังได้ บุคคลดังกล่าวต้องผ่านการรับโทษมาแล้วกึ่งหนึ่ง และเป็นนักโทษชั้นดีเยี่ยม ซึ่งผู้ต้องขังรายนั้นเข้าข่าย จึงทำหนังสือและทำจดหมายเกษียณแนบท้าย ให้ญาตินำไปยื่นร้องขอความเป็นธรรม ต่ออธิบดีกรมราชทัณฑ์
นายวิษณุ กล่าวว่า กรณีนี้ถือว่าไม่ใช่รายแรก และหากใครที่เห็นว่า ไม่ได้ความเป็นธรรม ก็สามารถขอให้ช่วยได้ ยืนยันไม่เคยรู้จักกับผู้ต้องขังคนดังกล่าว และไม่เคยรับประโยชน์ใดๆ มาก่อน ทุกอย่างทำอย่างเปิดเผย มีระเบียบรองรับตามกฎหมาย จึงไม่ใช่เป็นการทำจดหมายน้อยแต่อย่างใด เพราะข้อความที่นำมาเผยแพร่ ถูดตัดมาเพียงเล็กน้อย
 
“ยินดีและเต็มใจชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยไม่รู้สึกผิดปกติหรือตื่นเต้น เนื่องจากขณะที่ทำมีสติครบถ้วน พร้อมยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง ส่วนตัวเป็นคนระมัดระวังเวลาทำอะไรอยู่แล้ว หากสิ่งใดที่ไม่ต้องการเปิดเผย ทุกเรื่องจะเป็นความลับ และขณะนี้มีหนังสือร้องขอความเป็นธรรมมาที่ผม โดยข้าราชการระดับสูง ที่ถูกคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง อยู่ระหว่างการพิจารณาอีก 3 ราย แต่ขอไม่เปิดเผยรายละเอียด” นายวิษณุ กล่าว
 
นายวิษณุ กล่าวด้วยว่า ส่วนตัวได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบดูแลกระทรวงยุติธรรม เรื่องดังกล่าวจึงถือว่าอยู่ในอำนาจหน้าที่ ไม่ถือเป็นการก้าวก่ายแต่อย่างใด
 
มว.ยุติธรรม ชี้เป็นเรื่องปกติคนทั่วไปก็ทำกัน ขออย่าเทียบกับ จม.น้อยวิ่งเต้นขอตำแหน่ง
 
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ รายงานด้วยว่า พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า การเขียนจดหมายน้อยของนายวิษณุ สามารถทำได้เป็นเรื่องปกติคนทั่วไปก็ทำกัน แต่อย่านำไปเปรียบเทียบกับจดหมายน้อยของการวิ่งเต้นขอตำแหน่งให้กับข้าราชการตำรวจของศาลปกครองเพราะกรณีนี้เป็นการร้องขอตามสิทธิของผู้ต้องขังซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังร้องขอเองหรือญาติร้องขอก็ได้โดยเรื่องนี้นายกสมาคมกล้วยไม้ฯคนปัจจุบัน ร้องขอไปยังนายวิษณุซึ่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงยุติธรรมโดยตรง จึงเป็นเหตุให้รองนายกรัฐมนตรีได้ทำหนังสือปะหน้าส่งถึงกรมราชทัณฑ์พร้อมระบุว่า“กรุณาพิจารณาด้วยหากระเบียบเปิดช่องให้ทำได้“สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นสิทธิโดยชอบขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เมื่อได้รับหนังสือจากผู้ร้องก็ต้องพิจารณาตามหลักเกณฑ์ของกรมราชทัณฑ์ 
 
รมว.ยุติธรรม กล่าวต่อว่า ตามปกติเมื่อผู้ต้องขังจะร้องขอให้มีการพักการลงโทษมักจะอ้างเรื่องคุณงามความดีโดยแบ่งออกเป็น2ช่วง คือ ช่วงที่อยู่ในเรือนจำเจ้าหน้าที่จะเป็นผู้ประเมินจากความประพฤติผู้ต้องขังส่วนช่วงที่ใช้ชีวิตอยู่นอกเรือนจำก็ต้องอ้างบุคคลอื่นมาให้การรับรอง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่มีการอ้างถึงบุคคลที่น่าเชื่อถือต่างๆส่วนกรณีที่มีการยืนยันถึงตำแหน่งอดีตนายกสมาคมกล้วยไม้ฯก็เพื่อให้มีการรับรู้ถึงอาชีพและรายได้ที่แน่นอนหากได้รับการพักการลงโทษจะไม่หลบหนีหรือกระทำผิดเงื่อนไข ดังนั้นสิ่งที่นายวิษณุกระทำเป็นการทำหน้าที่ดูแลสิทธิของผู้ต้องขังไม่ใช่การละเมิดสิทธิ์ผู้อื่น แต่กลับถูกโยงไปเป็นประเด็นใส่ร้ายกันในทางการเมือง วัตถุประสงค์เพื่อให้คนทำงานหมดกำลังใจ 
 
สำหรับผู้ต้องขังรายดังกล่าวจะได้รับการพิจารณาพักการลงโทษหรือไม่ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติคือจะต้องเหลือโทษจำคุกไม่เกิน1ใน3และจะต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการพักการลงโทษที่มีปลัดกระทรวงยุติธรรมหรือรองปลัดกระทรวงยุติธรรมนั่งเป็นประธาน 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น