เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา Thaisvoicemedia ได้เผยแพร่สัมภาษณ์ นายมาณพ ทิพย์โอสถ โฆษกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีออกกติกาใหม่ให้สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลถามได้เพียง 4 คำถามต่อวันและก่อนถามนักข่าวจะต้องแจ้งชื่อนามสกุลและสังกัดก่อน
โดยโฆษกสมาคมนักข่าวฯ ระบุว่า สมาคมนักข่าวฯเห็นว่าเป็นการริดรอนสิทธิเสรีภาพของสื่อมากเกินไป เพราะการบริหารราชการแผ่นดินในแต่ละวันย่อมมีประเด็น มีข้อสงสัย และมีปัญหาที่ประชาชนต้องการฟังคำตอบจากผู้นำประเทศมากกว่า 4 คำถาม อย่างไรก็ตามนักข่าวประจำทำเนียบเองบางคนก็ยอมรับได้เพื่อให้เกิดระเบียบ ส่วนข้อวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่าอาชีพสื่อมวลชน หรือแม้แต่สมาคมนักข่าวฯในยุคปัจจุบันเป็นยุคที่ตกต่ำที่สุดหรือไม่เป็นเรื่องที่สังคมตัดสินว่าเป็นอย่างไรในฐานะที่อยู่ในองค์กรคงพูดไม่ได้ว่าสมาคมที่ตัวเองสังกัดตกต่ำที่สุดหรือไม่ หรือจะมองว่าสมาคมนักข่าวฯสยบยอม หรือเห็นดีเห็นงามกับอำนาจเผด็จการไปด้วยหรือไม่ก็เป็นเรื่องที่สังคมเป็นคนมอง
กรณีสำนักงานโฆษกรัฐบาล จัดระเบียบการให้สัมภาษณ์นายกรัฐมนตรีต่อนักข่าวสายทำเนียบรัฐบาลนั้น นายมาณพ มองว่า เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงการไม่ให้เกียรติ การทำหน้าที่ของสื่อมวลชน กับการที่ให้นักข่าวนั่งพับเพียบกับพื้น สะท้อนภาพการกดขี่ที่ผู้นำประเทศมีต่อประชาชน เพราะสถานะของนายกรัฐมนตรี กับ สถานะของผู้สื่อข่าวในการทำงานให้กับประชาชนนั้น ไม่แตกต่างกัน จึงอยากเรียกร้องให้สำนักโฆษกจัดการที่ทางในการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ให้มันเหมาะสมมากกว่านี้
โฆษกสมาคมนักข่าวฯ ยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนที่ถูกสมาคมนักข่าวฯ ตำหนิมากที่สุด เพียงต่างสิ่งที่ท่านแสดงออก ปรากฏการณ์คำพูดหรือกิริยาของท่านมันถี่มากกว่าคนอื่นเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นการที่จะทำให้สมาคมนักข่าวฯ ออกทุกครั้งนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกัน
"สิ่งที่สมาคมนักข่าวฯ แสดงออกกับท่านประยุทธ์นี่ ผมว่าตำหนิมากกว่านายกรัฐมนตรีคนอื่นๆ เพียงแต่ว่าสิ่งที่ท่านแสดงออกมานั้นมันมากกว่าคนอื่นเป็นจำนวนมากเท่านั้นเอง" นายมาณพ กล่าว พร้อมยืนยันว่าสมาคมนักข่าวฯ ไม่สยบยอม
ส่วนข้อเสนอที่จะให้ สมาคมนักข่าว หรือ ทำความเข้าใจหรือปรับทัศนคติ พล.อ.ประยุทธ์ ให้เข้าใจบทบาทหน้าที่ของนักข่าว แตกต่างจากการเป็น พลทหาร หรือเป็นข้าราชการในสังกัดของรัฐบาลนั้น นายมาณพ มองว่า เป็นเรื่องที่ต้องให้สังคมร่วมกดดันด้วย และคงเป็นการยากที่จะเปลี่ยนความคิด ความเชื่อของผู้นำที่มาจากทหาร และมีอายุมากแล้วแบบ พล.อ.ประยุทธ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น