พล.อ.ประวิตร เตรียมใช้มาตรการเข้มกรณีแสดงความเห็นสร้างความขัดแย้ง ปรับทัศนคติ 3-7 วัน ใช้มาตรการทางกฎหมาย เพื่อเอาผิด ด้าน 'เพื่อไทย' จี้ปล่อยตัว 'วัฒนา' ทันที ชี้คุมตัวละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง
2 มี.ค. 2559 จากกรณี นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย อดีต รมว.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ถูกเจ้าหน้าที่ทหารเชิญตัวจากบ้านพักเพื่อเข้า มทบ.11 เพื่อสอบถามและปรับทัศนคติ หลังจาก วิจารณ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าใช้คำพูดไม่เหมาะที่กล่าวถึงทหารตามไปถ่ายรูป น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถึงศาลาสวดศพว่าเป็นเพราะ "ท่านสวย" นั้น (อ่านรายละเอียด)
ล่าสุด สำนักข่าวไทย รายงานว่า พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงกรณีดังดล่าวว่า เรื่องใดที่ยังไม่มีความชัดเจน อย่าเพิ่งแสดงความคิดเห็นหรือไม่พูดในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง
“การเชิญตัวไม่เกี่ยวข้องกับนายวัฒนาตำหนิผม แต่เมื่อมีการแสดงความคิดเห็นที่ทำให้สังคมเข้าใจผิด คสช.ก็ต้องเชิญพูดคุย ทั้งนี้ไม่ห่วงการที่ฝ่ายการเมืองออกมาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากต่อหลายเรื่องในขณะนี้ และเมื่อเชิญมาแล้ว นักการเมืองที่ถูกปล่อยตัวยังแสดงความคิดเห็นอยู่ ก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย เพราะประเทศไทยมีคนถึง 70 ล้านคนย่อมมีคนที่เห็นต่างบ้าง แต่หากพูดในเรื่องที่ไม่เหมาะสม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หากพูดร้อยครั้งก็จะเชิญมาร้อยครั้ง และนับจากนี้ไปการเชิญตัวปรับทัศนคติแต่ละครั้งจะใช้เวลา 3-7 วัน และจะใช้มาตรการทางกฎหมาย เพื่อเอาผิด” พล.อ.ประวิตร กล่าว
'เพื่อไทย' จี้ปล่อยตัว 'วัฒนา' ทันที ชี้ละเมิดสิทธิมนุษยชน อย่างร้ายแรง
ด้าน พรรคเพื่อไทย ได้ออกแถลงการณ์กรณีดังกล่าวด้วยว่ากันว่า การดำเนินการของกำลังทหารดังกล่าว ผิดวิสัยที่เจ้าหน้าที่ของรัฐจะปฏิบัติกับประชาชนคนไทยคนหนึ่ง ซึ่งกำลังพักผ่อนอยู่กับครอบครัวประกอบด้วยภรรยาและบุตรี ภายในบ้านพักซึ่งเป็นเคหสถานส่วนตัว ทั้งนี้ กำลังทหารดังกล่าวมีพฤติกรรมที่ไม่น่าจะชอบด้วยกฎหมาย และน่าจะละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ดังนี้
1. ใช้กำลังทหารจำนวนมาก ล้อมบ้านนายวัฒนาฯ ไว้ เป็นที่ตระหนกตกใจแก่ครอบครัวนายวัฒนาฯ และบุคคลในหมู่บ้านที่พบเห็น
2. ใช้กำลังทหารจำนวนหนึ่งล้อมบ้านไว้ และอีกประมาณ 10 นาย ถือวิสาสะเดินเข้าไปในบริเวณบ้าน ในสนามหน้าบ้าน รวมทั้งเข้าไปในห้องรับแขกภายในบ้าน โดยไม่มีหมายค้น หรือหมายจับ
3. ใช้กำลังทหารจำนวนหนึ่ง ตรึงกำลังอยู่ที่ปากทางเข้าหมู่บ้าน เพื่อกันมิให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปรายงานข่าวตามวิชาชีพและหน้าที่ของสื่อมวลชน เพื่อปิดหูปิดตาประชาชน
4. เวลาประมาณ 10.00 น. นายวัฒนาฯ พร้อมครอบครัวได้ลงมาพบกับนายทหารที่ชั้นล่างของบ้าน และนายวัฒนาฯ ได้ถูกควบคุมตัวนั่งรถของหน่วยทหารออกไปจากบ้านพัก โดยไม่ทราบเป้าหมาย ครอบครัวและผู้ติดตามพยายามที่จะใช้สิทธิที่จะทราบสภาพที่ถูกควบคุมตัว เพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดยาประจำตัว แต่ไม่อาจดำเนินการได้ เพราะถูกหลอกให้หลงทางในการติดตามรถที่คาดว่านายวัฒนาฯ นั่งอยู่
จากเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น พรรคเพื่อไทยเห็นว่า การดำเนินการใช้กำลังทหารจำนวนมากที่อยู่ในกำกับดูแลของรัฐบาล ได้เข้ามาควบคุมตัวนายวัฒนาฯ โดยมิชอบด้วยกฎหมาย และเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง จึงขอเรียกร้องมายังรัฐบาล เพื่อเร่งดำเนินการดังนี้
1. ขอให้ปล่อยตัวนายวัฒนาฯ ทันที หากนายวัฒนาฯ กระทำผิดกฎหมายใด ขอให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย มิใช่ใช้กำลังทหารจำนวนมากเข้ามาข่มขู่ ควบคุมตัวไปตามอำเภอใจ อันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง
2. ขอให้รัฐบาลยืนยันหลักประกันด้านสิทธิ เสรีภาพของประชาชนในการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ซึ่งแม้แต่รัฐบาลเองก็บัญญัติไว้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 ขอเรียนว่า ประชาชนคนไทยจำนวนมากรวมทั้งนานาชาติให้ความสำคัญและติดตามประเมินการละเมิดสิทธิมนุษยชนของรัฐบาลนี้อย่างใกล้ชิด
3. พรรคเพื่อไทยได้ติดตามการให้ความเห็นของนายวัฒนาฯ ที่แสดงความคิดเห็นต่อสาธารณะมาโดยตลอด เห็นว่า เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต มิได้ก่อให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมืองแต่ประการใด และหากเห็นว่าความเห็นของนายวัฒนาฯ ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลผู้ใด ก็สามารถใช้สิทธิดำเนินการตามกฎหมายได้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้กำลังทหารจำนวนมากมาดำเนินการกับคนๆ เดียว เหมือนกับว่าบ้านเมืองนี้ไม่มีขื่อมีแป
พรรคเพื่อไทยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตของบุคคล เพื่อให้เกิดบรรยากาศที่ดี และไม่เป็นการทำลายภาพลักษณ์และบรรยากาศโดยรวมของประเทศ จึงแถลงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น