เหตุการณ์ชุมนุมหน้า พล.ม.2 รอ. เมื่อ 24 พฤษภาคม 2557 (แฟ้มภาพ)
ฮิวแมนไรท์ วอทช์แถลงเมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2559 กรณีรัฐบาลไทยให้ คำมั่นต่อคณะมนตรีสิทธิมนุ ษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ที่อ้างวารัฐบาลไทยเคารพต่อสิ ทธิมนุษยชนและจะคืนประเทศสู่ ประชาธิปไตยนั้น ช่างเป็นคำพูดที่ แทบจะไร้ความหมายและแสดงให้เห็ นถึง "ความมือถือสากปากถือศีล" ของรัฐบาลเผด็จการทหาร
12 พ.ค. 2559 คำแถลงของฮิวแมนไรท์วอทช์ระบุว่าโดยก่อนหน้าที่จะมีการประชุ มทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนที่ เรียกว่า Universal Periodic Review (UPR) ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตซ์เซอร์แลนด์เมื่อวั นที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา รัฐบาลไทยได้ส่ งรายงานทบทวนสถานการณ์ต่ อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่ งสหประชาชาติระบุว่าพวกเขา "จัดให้เรื่องการส่งเสริมและคุ้ มครองสิทธิมนุษยชนของประชาชนทุ กกลุ่มเป็นเรื่องสำคัญที่สุด" แต่ฮิวแมนไรท์วอทช์ก็ระบุว่าที่ ผ่านมา คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็ทำการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้ นพื้นฐานอย่างรุ นแรงโดยลอยนวลไม่ต้องรับผิด มีการใช้อำนาจทหารหนักขึ้น และละเลยข้อผูกพันด้านสิทธิมนุ ษยชนนานาชาติโดยสิ้นเชิง
จอห์น ฟิชเชอร์ ผู้อำนวยการรณรงค์ของสำนักงานฮิ วแมนไรท์วอทช์สาขากรุงเจนีวากล่ าวว่าการโต้ตอบของไทยต่อกรณีที่ สหประชาชาติประเมินไทยนั้นไม่ สามารถแสดงให้เห็นถึงการให้สั ญญาอย่างจริงจังต่ อการลดการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรื อให้การคุ้มครองเสรีภาพพื้ นฐานมากขึ้น ในขณะที่หลายประเทศเริ่ มแสดงความกังวลต่อสถานการณ์สิ ทธิมนุษยชนในประเทศไทย ตัวแทนจากประะเทศไทยก็ไม่ได้พู ดอะไรที่จะขจัดความกังวลต่อวิ กฤตที่กำลังเกิดขึ้นได้เลย
ฮิวแมนไรท์วอทช์ระบุว่าหลั งจากที่เกิดการรัฐประหารเมื่อปี 2557 และการเข้ามามีอำนาจของ คสช. นำโดย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็มีการใช้อำนาจโดยอ้าง ม.44 ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบหรือขั้ นตอนตามกฎหมาย มีการร่างรัฐธรรมนูญที่ให้ อำนาจกองทัพในการแทรกแซงการเมื อง รวมถึงมีการสั่งเซนเซอร์สื่อ ทำการสอดส่องโลกออนไลน์ และลิดรอนเสรี ภาพในการแสดงความคิดเห็น ปราบปรามคนที่วิจารณ์หรือทำกิ จกรรมต่อต้านเผด็จการทหาร โดยมักจะอ้างข้อหายุยงปลุกปั่น อีกทั้งยังมีการอ้างใช้ กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเพิ่ มขึ้นมากและมีการลงโทษรุนแรงที่ สุดจากที่เคยมีมาในประวัติ ศาสตร์ไทย นอกจากนี้ยังมีการเรียกตัวนักกิ จกรรมหรือผู้เกี่ยวข้องกั บพรรคการเมืองเข้า "ปรับทัศนคติ" อีกนับพันราย มีการใช้ศาลทหารที่ทำการกักขั งหน่วงเหนี่ยวผู้คนโดยไม่มีข้ อหาหรือมีการไต่สวนรวมถึงไม่ให้ พวกเขาสามารถเข้าถึงทนายความได้ เลย
ในแถลงการณ์ของฮิวแมนไรท์วอทช์ ระบุต่อไปว่าฝ่ายความมั่ นคงของไทยยังคงละเมิดสิทธิมนุ ษยชนอย่างรุนแรงต่อไปโดยไม่ต้ องรับผิด ยังไม่มีใครเลยที่ต้องรับผิ ดในกรณีการใช้กำลั งปราบปรามและสังหารประชาชนช่ วงการชุมนุม 2553 ในกรณีละเมิดสิทธิในสามจังหวั ดชายแดนภาคใต้ รวมถึงในกรณี "สงครามยาเสพติด" สมัย ทักษิณ ชินวัตร ที่มีคนถูกวิสามัญฆาตกรรมมากกว่ า 2,000 ราย รวมถึงการสังหารและอุ้มหายนักกิ จกรรมด้านสิทธิชุมชนอย่าง 'บิลลี' หรือกรณีนักสิทธิมนุษยชนอย่าง 'ทนายสมชาย'
แถลงการณ์ของฮิวแมนไรท์วอทช์ยั งระบุอีกว่าทำการละเมิดสิทธิมนุ ษยชนอีกหลายข้อทั้งที่มี การลงนามอนุสัญญาไว้เช่น เรื่องการต่อต้านการอุ้มหาย อนุสัญญาเรื่องการต่อต้ านการทารุณกรรมซึ่งรัฐบาลไทยล้ มเหลวในการออกกฎบังคับใช้และยั งไม่มีกฎหมายใดระบุให้มี การชดเชยเหยื่อที่ถูกทารุณกรรม อีกทั้งยังทำได้ไม่ดีพอในกรณี ของการปฏิบัติต่อผู้ลี้ภั ยและการต่อต้านการค้ามนุษย์
"ไม่มีใครควรที่จะถูกหลอกโดยรั ฐบาลไทยที่ให้คำสัญญาด้านสิทธิ มนุษยชนแบบเพียงแค่ลมปาก" ฟิชเชอร์ กล่าว
"ประเทศสมาชิกสหประชาชาติ ควรกดดันไทยให้ยอมรับข้ อเสนอของพวกเขาเพื่อหยุดยั้งไม่ ให้เกิดภาวะตกต่ำทิ้งดิ่ งลงเหวด้านสิทธิมนุษย์ชน โดยต้องทำให้ไทยยกเลิกการข่ มเหงปราบปราม ให้เคารพในหลักเสรีภาพขั้นพื้ นฐาน และคืนประเทศสู่ การปกครองระบอบประชาธิ ปไตยภายใต้พลเรือน" ฟิชเชอร์ กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น