วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2559

รำลึก 1 ปี จับกุมประชาธิปไตยใหม่-ตำรวจห้ามแสดงสัญลักษณ์ Vote No

ขบวนการประชาธิปไตยใหม่บุกถามผู้กำกับ สภ.บางเสาธง ทำไมรับแจ้งความ พ.ร.บ.ประชามติ ทั้งที่ยังมีปัญหาอยู่ พร้อมขอคำตอบว่าจะให้แจกเอกสารได้แค่ไหน จัดรำลึก 1 ปีการจับกุม 14 นักศึกษา เจ้าหน้าที่ขอให้จัดกิจกรรมนอกบริเวณเรือนจำอ้างวันนี้เป็นวันหยุดราชการ ด้านตำรวจสั่งห้ามแสดงสัญลักษณ์ Vote No ระบุมีอำนาจจับกุมตามคำสั่ง คสช. 
 

 

 
 
26 มิ.ย. 2559 เมื่อเวลา 13.40 น. ที่สถานนีตำรวจภูธร บางเสาธง สมาชิกขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ได้เดินทางมาเพื่อเข้าขอพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากเกิดกรณีการจับกลุ่มสมาชิกขบวนการประชาธิปไตยใหม่และสมาชิกสหภาพเเรงงานไทม์อัมพ์ หลังจากไปแจกเอกสารรณรงค์ไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งต่อมาถูกแจ้งข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/58 ข้อ 12 เรื่องชุมนุมทางการเมืองจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปนั้น
 
นายปกรณ์ อารีกุล ได้แถลงข่าวว่าการเดินทางมาในวันนี้ไม่ได้ต้องมาสร้างความวุ่นวาย เป็นเพียงการเดินทางมาเพื่อทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเฉพาะกรณีการดำเนินคดีความตาม พ.ร.บ.ประชามติ มาตรา 61 วรรคสอง เรื่องจากประเด็นดังกล่าว นายจอน อึ๊งภากรณ์ พร้อมด้วยนักวิชาการทั้งหมด 107 รายชื่อ ได้ยื่นเรื่องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งเรื่องต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามาตราดังกล่าวขัดกับรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 หรือไม่ โดยศาลรัฐธรรมนูญจะลงมติในวันที่ 29 มิ.ย. นี้ ซึ่งหมายความว่าตัวกฎหมายดังกล่าวยังเป็นกฎหมายที่มีปัญหาและรอการตีความลงมติจากศาลรัฐธรรมนูญ แต่เหตุใดจึงยังมีการแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าว จนถึงที่สุดแล้วทำให้มีเพื่อน 7 คนถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ
 
นายปกรณ์กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังต้องการขอความเห็นจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกว่า การแจกเอกสารความเห็นแย้งร่างรัฐธรรมนูญของ กรธ. ซึ่งในเอกสารไม่มีข้อความใดที่เขียนว่า Vote NO จะสามารถทำได้หรือไม่
 
"เราออกมาเคลื่อนไหวไม่ใช่เพราะต้องการถูกจับ เราต้องการรู้ว่าตอนนี้เราทำอะไรได้แค่ไหน และเห็นว่าการจับคนเพิ่ม ไม่ได้สร้างบรรยากาศที่ดีต่อการทำประชามติ" ปกรณ์ กล่าว
 
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้การต้อนรับด้วยความเป็นมิตรและขอให้ตัวแทน 3 คน ประกอบด้วยนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา นายปกรณ์ อารีกุล และนางสาวชลธิชา เเจ้งเร็ว เข้าพบกับผู้กำกับ เพื่อเข้าพูดคุย
 
ต่อมาในเวลา 14.20 น. หลังจากการพูดคุยเสร็จ นายปกรณ์ได้ระบุว่าเจ้าหน้าที่ได้ให้คำตอบว่า การแจ้งข้อกล่าวหานั้นยังเป็นไปตามกฎหมายเนื่องจากกฎหมายยังคงบังคับใช้อยู่ และหากศาลรัฐธรรมนูญตีความว่ามาตรา 61 ขัดกับรัฐธรรมนูญ ศาลก็จะยกฟ้องคดีดังกล่าวเอง สำหรับการแจกเอกสารนั้นเจ้าหน้าที่ระบุว่าไม่สามารถให้คำตอบได้และขอให้ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ไปขอคำตอบจาก กกต.
 
ทั้งนี้ปกรณ์ยังกล่าวต่อว่าไม่่ว่าคำตอบของกกต. จะเป็นอย่างไร ทางขบวนการประชาธิปไตยใหม่จะเดินหน้าแจกเอกสารรณรงค์ต่อไป เพียงแค่ต้องการความชัดเจนจากเจ้าหน้าที่รัฐว่า ประชาชนสามารถทำอะไรได้บ้าง
 
รำลึกหนึ่งปีการจับกุม 14 นักศึกษาประชาธิปไตยใหม่ ในความเงียบเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจห้ามใช้เครื่องขยายเสียง
 
 
อีกหนึ่งในกิจกรรมของขบวนการประชาธิปไตยใหม่ในวันนี้ (26 มิ.ย. 2559) หลังจากเกิดเหตุการณ์การจับกุม 20 นักศึกษา นักกิจกรรม และสหภาพแรงงาน ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำทั้งหมด 7 คน จากการแจกเอกสารความเห็นแย้งต่อร่างรัฐธรรมนูญและเอกสาร 7 เหตุผลไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้วันนี้ยังเป็นวันครบรอบ 1 ปีการจับกุม 14 นักศึกษาขบวนการประชาธิปไตยใหม่
 
ปกรณ์ อารีกุล ได้ระบุว่ายังจำเหตุการณ์วันที่ถูกจับกุม แล้วนำตัวส่งศาลทหารได้ดี โดยวันนั้นคำพูดของรังสิมันต์ โรม ที่พูดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าจับกุมตัวพวกเขาคือ "ผมเข้าใจว่า พี่ทำตามหน้าที่ของพี่ แต่ในทุกๆปีของวันนี้พี่จะจดจำได้ทุกครั้งว่า พี่จับพวกผมส่งเข้าคุกโดยไม่เป็นธรรม"
 
ซึ่งปัจจุบัน รังสิมันต์ โรม ถูกคุมขังอีกครั้งในเรือนจำพิเศษกรุงเทพอีกครั้ง จากการยืนแจกใบปลิวรณรงค์ไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ
 
ด้านจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา ระบุว่าตนเองเข้าใจเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่เรือนจำดี ในการมาจัดกิจกรรมแล้วถูกห้ามทำอะไรหลาย ๆ อย่าง แต่ปัญหาที่สำคัญที่สุดไม่ได้อยู่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ได้อยู่ที่เจ้าหน้าที่เรือนจำ ปัญหาจริง ๆ เกิดขึ้นเมื่อสองปีที่แล้ว เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 เหตุการณ์ในวันนั้นทำให้ทุกคนมาอยู่ตรงนี้
 
ทั้งนี้ก่อนการจัดกิจกรรมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สั่งห้ามไม่ให้มีการใช้เครื่องขยายเสียง เนื่องจากอาจถูกตีความได้ว่าเป็นการชุมนุมทางการเมือง
 
เจ้าหน้าที่เรือนจำขอให้จัดกิจกรรมนอกบริเวณเรือนจำอ้างวันนี้เป็นวันหยุดราชการ
 
 
เวลา 18.05 น. ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นสถานที่นัดจัดกิจกรรมของขบวนการประชาธิปไตยใหม่ เจ้าหน้าที่เรือนจำได้เข้ามาเจรจากับสมาชิกขบวนการประชาธิปไตยใหม่โดยขอให้ย้ายสถานที่จัดกิจกรรมจากในบริเวณรั้วเรือนจำออกไปด้านนอกโดยให้เหตุผลว่าวันนี้เป็นวันหยุดข้าราชการไม่สามารถอนุญาตให้ใช้พื้นที่จัดกิจกรรมได้
 
ทั้งนี้ได้มีประชาชนบางส่วนเข้ามาในบริเวณรั้วเรือนจำแล้วแต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมเปิดประตูให้ ทำให้หลายคนต้องปีนรั้วออกมาจากเรือนจำเพื่อมาจัดกิจกรรมด้านนอก
 
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าการจัดกิจกรรมของขบวนการประชาธิปไตยใหม่ในวันนี้ มีจุดประสงค์เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ต่อกรณีการจับกุม 20 นักศึกษา นักกิจกรรม และสหภาพแรงงาน ซึ่งในจำนวนนี้มี นักศึกษา นักกิจกรรม ถูกฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพทั้งหมด 7 คน ในข้อหา ขัดคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 3/2558 และกระทำความผิด ตาม พ.ร.บ. ประชามติ มาตรา 61 จากการแจกเอกสารความเห็นแย้งต่อร่างรัฐธรรมนูญของ กรธ. และเอกสาร 7 เหตุผลไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ
 
โดยการจัดกิจกรรมครั้งนี้จะมีการพูดถึงนักศึกษานักกิจกรรมทั้ง 7 คนที่ถูกคุมขัง มีการรำลึกบรรยากาศครบหนึ่งปี การถูกจับกุมของ 14 นักศึกษาประชาธิปไตยใหม่ รวมทั้งจะมีการแจกสติ๊กเกอร์ Vote No
 
ตำรวจสั่งห้ามแปะสติ๊กเกอร์ Vote No ยื่นคำขาด ระบุมีอำนาจจับกุมตามคำสั่ง คสช. 3/2558
 
 
 
 
 
 
 
ต่อมาในเวลา 19.45 น. ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ก่อนจบกิจกรรมของขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ได้มีการทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์โดยการแปะสติ๊กเกอร์ Vote No บนผ้าดำที่เตรียมไว้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าห้ามในทันที โดยระบุว่าหากมีการแปะสติ๊กเกอร์ Vote No จะเข้าข่ายการชุมนุมทางการเมือง
 
ทั้งได้มีการถกเถียงระหว่างผู้เข้าร่วมกิจกรรม และเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ประมาณ 5 นาที จากนั้นได้มีเจ้าหน้าที่นอกเครืองแบบ 2 คนเข้ามากระชากผ้าผืนดังกล่าวแต่ไม่สำเร็จ ระหว่างนั้นเจ้าตำรวจได้เข้ามาเจรจาเพื่อยุติเหตุการณ์ จากนั้นขบวนการประชาธิปไตยใหม่ได้ยุติการจัดกิจกรรมในวันนี้ พร้อมชี้แจงว่าจะกิจกรรมต่อไปทุกวันโดยขอให้ติดตามรายละเอียดได้ที่เพจเฟซบุ๊กขบวนการประชาธิปไตยใหม่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น