19 มิ.ย. 2559 สำนักข่าวไทย รายงานว่าพ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) เปิดศูนย์ปราบโกงว่าเป็นการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ภายใต้กระบวนการที่จะไม่สร้างความสับสนให้เกิดขึ้นในสังคม เพราะการทำประชามติมีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดูแลอยู่แล้ว รัฐบาลและคสช.ในฐานะที่ดูแลความสงบเรียบร้อย จึงต้องเข้าไปดูแลเพื่อให้เกิดความเรียบร้อย ต้องยอมรับว่านปช.เป็นคู่ขัดแย้งในอดีตและก่อนหน้านี้เคยเคลื่อนไหวจนคสช.ลงนามคำสั่งที่ 39/2557 ห้ามเคลื่อนไหวทางการเมือง
“การตั้งศูนย์ปราบโกงฯมีนัยทางการเมือง เกรงว่าประชาชนอาจตกเป็นเครื่องมือจากการบิดเบือนข้อเท็จจริง รวมทั้งการไปดึงมิตรประเทศมายุ่งเกี่ยวกับการแก้ปัญหาภายในประเทศ ที่อาจเป็นการบ่อนทำลายชาติด้วยซ้ำ การที่เจ้าหน้าที่ลงไปในพื้นที่ และระงับการเคลื่อนไหว ถือว่าเป็นการทำตามอำนาจหน้าที่ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่จะนำไปสู่ความรุนแรง แต่ฝ่ายตรงข้ามพยายามยั่วยุตลอดเวลา จึงจำเป็นต้องขี้แจง เราไม่ต้องการให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง บุคคลใดบุคคลหนึ่งสร้างความเดือดร้อน สร้างความวุ่นวาย แต่ต้องระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งรุนแรง ไม่เช่นนั้นจะเข้าทางเขา จะต้องทำงานภายใต้กรอบของกฎหมาย” พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าว
พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าวว่า คสช.ยังคงติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มที่ยังคงมีความเคลี่อนไหวตลอด และประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพราะแม้ไม่เปิดศูนย์ฯ แต่ยังคงมีความเคลื่อนไหวในสังคมออนไลน์ ซึ่งฝ่ายกฎหมายจะติดตามเฝ้าดู หากพบอะไรที่เกินเลยจากฎหมายจะมีเจ้าหน้าที่ดำเนินกาคร แต่ในส่วนของภูมิภาคนั้น มีผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจ และผู้บังคับการภาค ช่วยกันดูแล ในภาพรวมไม่มีอะไรที่เป็นสัญญาณว่าจะนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรง ซึ่งแกนนำท้องถิ่นให้ความร่วมมือด้วยดี และเชื่อว่าประชาชนในพื้นที่ไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวดังกล่าว
สำหรับการดูแลความเรียบร้อยช่วงก่อนการทำประชามติ 7 สิงหาคม พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าวว่าในช่วงนี้กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ชี้แจงทำความเข้าใจเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ และวิธีการทำประชามติ ทางฝ่ายความมั่นคงได้ติดตามและช่วยดูแลเพื่อนำไปสู่การทำประชามติที่เรียบร้อยต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น