วันพุธที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ประยุทธ์ มอบนโยบายการจัดทำงบฯ แนะไม่ทำอะไรนอกกรอบ จะทำให้คิดอะไรไม่ออก

ที่มา เว็บไซต์ทำเนียบฯ 

14 ธ.ค. 2559 รายงานข่าวจากเว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาลระบุว่า วันนี้ (14 ธ.ค.59)เมื่อเวลา 09.30 น. ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาการเตรียมการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 และมอบนโยบายการจัดทำงบประมาณ โดยมีคณะรัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่นของรัฐ เข้าร่วมงาน
โดยโอกาสนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวมอบนโยบายการจัดทำงบประมาณ ซึ่งเว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาลสรุปสาระสำคัญไว้ดังนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เรากำลังเดินหน้าประเทศในทุกระบบเพื่อไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน เพราะจำเป็นที่จะต้องให้ประเทศมีความยั่งยืนในทุกเรื่องทุกมิติ โดยต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ให้มีความเข้าใจตรงกันเพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างกันให้ได้เร็วที่สุด เพื่อเดินหน้าประเทศไปให้ได้โดยไม่คำนึงถึงตัวตนและวัฒนธรรมองค์กรมากเกินไป ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพทางภูมิศาสตร์ในการเป็นศูนย์กลางของอาเซียน และในอนาคตจะมีโครงการต่าง ๆ ที่สำคัญเกิดขึ้นมากมาย ฉะนั้นเราจะต้องทำงานให้เกิดการประสานสอดคล้องกันให้มากที่สุด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้อยากให้ทุกคนมองอนาคตร่วมกันและทำความเข้าใจกับประชาชนด้วยว่าถ้าเรายังคิดแบบเดิมทำแบบเดิม ทำตามระเบียบข้อบังคับเดิม ๆ ไม่ทำอะไรนอกกรอบ จะทำให้คิดอะไรไม่ออก เพราะติดปัญหาทุกอย่าง ทั้งติดกฎระเบียบที่จำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขให้ทันสมัยให้สามารถดำเนินการได้ โดย 2 ปีที่ผ่านมารัฐบาลได้พยายามแก้ปัญหาด้านกฎระเบียบต่าง ๆ ด้วยการบูรณาการการทำงานทั้งหมด ตั้งแต่เรื่องแผนงาน งบประมาณ วิธีการบริหารจัดการ การแก้ปัญหาร่วมกัน การทำกิจกรรมเดียวกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้สำคัญที่สุดสำหรับประเทศไทยในเวลานี้ นายกรัฐมนตรีจึงอยากให้ทุกคนสร้างความหวัง สร้างอนาคตร่วมกันให้กับประเทศไทย โดยทุกเรื่องขึ้นอยู่กับการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ที่ต้องได้รับความไว้วางใจและการตอบรับจากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ซึ่งรัฐบาลมีสิ่งเดียวที่จะตอบแทนประชาชนได้คือทำให้ประชาชนมีเกียรติยศศักดิ์ศรี มีรายได้เพิ่มขึ้น มีการศึกษาที่ดี มีการสาธารณสุขที่ดีและเพียงพอ ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนวาดหวังเอาไว้ ขณะเดียวกันก็ต้องสร้างความเข้าใจกับประชาชนด้วยว่าการที่จะได้อะไรมาง่าย ๆ นั้นเป็นไปไม่ได้ในโลก จะต้องอาศัยความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจกันทั้งสิ้น ฉะนั้น ภาครัฐจะต้องเป็นผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ดี โดยการคิดนอกกรอบ คิดแบบมีวิสัยทัศน์ และคิดเชิงรุกด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า การจัดทำงบประมาณได้มีการพัฒนาไปเรื่อย ๆ วันนี้ระบบงบประมาณของประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปจากช่วงก่อนที่รัฐบาลนี้จะเข้ามาทำงาน โดยให้มีการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า มีประสิทธิภาพ ลดความซ้ำซ้อน เกิดการบูรณาการอย่างแท้จริง ซึ่งในวันนี้ทุกคนจำเป็นต้องร่วมกันคิด ร่วมกันวางแผนจัดทำงบประมาณปี 2561 ให้ได้ ด้วยการนำปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปีงบประมาณ 2560 มาแก้ไขปรับปรุง พัฒนาเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น ต่อยอดสอดประสานกับงบประมาณใน 2-3 ปีที่ผ่านมาที่ได้ร่วมกันจัดทำมาโดยตลอด รวมทั้งให้คิดทำให้เกิดความเชื่อมโยงกันของทุกภูมิภาคภายในประเทศและกลุ่มจังหวัด เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งเชื่อมโยงกันทั้งประเทศ เพื่อให้ทุกคนมีความสุข รวมทั้งจำเป็นต้องมีการพัฒนาอย่างครบวงจรในทุกเรื่อง ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเกษตร ระบบน้ำ การค้าชายแดน การท่องเที่ยว การพัฒนาเมือง การพัฒนาอุตสาหกรรมสีเขียวที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ความขัดแย้งที่เกิดจากความยากจน การทุจริตผิดกฎหมาย ผู้มีอิทธิพล จะต้องไม่เกิดขึ้นในประเทศไทยอีกต่อไป ซึ่งข้าราชการทุกภาคส่วนจากทุกกระทรวง กรม จะต้องร่วมมือกันทำงานแก้ปัญหาเหล่านี้
พร้อมกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการน้อมนำศาสตร์พระราชามาเป็นศาสตร์ในการบริหารราชการแผ่นดิน ว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ทรงมีรับสั่งกับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ว่าขอให้รัฐบาลทำหน้าที่เพื่อให้ประชาชนมีความสุขให้มากที่สุดในรัชกาลปัจจุบัน โดยให้สานต่อแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ที่ได้ทรงทำมาตลอด 70 ปีที่ผ่านมา ไม่ให้น้อยลงไปกว่าเดิมที่มีอยู่ และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ทรงมีรับสั่งด้วยความห่วงใยในเรื่องสำคัญต่าง ๆ ประกอบด้วย เรื่องการศึกษา การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การสาธารณสุข การเสริมสร้างอาชีพรายได้ พัฒนาคุณภาพชีวิต และจะต้องทำให้ประเทศชาติสงบสุข สันติ ไม่มีความขัดแย้ง ดังนั้น จึงเป็นสิ่งที่พวกเราทุกคนจะต้องสนองพระราชปณิธานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 และใช้ศาสตร์พระราชาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติ ซึ่งรัฐบาลและทุกภาคส่วนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงมีรับสั่งไว้ว่า การพัฒนาประเทศไทยนั้นจำเป็นต้องมีการพัฒนาคู่ขนานกันโดยต้องนำแบบแผนตะวันตกผสมผสานกับตะวันออกเพื่อการพัฒนาที่รอบด้านและยั่งยืน วันนี้จึงต้องนำการพัฒนาทั้งของตะวันตกและตะวันออกมาสู่การปฏิบัติ และต้องเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของประเทศว่าอะไรคือข้อบกพร่องของการพัฒนาประเทศไทยในอดีตที่ผ่านมา เพื่อนำมาสู่การคิด วิเคราะห์ ในปัจจุบัน ศึกษาแล้วนำสู่การปฏิบัติเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านั้น รวมทั้งนำศาสตร์ของพระราชา ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 3 ห่วง 2 เงื่อนไข การใช้จ่ายอย่างมีเหตุผล พอประมาณ มีภูมิคุ้มกันที่ดี ภายใต้ความรู้คู่คุณธรรม มาสู่การปฏิบัติให้ได้ เพราะจะเป็นตัวตั้งที่สำคัญทำให้การพัฒนาไม่ล้มเหลว รวมทั้งจะต้องดูปัจจัยภายในภายนอกของประชาคมโลกและของภูมิภาคในวันนี้ เพื่อการวางแผนจัดทำงบประมาณให้สอดคล้องทั้งภายในประเทศ ประเทศเพื่อนบ้าน และต่างประเทศ ให้ประเทศไทยพัฒนาไปอย่างยั่งยืน
ในตอนท้าย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าในการจัดทำงบประมาณปี 2561 จะเพิ่มเติมให้กลุ่มจังหวัดคิดโครงการที่ไม่เคยทำมาก่อน เพื่อให้เกิดประโยชน์แบบบูรณาการโดยดึงประชาชนเป็นศูนย์กลาง พร้อมกับนายกรัฐมนตรีได้สั่งการมอบหมายให้รัฐมนตรี ปลัดกระทรวง เป็นผู้แต่งตั้งผู้รับผิดชอบในการบูรณาการการปฏิบัติให้ชัดเจนในทุกกระทรวง โดยนายกรัฐมนตรีจะเรียกให้เข้ามาชี้แจงตอบคำถามกับนายกรัฐมนตรีในเรื่องงบประมาณที่ใช้ แผนงานโครงการ ว่าทำเพื่ออะไร เกิดประโยชน์อย่างไร มีความสอดคล้องเชื่อมโยงกับกระทรวงอื่นอย่างไร โดยจะต้องชี้แจงและตอบคำถามนายกรัฐมนตรีให้ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น