วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554


เอกยุทธกัดดะ ด่า : ฝรั่งหน้าโง่
ฝรั่งโต้ : กูไม่กลัวมึง
คณาจารย์ล้านนาจี้ขอขมาสตรีชาวเหนือ-นายกฯ
ภาพประกอบโดย: Gag Las Vegas

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
4 พฤศจิกายน 2554

             วิวาทะร้อนแรงกรณีนายเอกยุทธ อัญชัญบุตร เขียนข้อความกระทบชิ่งนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าเป็นสาวภาคเหนือหน้าโง่ควรคู่กับอาชีพโสเภณีมากกว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี ยังลุกลามต่อไปในวันนี้ โดยเขาได้เปิดศึกกับนักข่าวฝรั่งที่วิจารณ์เขาด้วยข้อกล่าวหา"รับเงินทักษิณ" และบอกว่าเป็น"ฝรั่งหน้าโง่"ทำให้นักข่าวผู้นี้ทำจดหมายเปิดผนึกตอบโต้อย่างเผ็ดร้อน

ดูท่าแล้วโลกนี้อาจเหลือคนฉลาดคือนายเอกยุทธคนเดียวเสียแล้ว

            นายแอนดรูว์ แมคเกรเกอร์ มาร์แชลล์ (Andrew MacGregor Marshall) อดีตผู้สื่อข่าวสำนักข่าวรอยเตอร์ ซึ่งลาออกจากรอยเตอร์เมื่อไม่นานมานี้ เพื่อจะได้มีอิสระในการเปิดเผยข้อมูลลับวิกิลีกส์เกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย ได้เขียนจดหมาเปิดผนึกในบันทึกเฟซบุ๊คของเขาด้วยภาษาไทย และใช้รูปประจำสถานะประจำตัวใหม่ในสไตล์ไทยๆโดยเป็นรูปกำลังยกถ้วยกาแฟที่เขียนไว้ว่า "กูไม่กลัวมึง" โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

Open letter to Akeyuth Anchanbutr

เรียน คุณเอกยุทธ

          ผมรู้สึกสนใจที่ได้อ่านความคิดเห็นล่าสุดบนเพจเฟซบุ๊คของคุณที่คุณได้เรียกผมว่า "ฝรั่งหน้าโง่" และกล่าวหาว่าผมได้รับเงินเพื่อบ่อนทำลายประเทศไทยและใครก็ตามที่ต่อต้านทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวของเขา ดูเหมือนว่าคุณจะไม่พอใจ เพราะผมได้วิพากษ์วิจารณ์ข้อความอันน่าทึ่งของคุณเมื่อเร็ววันนี้ ที่คุณกล่าวว่าสาวเหนือที่ไร้การศึกษาและขี้เกียจนั้นควรจะทำงานขายบริการ และได้บอกเป็นนัยอีกว่านายกรัฐมนตรีของประเทศคุณนั้นควรจะเลือกทำอาชีพนี้

          ผมถือว่าความคิดเห็นเช่นนี้นั้นน่ารังเกียจยิ่ง และผมก็กล่าวไปเช่นนั้น

           วิกฤติทางการเมืองอันซับซ้อนที่ได้แบ่งแยกประเทศไทยในทศวรรษที่ผ่านมานั้นมีหลายมิติ และไม่สามารถทำให้ดูไม่ยุ่งเหยิงโดยง่าย แต่ข้อคิดเห็นของคุณนั้นเป็นตัวอย่างของทัศนคติที่อยู่ในใจกลางของวิกฤตินี้ ชาวไทยบางส่วนเชื่อว่าผู้ที่มีทรัพย์สินและฐานะที่มั่งคั่งนั้น สมควรได้รับความเคารพมากกว่าผู้อื่น มีอำนาจทางการเมืองมากกว่าผู้อื่น และไม่สมควรอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกับผู้อื่น พวกเขาคิดว่ามันเป็นเรื่องสนุกที่จะล้อเลียนและข่มเหงคนจน และปฏิบัติต่อเพศสตรีด้อยกว่าบุรุษ พวกเขาไม่เชื่อในสังคมที่เท่าเทียมกัน พวกเขาเชื่อในสังคมเจ้าขุนมูลนายที่มีพวกเขาอยู่บนยอดสุด

         คนไทยส่วนอื่นนั้นเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนมีสิทธิ์ในการได้รับความเคารพและเกียรติที่เท่าเทียมกัน มีสิทธิ์ที่จะได้รับการนับคะแนนเสียงทางประชาธิปไตย และมีสิทธิ์ที่จะได้รับการปฏิบัติภายใต้กฎหมายเท่าๆกัน พวกเขาเชื่อในสังคมประชาธิปไตยที่เท่าเทียม ซื่อสัตย์ ไม่มีสองมาตรฐาน

         ผมได้ลาออกจากงานที่รอยเตอร์ในเดือนมิถุนายนของปีนี้ หลังจากที่ใช้เวลา 17 ปี เป็นผู้สื่อข่าวนานาชาติ เพื่อที่ผมจะได้เขียนเกี่ยวกับประเทศไทยอย่างเปิดเผยและซื่อตรง ผมทำเช่นนี้เพราะผมรักประเทศไทยจากใจจริง และผมเชื่อว่าประเทศไทยนั้นมีศักยภาพมหาศาลเมื่อแก้ไขปัญหาทางการเมืองในปัจจุบันแล้ว ผมยังเชื่ออีกว่าประชาชนชาวไทยนั้นมีสิทธิที่จะได้รับรู้ความจริงเกี่ยวกับการเมืองและประวัติศาสตร์ของพวกเขา แทนที่จะเป็นคำโกหกที่คนที่มีอำนาจมักจะชอบกล่าว 

         ไม่มีใครจ่ายเงินให้ผมทำสิ่งนี้ และแน่นอน การทำแบบนี้นั้นเป็นการเสียสละทางการเงินพอสมควร แต่ผมก็รู้สึกยินดีกับการตัดสินใจนี้ เพราะผมเชื่อว่าคุณธรรม ความซื่อสัตย์ และการช่วยเหลือผู้อื่นนั้นมีความสำคัญและมีค่ามากกว่าเงิน

            มันน่าผิดหวังที่ได้เห็นคุณได้กล่าวอ้างอย่างผิดๆ ว่าผมได้รับเงินมาเพื่อบ่อนทำลายประเทศไทย บางทีคุณอาจอธิบายได้ - อะไรที่ผมเขียนได้สร้างความเสียหายให้แก่ประเทศไทย? มันดูแปลกสำหรับผมที่ความจริงนั้นเป็นสิ่งที่อันตรายได้ขนาดนี้ และอีกข้อคือ คุณมีหลักฐานอะไรที่จะมาพิสูจน์คำกล่าวอ้างของคุณที่ว่าผมได้รับเงินจากศัตรูของประเทศไทย? ผมรู้คำตอบสำหรับคำถามนี้: คุณไม่มีหลักฐาน เพราะมันไม่มีหลักฐาน เพราะว่ามันไม่ใช่ความจริง

            ผมเคยคิดว่าคนที่มีภูมิหลังอย่างเช่นคุณจะใช้ความระมัดระวังมากกว่านี้ ก่อนที่จะพยายามป้ายสีผู้อื่น ในเมื่อภูมิหลังส่วนตัวคุณนั้นดูน่าสงสัยเป็นอย่างยิ่ง เป็นที่รู้กันอย่างกว้างขวางว่าบริษัทชาร์เตอร์อินเวสต์เมนต์ของคุณนั้นเป็นธุรกิจแชร์ผิดกฎหมาย คนไทยธรรมดาหลายๆคนนั้นถูกทำลายชีวิตลงเมื่อบริษัทล้มละลายไปในปีพ.ศ. 2526 ในขณะคุณหลบหนีไปยังสหราชอาณาจักรและใช้ทรัพย์สินที่คุณขโมยมาจัดตั้งเครือร้านค้า คุณรอเวลา 20 ปีเพื่อที่คดีความจะหมดอายุ และคุณก็กลับมายังประเทศไทย

          ในตอนนี้ดูเหมือนคุณจะเชื่อว่าคุณมีสิทธิที่จะออกความเห็นชี้ขาดทางศีลธรรมเกี่ยวกับผู้อื่น และไม่ควรมีใครมาวิพากษ์วิจารณ์คุณ ผมไม่เห็นด้วย

           ประชาชนของประเทศไทย รวมไปถึงประชาชนทางเหนือและทางใต้และทุกๆจังหวัด นั้นเฉลียวฉลาดพอที่จะตัดสินได้สำหรับตัวพวกเขาเอง พวกเขาสามารถอ่านความคิดเห็นของคุณ และอ่านคำตอบของผม และตัดสินว่าใครคือศัตรูตัวจริงของความเจริญ ความซื่อสัตย์ และประชาธิปไตยในประเทศไทย

ด้วยความจริงใจ

Andrew MacGregor Marshall

คณาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งล้านนาประนามเอกยุทธ
กดดันต้องขอขมาต่อสตรีชาวเหนือ-นายกฯยิ่งลักษณ์


           คณาจารย์ของมหาวิทยาลัยแห่งล้านนา นำโดย ศ.ดร. ธเนศวร์ เจริญเมือง ได้ออกแถลงการณ์ของมหาวิทยาลัยแห่งล้านนา ประนามทัศนะของนายเอกยุทธ อัญชัญบุตร ที่ดูหมิ่นสตรีล้านนาและนายกรัฐมนตรีหญิงของไทย พร้อมเรียกร้องให้นายเอกยุทธจะต้องกล่าวขอขมาต่อสตรีชาวเหนือ ต่อนายกรัฐมนตรี และต่อประชาชนไทยอย่างเป็นทางการ พี่น้องคนไทยจะต้องร่วมกันคัดค้าน อย่าให้ทัศนะที่ผิดพลาดร้ายแรงครั้งนี้ดำรงอยู่อีกต่อไปในสังคมไทย

โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

แถลงการณ์ของมหาวิทยาลัยแห่งล้านนา
เรื่อง:ขอประนามทัศนะของนายเอกยุทธ อัญชัญบุตร
ที่ดูหมิ่นสตรีล้านนาและนายกรัฐมนตรีหญิงของไทย


          จากกรณีที่นายเอกยุทธ อัญชัญบุตร ออกมากล่าวเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2554 นี้ ว่า


           “ ไม่อยากจะกล่าวคำแบบนี้ เพราะจะดูเสมือนดูถูกสตรี..แต่ในความเป็นจริงนั้น...สาวเหนือที่ไร้การศึกษาหรือขี้เกียจ และด้อยปัญญา จะมาทำงานสบายที่หญิงปกติไม่ทำกัน..หลักๆก็คือขายบริการ..ฉะนั้นสาวเหนือที่ไร้สติปัญญาและโง่เขลาขนาดหนักแต่หน้าด้านมารับตำแหน่ง ก็ควรจะรู้นะว่าอาชีพอะไรที่เหมาะแก่คุณ ?...” และ...

         “ ตำแหน่งนายกฯ นั้น ไม่ใช่ของครอบครัว..และไม่ใช่ที่ฝึกหัดงาน..หากไร้ปัญญาก็อย่าหน้าด้านมารับตำแหน่ง......"

           เรา คณาจารย์ของมหาวิทยาลัยแห่งล้านนา รู้สึกเศร้าสลดใจเป็นอย่างยิ่ง คิดไม่ถึงว่าจะมีคนไทยคนใดออกมากล่าวถ้อยคำเช่นนี้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามที่ประชาชนไทยหลายล้านคน โดยเฉพาะในเขตภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคใต้ ต้องประสบปัญหาจากภัยน้ำท่วมที่รุนแรงที่สุดในรอบศตวรรษ

ข้อที่หนึ่ง ถ้อยคำของนายเอกยุทธที่ดูหมิ่นเหยียดหยามสตรีภาคเหนือว่า คนที่ไร้การศึกษา หรือคนที่ขี้เกียจ และด้อยปัญญา ชอบงานสบายคือการขายตัว นั้นไม่เป็นความจริงเพราะ

          1. สตรีภาคเหนือก็เหมือนสตรีภาคอื่นๆทั่วโลก นั่นคือ เป็นคนมีสติปัญญา ต่อสู้ดิ้นรน ไม่กลัวงานหนัก รักครอบครัว รับผิดชอบต่อครอบครัวและส่วนรวม

          ในสังคมไทยยุคก่อนที่ประเพณีการแต่งงาน คือชายเข้าไปอยู่บ้านของฝ่ายหญิง และสังคมไทยไม่มีนามสกุล ทำให้หญิงกับชายมีฐานะและศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน ต่างคนต่างช่วยกันทำงานสร้างครอบครัวและสร้างสรรค์สังคม กระทั่งในหลายกรณี หญิงมีบทบาทมากยิ่งกว่าชาย สตรีในสังคมเช่นนี้มีบทบาทโดดเด่น แตกต่างจากสังคมบางแห่งที่ยกย่องให้ชายเป็นใหญ่ และกดขี่หญิงให้เป็นเช่นทาส ไร้สิทธิไร้เสียง

          2. ในรอบกึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ระบบเศรษฐกิจการค้าเสรีที่ขยายตัวได้กระตุ้นให้เกิดการค้าโสเภณี มีการล่อลวงหญิงจากต่างจังหวัดเข้าไปเป็นโสเภณีในเขตเมืองหลวงและลามออกไป

การกล่าวว่าสตรีภาค เหนือขี้เกียจ โง่เขลา และชอบงานสบายเลยไปขายตัว
จึงเป็นการโป้ปดและดูถูกกันอย่างรุนแรง


            3. โลกทุนนิยมเสรีทุกวันนี้ยังคงมีการหลอกลวงและบีบบังคับสตรีจากทุกสังคมให้เข้าสู่ธุรกิจการขายตัว ซึ่งไม่ได้มีเฉพาะภาคเหนือ

            สตรีชาวเหนือมีปัญญา ไม่เคยเกี่ยงงาน หาเงินเลี้ยงครอบครัวในทุกสาขาอาชีพ ขณะที่เขียนแถลงการณ์นี้ ก็มีสตรีชาวเหนือจำนวนหลายคันรถที่สละเวลาไปช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมในภาคกลางและกรุงเทพฯ คนที่ไปไม่ได้ก็ช่วยกันบริจาคสิ่งของตามจุดต่างๆในแทบทุกอำเภอของภาค

ข้อที่สอง การที่นายเอกยุทธกล่าวในทำนองนายกฯหญิงของไทยไร้สติปัญญา และโง่เขลาอย่างมาก ทั้งหน้าด้านมารับตำแหน่ง และกล่าวว่าน.ส. ยิ่งลักษณ์น่าจะรู้ว่าอาชีพอะไรเหมาะกับตัวเอง จึงไม่ใช่เพียงการดูถูกสตรีชาวเหนือคนนี้ หากยังเป็นการดูถูกประชาชนไทยส่วนใหญ่ว่าโง่เง่าที่เลือกน.ส. ยิ่งลักษณ์ให้เป็นนายกรัฐมนตรี และดูถูกสติปัญญาของคนไทยทั้งประเทศ ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาที่ยังคงยินยอมให้เธอบริหารประเทศต่อไปในฐานะนายกรัฐมนตรี

นี่เป็นทัศนะที่ต่ำทรามและไม่สร้างสรรค์อย่างที่สุด

            คำกล่าวของนายเอกยุทธ ช่วยเปิดด้านที่หยาบช้าและเลวร้ายในสติปัญญาของคนกลุ่มหนึ่ง ที่ต้องการดิสเครดิตผู้นำของรัฐบา ลและหวังสร้างความปั่นป่วนในสังคม เอาปัญหาอคติทางเพศ ปัญหาสังคม และปัญหาการเมืองมาพันกัน หวังทำลายสังคมการเมืองแบบประชาธิปไตยในปัจจุบัน ด้วยการด่ากราดสตรีชาวเหนือและหมิ่นแคลนนายกรัฐมนตรี

ทั้งๆที่ทุกๆฝ่ายควรจะช่วยกันแก้ไขวิกฤตปัญหาน้ำท่วมให้มากที่สุด

         คณาจารย์ของมหาวิทยาลัยแห่งล้านนา ขอประณามคำกล่าว และทัศนะของนายเอกยุทธ อัญชัญบุตรในครั้งนี้ ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมกันประณามทัศนะกดขี่ทางเพศ ทัศนะที่ดูถูกประชาชนในระบอบประชาธิปไตย และทัศนะที่ดูถูกเหยียดหยามและเหยียบย่ำคนที่เป็นผู้นำของประเทศ

         นายเอกยุทธจะต้องกล่าวขอขมาต่อสตรีชาวเหนือ ต่อนายกรัฐมนตรี และต่อประชาชนไทยอย่างเป็นทางการ พี่น้องคนไทยจะต้องร่วมกันคัดค้าน อย่าให้ทัศนะที่ผิดพลาดร้ายแรงครั้งนี้ดำรงอยู่อีกต่อไปในสังคมไทย.

คณาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งล้านนา

รศ.ดร. รังสรรค์ จันต๊ะ
อ. สมชาย ประทุมเมศร์
อ. สุทธิวัฒน์ วงศ์รังสรรค์
อ. ภูรินทร์ เทพเทพินทร์
อ. วัชระ ศรีสรรค์
อ. สมจินต์ รักยุติธรรม
อ.พลดี มงคล
ศ.ดร. ธเนศวร์ เจริญเมือง

3 พฤศจิกายน 2554

************
เรื่องเกี่ยวเนื่อง:คุณยายเสื้อแดง-คำผกาจัดหนัก-สตรีล้านนาเอาเรื่องแจ้งจับ โดนเข้ามั่งเอกยุทธแหกปากโวยกระทบสิทธิ
http://redusala.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น