วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ทีมทนายพรรคประชาธิปัตย์แฉ! "ปูเค็มเล่นตัว" ไม่ยอมออกจากโรงพักเอง หวังระดมมวลชนปิดโรงพักกดดันตำรวจไม่แจ้งข้อหา

ผู้กองปูเค็ม


ทีมทนายพรรคประชาธิปัตย์แฉ! "ปูเค็มเล่นตัว" ไม่ยอมออกจากโรงพักเอง หวังระดมมวลชนปิดโรงพักกดดันตำรวจไม่แจ้งข้อหา



วันที่ 12 กรกฏาคม 2556 (go6TV) ทีมทนายพรรคประชาธิปัตย์แฉปูเค็มเล่นตัวไม่ยอมออกจากโรงพัก เปรย “บางทีปูเค็มต้องเรียนรู้เอง”

ไอดีเฟสบุ๊คของนางซินเธีย เอี่ยมสะอาด แกนนำกลุ่มประชาชนทนไม่ไหว และทีมงานกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ได้เขียนข้อความเผยแพร่บนเฟสบุ๊ค เล่าถึงการเข้าพบ “ผู้กองปูเค็ม” โดยทีมทนายของพรรคประชาธิปัตย์   โดยพยายามเกลี้ยกล่อมให้เรื่องราวจบลงด้วยดี แต่ทาง “ผู้กองปูเค็ม” ไม่ต้องการมีข้อหาใดๆทั้งสิ้น และเชื่อว่า จะมีมวลชนจำนวนมากมาล้อมโรงพัก สน.พระราชวังและตนจะได้รับการปล่อยตัวโดยปราศจากข้อหา  แต่นางซินเธียและทีมทนายจึงเปรยว่า “อยากให้ผู้กองได้เรียนรู้ว่า การรอคอยนั้นบางครั้งมันไม่มีใครมา”

ล้อมวงมา จะเล่าให้ฟัง เรื่องดัง ผู้กองปูเค็มถูกจับ !

ตามที่พวกเราตามข่าวมาตั้งแต่สายๆ ดิชั้นประสานงานไปทางผู้ใหญ่ ได้จัดส่งทนายคือน้องมิ้นท์ ซึ่งเป็นทนายคนเดียวกับที่ช่วยวิ่งเต้นให้ผู้โดนแก๊สน้ำตาเมื่อคราวม๊อบเสธ.อ้าย

 ทนายเดินทางไปถึงสถานี พระราชวังประมาณบ่ายโมงกว่าๆ ก็ได้คุยกับตำรวจเจ้าของคดีทราบว่า ทางสถานีไม่ได้ต้องการแจ้งข้อหาอะไรกับผู้กองปูเค็ม แต่ว่าคนที่นำผู้กองปูเค็มมาส่งคือ ตำรวจปราบจราจล ดังนั้นทางสถานีจำเป็นจะต้องแจ้งข้อหาฝ่าฝืนการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน และสอบปากคำผู้กองปูเค็ม และอาจมีพิมพ์ลายนิ้วมือ (อันนี้ไม่แน่ใจ) แล้วก็จะปล่อยผู้กองปูเค็มกลับโดยที่ไม่ต้องทำเรื่องประกันตัว

นั้นคือเรื่องที่ดิชั้นทราบก่อนเดินทางไปถึงสถานี

 ดิชั้นเดินทางไปถึงสถานีประมาณบ่ายสามโมงพร้อมด้วยพี่ที่นับถือที่คอยประสานทนายความให้และเจ้าเดียวน้องในกลุ่ม ภายในห้องที่ผู้กองผู้เค็มนั่งอยู่ ก็มีคนอยู่ประมาณเกือบยี่สิบคน ดิชั้นก็ไม่ได้ทราบในทันทีว่าใครเป็นใคร เพราะเพียงแต่กำลังสนใจว่าเรื่องราวไปถึงไหน ก็ได้เห็นคุณไชยวัฒน์ อาจารย์บวร และอีกสองท่านที่ดิชั้นจำชื่อไม่ได้ กำลังนั่งคุยกับผู้กองอยู่ ดิชั้นได้มองไปรอบๆก็พบผู้คนที่เคยพบตามการชุมนุมในสถานที่ต่างๆบ้าง ก็ทักทายกันนิดหน่อย

 จากการเห็นท่าทีของผู้กองปูเค็มในเวลานั้นคือ ผู้กองต้องการออกจากสถานีตำรวจอย่างไร้ข้อกล่าวหา และถ้าต้องมีการเสียค่าปรับ ผู้กองก็จะไม่ยอมเช่นเดียวกันแม้ว่าจะมีใครออกเงินเสียค่าปรับให้ก็ตาม และผู้คนมากมายก็ต่างพูดต่างวิจารณ์ไปต่างๆนาๆ ดิชั้นและพี่ที่ไปด้วยจึงเดินขึ้นไปหาทนายที่ห้องร้อยเวร และได้รับทราบเรื่องราวเหมือนเดิมคือ ทางสน.พระราชวังเองไม่ได้ติดใจอะไร แต่โดยหน้าที่ต้องลงบันทึกประจำวัน เพราะคนที่ส่งตัวผู้กองปูเค็มมาที่สน.คือตำรวจปราบจราจล ทางสน.ก็ต้องแจ้งข้อหาคือ ฝ่าฝืนการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงาน ซึ่งดิชั้นและพี่ที่ไปด้วยเลยขอให้น้องทนายลงไปอธิบายให้ผู้กองปูเค็มเข้าใจ

 น้องทนายและพี่ที่มากับดิชั้นเดินเข้าไปในห้องที่ผู้กองปูเค็มอยู่ ส่วนดิชั้นหยุดคุยกับบน้องที่รู้จักกันที่หน้าห้อง สักแป๊ปเดียว พี่ที่มากับดิชั้นก็เดินออกมาแล้วบอกว่า “น้องซินเทียต้องเข้าไปกับพี่ เพราะพอพี่เดินเข้าไป” มีผู้หญิงพูดขึ้นมาว่า "นี่เป็นทนายของประชาธิปัตย์นี่ แบบนี้ไม่เอา เพราะพวกเรา 13 สยามไทย " ดิชั้นอึ้ง แต่ก็เดินเข้าไปกับพี่เค้าทันที แต่ไม่มีใครพูดอะไร น้องทนายก็กำลังอธิบายให้ผู้กองฟังว่ามีทางเลือกอย่างไรบ้าง ในทางกฏหมาย แต่โดยสรุปคือผู้กองปูเค็มยืนยันที่จะออกจากสถานีโดยไม่มีข้อกล่าวหาเหมือนเดิม และอยากพบ ผบ.ชน. และทางสถานี 13 สยามไทยก็อยากที่จะถ่ายการสัมภาษณ์ ผู้กองออกอากาศ และคนในห้องก็พูดจาแบบรู้กฏหมาย หลากหลายกันไป ส่วนผู้กองก็คาดหวังมาจะมีคนเดินทางไปที่สถานีอีกหลายคน แต่ดิชั้นต้องการให้ผู้กองทำตามที่ทนายแนะนำ แต่ถ้าผู้กองตัดสินใจที่จะอยู่ต่อ ดิชั้นก็เลยต้องขอเดินออกมา เพราะอยากให้ผู้กองได้เรียนรู้ว่า การรอคอยนั้นบางครั้งมันไม่มีใครมา

เมื่อดิชั้นออกมา เช็คเฟสบุ๊ค และมีคนอินบ๊อกเข้ามา เห็นโพสชักชวนคนไปที่สถานี โดนอ้างว่า เสธ.อ้ายมาเอง ให้ไปพบกันที่ สน.ตอนหกโมงเย็น พวกเรายกโทรศัพท์ถึงเสธ.อ้ายทันที ท่านบอกว่าช่วยแจ้งหน่อยว่า ท่านไม่ได้ข้องเกี่ยวอะไรทั้งสิ้น

เมื่อตอนสามทุ่ม ดิชั้นโทรศัพท์ไปเช็คกับน้องที่ยังอยู่ที่สน. น้องบอกว่า กำลังจะกลับเหมือนกัน เพราะคนก็มีไม่ถึง 50คน ไม่ได้มาเพิ่มมากขึ้น ผู้กองก็คงต้องนอนที่สถานี ตามที่ต้องการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น